บทสัมภาษณ์ของซอฮยอน กับการแสดงใน 'Mama Mia!' มิวสิคัล <ในบทบาทของโซฟี่>

ไอดอลที่เต็มไปด้วยความรักและตั้งใจในการทำงาน เธอผู้ที่เขียนไดอารี่และร้องเพลงขณะที่วิ่งอยู่บนลู่วิ่งออกกำลังกาย

โซฟี่ จากเรื่อง Mamma Mia! ที่เป็นที่รู้จักกับใครต่างๆมากมายด้วยบทบาทเดียวกัน ที่มี Amada Seyfried รับบทหญิงสาวที่กล้าหาญอย่างโซฟี่ ซอฮยอน วงโซนยอชิแด ได้รับบทโซฟี่ หญิงสาวที่เปี่ยมไปด้วยความทะเยอทะยานและไอเดียสุดเก๋ เธอได้เชิญชาย 3 คน ที่มีแนวโน้มว่าจะเป็นคุณพ่อของเธอมางานแต่งงาน โดยที่คุณแม่ของเธอไม่ทราบเรื่องมาก่อน

ซอฮยอน ผู้ที่ปกติมีภาพลักษณ์ที่ดูใจเย็นและสงบเสงี่ยม เธอได้พลิกบทบาทจากละครคลาสสิคมาสู่บทบาทหญิงสาวที่กล้าหาญ การที่เธอได้รับบทครั้งนี้ไม่ใช่เพราะชื่อเสียงหรือการเป็นไอดอลของเธอ แม้ว่าเธอจะรับบทที่มีคนแสดงบทเดียวกันถึงสามคน แต่เธอก็ยังเป็นไอดอลคนเดียวที่สามารถเอาชนะการออดิชั่น เป็น 1 ใน 350 คน

หนึ่งสาเหตุที่ซอฮยอนผ่านการออดิชั่นก็เพราะ 'ความรักความปรารถนา' ของเธอ โดยซอฮยอนได้ทำไดอารี่ของคุณแม่ อย่างดอนน่าขึ้นมาและซ้อมมัน เราจะเล่าเรื่องราวของ Mamma Mia! ตามแบบฉบับของซอฮยอน และอ๊คจูฮยอน ที่ปรึกษาและพี่สาวคนสนิท รวมไปถึงการพูดคุยเกียวกับมุมมองในฐานะไอดอลที่เป็นนักแสดงของซอฮยอน


Q: เราได้ยินมาว่าคุณถึงกับทำไดอารี่ของดอนนี่ ที่เป็นคุณแม่ของโซฟี่ เพื่อการออดิชั่นเลย
ซอฮยอน: ฉันชอบเรื่องราวของ Mamma Mia! มากๆค่ะ แล้วก็หวังว่าจะมีโอกาสมาออดิชั่น นอกเหนือจากการคิดถึงการได้รับบมนี้แล้ว ฉันก็รู้สึกชอบมากๆค่ะที่ตัวเองสามารถมาร่วมการออดิชั่นได้ แต่ฉันไม่ได้แค่อยากออดิชั่น แต่เรื่องนี้ในฉบับมิวสิคัลนั้นเริ่มต้นจากไดอารี่ของคุณแม่นะคะ ตอนแรกฉันเขียนไดอารี่ใส่แผ่นกระดาษ แต่ฉันก็มานั่งคิดแล้วก็สงสัยค่ะว่า "หน้าตาไดอารี่ของดอนน่าจะเป็นยังไงนะ?" เลยจบลงที่ฉันทำไดอารี่ขึ้นมาหนึ่งเล่มค่ะ "หากนี่เป็นไดอารี่ของคุณแม่แล้ว ฉันจะอ่านมันยังไงนะ"

Q: ตัวละครโซฟี่นั้นมีความใจกล้าอยู่ คุณมีนิสัยแบบนั้นบ้างหรือเปล่า?
ซอฮยอน: ฉันคิดว่าฉันไม่ค่อยมีโอกาสได้แสดงความเป็นตัวของฉันหรือนิสัยของฉันออกสื่อเท่าไหร่นะคะ เวลาไปออกรายการวาไรตี้ ฉันก็ไม่ค่อยเผยตัวตนของฉันค่ะ ฉันเป็นคนที่มีนิสัยหลายด้านนะคะ แล้วก็ไม่ค่อยเผยให้เห็นสักเท่าไหร่ แต่นี่คงเป็นข้อดีของมันด้วย ถ้าฉันเผยด้านใดสักด้านของฉันออกไป ผ่านการขยายของตัวละครบทนั้นๆ ทุกคนคงแปลกใจไม่น้อยแล้วก็คิดว่า 'ซอฮยอนมีด้านนี้ด้วยหรอ?' ถ้าหากฉันเริ่มสนิทกับใครแล้วคนนั้นยังไม่รู้จักฉันดีสักเท่าไหร่ บางทีพวกเขาก็แปลกใจเหมือนกันค่ะ แล้วก็บอกว่า "เธอมีด้านนี้ด้วยหรอ?" ในรายการทีวี ฉันไม่ค่อยพูดสักเท่าไหร่ ทำให้ดูมีภาพลักษณ์ที่เป้นคนเงียบๆ คิมกึมนาออนนี่ อีกหนึ่งนักแสดงที่รับบทโซฟี่ พี่เขามักจะบอกกับฉันเสมอค่ะ ว่า "ฉันคิดว่าเธอเป็นคนเงียบๆเสียอีก แต่เธอก็มีเสน่ห์ที่น่าสนใจนะ ฉันคิดว่าถ้าคนอื่นรู้จักด้านนี้ของเธอด้วยก็คงดีนะ" ที่หลังเวที ถ้าหากดอนน่ากำลังท่องบทของเธออยู่ ฉันก็จะแกล้งไปเล่นเป็นแซมค่ะ


Q: ตอนละครเวที Moon Embracing the Sun เราได้สัมภาษณ์ คยูฮยอน วงซุปเปอร์จูเนียร์ ตอนนั้นคยูฮยอนบอกว่า ถ้าหากเปรียบเทียบกันระหว่างการเดบิวต์มิวสิคัล ของซอฮยอนนั้นดีกว่าของเขา
ซอฮยอน: ฉันรู้สึกขอบคุณมากเลยค่ะ พอได้ยินแบบนี้แล้วก็รู้สึกตัวเองมีความรับผิดชอบเยอะมากๆ *หัวเราะ* ฉันคิดว่าคยูฮยอนอปป้าเก่งกว่าฉันเยอะเลยนะคะ เขาเลยทำให้ฉันอยากจะทำสิ่งที่ฉันอยู่ตอนนี้ให้ดียิ่งขึ้นต่อไป

Q: ในฐานะนักแสดง มีคำแนะนำอันไหนไหมที่ช่วยเราได้อย่างมาก หรือเป็นคำที่รุ่นพี่บอกเรา แล้วมีคำแนะนำอันไหนที่คุณยึดติดเก็บมาใช้ตลอดไหม
ซอฮยอน: อ๊คจูฮยอนออนนี่เคยแนะนำฉันค่ะว่า "อย่าพยายามที่จะร้องเพลง การพยายามร้องเพลงเป็นปัญหาอย่างนึงของนักร้องที่พยายามจะร้องเพลงออกมาดี แต่กับมิวสิคัลแล้ว เราต้องแสดงด้วย แล้วเมื่ออารมณ์พัดพาไปถึงจุดนึงเมื่อเราเติมทำนองมันจะกลายเป็นการร้องเพลงเอง อย่าคิดแบ่งแยกมัน ไม่ใช่การที่แสดงด้วยร้องด้วย" จากคะแนะนำของออนนี่ ฉันได้เรียนรุ้ระหว่างการร้องเพลงในฐานะนักร้องค่ะ การแมชท์พลังของเรากับคนดูเป็นอะไรที่สำคัญนะคะ ในมิวสิคัลเราต้องจัดลำดับความสำคัญของอารมณ์ค่ะ ตอนแรกคำแนะนำจากออนนี่ก็ดูเป็นอะไรที่ยากค่ะ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ฉันก็รับรู้ได้ค่ะว่าคำแนะนำของออนนี่เป็นอะไรที่ถูกต้องแล้ว


Q: สองหัวใจ หนึ่งความคิด อ๊คจูฮยอนได้พูดถึงซอฮยอนในบทสัมภาษณ์ของเธอสำหรับ Mata Hari ด้วย
ซอฮยอน: *หัวเราะ* หลังจากได้ชมงานของออนนี่แล้ว ฉันก็อยากจะแสดงมิวสิคัลเลยค่ะ ออนนี่เป็นคนที่น่าชื่นชมและเท่มากๆค่ะ ตอนที่ฉันได้เห็นออนนี่เป็นยังไงเวลาไม่ได้อยู่บนเวทีแล้ว ฉันได้เรียนรู้การดูแลตัวเองผ่านเธอค่ะ ตอนที่ออนนี่กำลังแสดง เธอจะรวบรวมแบบของเธอสำหรับการแสดง สำหรับนักแสดงมิวสิคัลแล้ว คอเป็นอะไรที่สำคัญที่สุดค่ะ ฉะนั้นเวลาที่ออนนี่แสดง เธอจะไม่ไปพบปะใครเยอะแยะค่ะ เพื่อเป็นการเซฟสุขภาพคอและเสียงของเธอเอง และเพื่อเป็นการทำให้ตัวเองแข็งแรง ฉันให้ออนนี่เล่นทั้งบัลเลต์, โยคะ, และไพเรตค่ะ จูฮยอนออนนี่เคยบอกฉันค่ะว่า "แม้ว่าเธอจะแสดงการแสดงครั้งที่ร้อยหรือพัน แต่ในทุกรอบจะมีคนดูที่เพิ่งมาดูละครเวทีนี้เป็นครั้งแรก สำหรับคนเหล่านั้นแล้ว เธอต้องตั้งใจแสดงในทุกๆครั้ง แสดงอยราวกับว่านี่เป็นการแสดงครั้งแรกของเธอ" และตอนนี้ฉันได้มายืนอยู่บนเวทีมิวสิคัลแล้ว ฉันคิดว่าฉันสามารถเอาคำพูดเหล่านั้นมาใช้ได้ค่ะ

Q: พอเห็นตารางการดูแลตัวเองของอ๊คจูฮยอนแล้ว ตัวคุณเองดูแลตัวเองอย่างไร?
ซอฮยอน: วันไหนที่ต้องแสดง ฉันจะพยายามเลี่ยงการพบปะผู้คนเท่าที่ทำได้ค่ะ เพราะเป็นการเก็บเสียงจัวเองไว้ เพราะหากเราเจอกับคนแล้ว ก็เป็นเรื่องยากที่จะไม่ใช้เสียงค่ะ การนอนช่วยเรื่องเสียงนะคะ ฉะนั้นคืนก่อนแสดงฉันจะเข้านอนเร็วค่ะ การทำให้ร่างการแข็งแกร่งเป็นเรื่องที่สำคัญเช่นกัน ฉันเลยจะไปออกกำลังกายวิ่งบนลู่วิ่งแล้วก็ร้องเพลงไปด้วยค่ะ


Q: ถ้านับรวม Mamma Mia! ด้วย คุณก็แสดงมิวสิคัลมา 3 เรื่องแล้ว คุณคงเข้าใจและเข้าถึงบทของตัวละครนั้นๆได้ดียิ่งขึ้น
ซอฮยอน: ฉันคิดว่าการเข้าถึงบทให้ได้อย่างถ่องแท้เป็นอะไรที่สำคัญนะคะ ฉะนั้นตอนแรกมิวสิคัลเรื่องแรก อย่าง Moon Embracing the Sun ฉันก็ไปอ่านนิยายเรื่องนั้นก่อนค่ะ แล้วพอได้สคริปบทมาแล้ว ฉันก็จะเช็คบทของยอนอูที่ฉันแสดง ควบคู่กับบทในนิยายแล้วไฮไลท์ไว้ค่ะ เพื่อเข้าใจตัวละคร หลังจากอ่านสคริปหมดแล้ว ฉันก็พยายามจะดึงลักษณะนิสัยของตัวฉันที่เข้ากับบทนั้นๆออกมาค่ะ

Q: หากคุณอ่านนิยาย Moon Embracing the Sun เพื่อที่จะเข้าถึงบทยอนอู งั้นคุณก็คงเคยชมภาพยนตร์ Mamma Mia! ที่ Amanda Seyfried ร่วมแสดง
ซอฮยอน: ตอนที่ฉันกำลังชมภาพยนตร์อยู่ ฉันก็ต้องระวังค่ะ เพราะว่าโซฟี่ที่ฉันแสดงกับโซฟี่ที่ Amanda Seyfried แสดง ต้องออกมาไม่เหมือนกัน ฉันเลยพยายามอย่างหนักเพื่อที่จะไม่ซึมซับโซฟี่ในภาพยนตร์ค่ะ แต่ฉันดูเพราะเพื่อที่จะฝึกภาพลักษณ์และดูความสวยงามจากฉากเมืองกรีซ แสดงแดดที่สดใสและทรายที่สวยงาม ฉันจะโฟกัสเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างคุณแม่ดอนนี่และคุณพ่อทั้งสามมากกว่าค่ะ


Q: โซฟี่ในเวอร์ชั่นของซอฮยอนเป็นยังไง?
ซอฮยอน: คงเป็นโซฟี่สัญชาติเกาหลีค่ะ *หัวเราะ* ไม่เหมือนกัน Amanda Seyfried เวอร์ชั่นภาพยนตร์ ฉันจะแสดงให้เห็นถึงโซฟี่ที่มีความกล้าหาญและไหวพริบค่ะ

Q: เพลงในมิวสิคัลนี้ไม่แต่งขึ้นมาเพื่อการแสดงมิวสิคัล แต่ประกอบไปด้วยเพลงจาก ABBA ที่เป็นวงของสวีเดน?
ซอฮยอน: ไม่ได้เป็นแค่เพลงที่แต่งมาเพื่อมิวสิคัล แต่เพลงของ ABBA ได้รับความชอบความนิยมกว่า 40 ปี ทั่วโลกนะคะ ฉันก็อยากเป็นอย่าง ABBA นะคะ ที่ได้รับความรักจากเพลงที่ทำแม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ความสุขที่สุดของการเป็นนักร้องคงเป็นการที่เพลงของเราได้รับความรักเป็นเวลานาน จากรุ่นสู่รุ่น ฉันก็อิจฉานะคะ แต่มันก็เป็นการกระตุ้นการกระกายการร้องเพลงของฉันแบบนี้ในอนาคตด้วยค่ะ


Q: กระแสตอบรับจากแฟนๆต่างประเทศบน SNS ของคุณเป็นยังไงบ้าง?
ซอฮยอน: แฟนๆทราบดีค่ะว่าฉันมีความสุขเวลาที่ได้แสดงมิวสิคัล พวกเขาให้กำลังใจฉันผ่าน SNS ครั้งนึงแฟนๆคอมเมนท์บอกว่า "ฉันเป็นแฟนคลับของเธอนะ แต่ก็กังวลว่าเธอจะแสดงออกมาได้ดีหรือเปล่า หลังตากที่ได้เจอเธอแล้ว มันเป็นอะไรที่เซอร์ไพรส์มากเลย" หลังจากอ่านคอมเมนท์นั้นแล้วฉันก็รู้สึกกขอบคุณมากๆค่ะ ฉันยังรู้สึกซึ้งกับแฟนๆที่คอมเมนท์ว่า "ฉันเชียร์เธอนะ ไม่ใช่ในฐานะนักร้อง แต่ในฐานะที่ฉันเป็นแฟนของการแสดงมิวสิคัล"

Q: แต่คนทั่วไปก็อาจจะมองว่าคุณเป็นนักแสดงที่เป็นไอดอล
ซอฮยอน: ฉันคิดว่ามันเป็นอะไรที่เห็นชัดอยู่แล้วค่ะว่าคนจะมองว่าฉันเป็นไอดอล เพราะฉันไม่ได้เริ่มต้นจากการเป็นนักแสดงมิวสิคัล ความจริงที่ว่าแว้บแรกที่พวกเขาเห็นฉัน เขาไม่ได้นึกถึงนักแสดงมิวสืคัล แต่เป็นซอฮยอน วง โซนยอชิแด มันก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียนะคะ ถ้ามองมันอีกมุมมันก็เหมือนดาบสองคมค่ะ แต่ฉันคิดว่ามิวสิคัลยังไม่ได้รับความนิยมเท่าไหร่ ไม่เหมือนกัน Broadway ค่ะ

ถึงอย่างนั้นแล้วต่อให้คนที่ไม่สนใจมิวสิคัลหรือคนที่รู้จักฉันหรือโซนยอชิแดคิดว่า "ซอฮยอนแสดงมิวสิคัลหรอ? จะเป็นยังไงนะสงสัยจัง" ฉันก็คิดว่าที่คงเป็นข้อดีของไอดอลที่แสดงมิวสิคัลค่ะ ที่สามารถสร้างความสงสัยให้กับพวกเขาได้ แต่การที่คนดูมาชมการแสดงหลังจากเห็นชื่อของฉันแล้ว ฉันหากร้องเพลงไม่ดีแสดงไม่ได้นั้นคงเป็นอะไรที่แย่มากๆ ในฐานะไอดอลการที่เราไปยืนอยู่บนเวที ฉันคิดว่าการได้รับการยอมรับจากคนดูคือความรับผิดชอบของฉันค่ะ สุดท้ายแล้วมันก็จะทำให้เรารู้สึกตื้นตัน ไม่ว่าเราจะเป็นไอดอลหรือไม่ ในคนดูนั้นมีทั้งคนมาชมมิวสิคัลและมีคนที่มาดูฉันเช่นกันค่ะ แล้วเพื่อเป็นการตอบสนองของทั้งสองกลุ่มแล้ว ฉันคิดว่าฉันควรมีความสามารถในการเข้าถึงการเป็นนักแสดงมิวสิคัลค่ะ ฉันเลยตั้งใจศึกษาเรียนรู้ถึงความแตกต่างระหว่างการร้องเพลงในฐานะนักร้อง และการร้องเพลงในฐานะนักแสดงมิวสิคัล

ยกตัวอย่าง เช่นการแสดงมิวสิคัล ไมค์จะถูกติดอยู่บนหน้าผากเราค่ะ ฉะนั้นเวลาร้องเพลง เราต้องใช้ Head Voice ในบทสัมภาษณ์อันอื่น ฉันถูกถามว่า 'หลังจากแสดงมิวสิคัลมา 3 เรื่องแล้ว มีอะไรที่เราสามารถทำได้ง่ายขึ้นไหม?' แต่เวลาที่เราได้รู้จักหรือเข้าถึงมิวสิคัลบมากขึ้นๆ เราได้เรียนรู้อะไรมากขึ้นค่ะ ฉันเลยยิ่งศึกษามากขึ้น ทำให้ฉันรู้สึกว่ามันรู้สึกยากขึ้นต่างหาก เวลาที่ยืนอยู่บนเวที ฉันคิดว่าความรู้สึกของการรับผิดชอบของฉันต้องชัดเจนและสมบูรณ์ค่ะ



Source: The Move
Eng Trans: @SonexStella
แปลไทย: Translator Gang ll soshifanclub ll http://www.soshifanclub.com