Q: มาเริ่มต้นบทสัมภาษณ์กับแททิซอดีกว่า ทุกครั้งที่ฉันได้ดูการแสดงของพวกคุณ ฉันสัมผัสได้ว่าพวกคุณสนุกกับการกิจกรรมบนเวทีมาก ๆ
แทยอน: ที่พวกเราสนุกกับมัน ก็เพราะว่าพวกเรามีโอกาสที่ได้ร้องเพลง ซึ่งการร้องเพลงของพวกเราในครั้งนี้มันก็แตกต่างจากครั้งที่พวกเราทำกิจกรรมในฐานะโซนยอชิแดมาก ๆ ค่ะ

ทิฟฟานี่: ตอนแรก พวกเรารู้สึกว่ามีอุปสรรคอยู่อย่างหนึ่ง ก็คือการที่พวกเราทั้งสามคน จะต้องเติมส่วนที่เหลือบนเวทีให้เต็มตั้งแต่ต้นจนจบ แต่ฉันก็คิดว่ามันก็สนุกเหมือนกันนะคะ เพราะว่าฉันมีโอกาสที่จะสามารถจัดการด้านการร้องและสไตล์ของตัวเองได้น่ะค่ะ

ซอฮยอน: ฉันรู้สึกขอบคุณทุก ๆ คนมาก ๆ ที่ชมฉันเสมอ ๆ ว่าฉันเติบโตขึ้นมากแล้ว และสามารถซ่อนความเงียบขรึมของตัวเองไว้ได้ พอมีผลตอบรับที่ดีเช่นนี้ ฉันก็มีความมั่นใจมากขึ้นค่ะ


Q: ซอฮยอน สติกเกอร์ที่ติดอยู่ใต้ตาเธอ คงจะ "เป็นปัญหา" มากเลยสินะ
ซอฮยอน: อันที่จริงแล้ว มันไม่ใช่จุดหรอกนะคะ แต่มันเป็นแผ่นเล็ก ๆ ที่แวววาวน่ะค่ะ ฉันคิดว่ามันอาจจะเป็นเรื่องดีก็ได้ ถ้าฉันจะติดอะไรที่มันเด่น ๆ ไว้บนหน้าในระหว่างที่แสดงเพลง Twinkle เพราะฉะนั้น ฉันก็เลยขอเจ้าแผ่นนี้มาติดน่ะค่ะ แต่ฉันไม่ทราบเลยว่าคนจะเข้าใจผิดคิดว่ามันเป็นไฝ (หัวเราะ) จริง ๆ แล้วมันก็ไม่ได้เป็นความตั้งใจของฉันหรอกค่ะ แต่ฉันก็รู้สึกดีที่มันสามารถดึงความสนใจของผู้คนได้


Q: ตอนนี้ ฮโยยอน เป็นหนึ่งใน TOP3 ของรายการ MBC 'Dancing With The Star 2'
ฮโยยอน: หลังจากที่ฉันทำงานอื่น ๆ เสร็จหมดแล้ว ฉันก็จะเข้าซ้อมเต้นในห้องซ้อมจนกระทั่งถึงตี 3 ตี 4 เสมอเลยค่ะ หลังจากที่ฉันได้เรียนการเต้น Dance Sport แล้ว ฉันก็คิดว่ารูปร่างของฉันดูดีมากขึ้นค่ะ ภาพลักษณ์ความเป็นสตรีของคุณนั้นสำคัญมาก และมันจำเป็นมาก ๆ ที่คุณต้องมีพลังเยอะ ๆ และฉันก็หวังว่าผลลัพธ์ที่ออกมา มันจะดีนะคะ

ซอฮยอน: โดยส่วนตัวแล้ว ฉันคิดว่า รายการ Dancing With The Star 2 เป็นรายการที่ทำอะไรให้กับพี่ฮโยยอนได้เยอะมาก ๆ ช่วงที่พวกเราเป็นเด็กฝึก ตอนที่ฉันเห็นพี่ฮโยยอนเต้น ฉันก็ตกใจมาก ๆ จนถึงกับคิดว่า "นั่นคนหรือน่ะ" ฉันรู้สึกเสียใจค่ะ ที่พี่ฮโยยอนไม่สามารถโชว์ความสามารถของตัวเองออกมาาได้ถึง 1% ในขณะที่ขึ้นแสดงกับโซนยอชิแดเลย เพราะฉะนั้น ตอนนี้ฉันเลยรู้สึกดีใจมาก ที่พี่ฮโยยอนสามารถแสดงพลังของเธอออกมาได้อย่างเต็มที่ นอกจากการเต้น ดูเหมือนว่า มันจะทำให้พี่ฮโยยอนจะจิตใจสงบมากขึ้นด้วยค่ะ

ทิฟฟานี่: ฉันหวังให้ฮโยยอนชนะค่ะ สมาชิกของวงก็ได้ไปให้กำลังใจกับฮโยยอนแล้ว ถ้าเธอเข้ารอบชิงชนะเลิศได้ พวกเราทุกคนก็จะต้องไปให้กำลังใจเธอถึงที่แน่นอนค่ะ

ฮโยยอน: เธอทำให้ฉันกดดันมาก ๆ เลยค่ะ จริง ๆ แล้ว ฉันทำผิดพลาดไปหลาายครั้งในระหว่างการแสดง แต่ทุกคนก็บอกว่าพวกเขาไม่เห็นเลย อาจจะเป็นเพราะว่าผลสะท้อนที่มาจากตอนที่ฉันขึ้นแสดงร่วมกับโซนยอชิแดก็ได้มั้งคะ


Q: พวกคุณเคยทำอะไรผิดพลาดในช่วงที่ทำกิจกรรมโปรโมทในฐานะ แททิซอ บ้างหรือเปล่า?
ทิฟฟานี่: แน่นอนว่ามีค่ะ พวกเราเต้นผิด และพวกเราก็ยังมีปัญหากับอาการคัดจมูก จากควันที่มาจากระเบิด(เอ็ฟเฟ็กต์)น่ะค่ะ แต่พวกเราก็คุมสถานการณ์ได้ดีค่ะ


Q: ตอนนี้ ทิฟฟานี่กำลังวุ่นอยู่กับการเป็นพิธีกรรายการ MBC 'Music Core' เห็นว่า ทิฟฟานี่ แนะนำ Infinite เป็น "7 สาว Infinite ค่ะ" ด้วยสินะ
ทิฟฟานี่: (กล่าวด้วยหน้าที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง) ฉันพูดผิดเองค่ะ จาก "7 หนุ่ม ครองใจสาว ๆ " เป็น "7 สาว Infinite" แทน อันที่จริง ฉันเป็นพิธีกรมาก็ 3 ปีเข้าไปแล้ว แต่ฉันก็ไม่เคยอายมากขนาดนี้มาก่อนเลยค่ะ

แทยอน: พูดตามตรงนะคะ ฉันยืนอยู่ข้างเธอก็จริง แต่ฉันก็ไม่ได้ยินอะไรเลย ฉันแค่รู้สึกว่ามันมีอะไรแปลก ๆ นะ แล้วก็หัวเราะ แต่พอรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นต่อมา พอกลับเข้าไปหลังเวที ฉันก็ระเบิดหัวเราะออกมาเลยค่ะ

ทิฟฟานี่: ฉันก็เลยรีบแก้เป็น "7 หนุ่ม" ทันทีเลยค่ะ โชคดีมากค่ะ ที่แฟนคลับเข้าใจฉัน Infinite เป็นวงที่ฉันใส่ใจมาก ๆ จากเหตุการณ์นี้ ฉันก็เข้าใจว่าฉันควรจะระวังมากกว่านี้ ซึ่งฉันก็เพิ่งมานึกได้เอาตอนที่รายการใกล้จะจบนี่ล่ะค่ะ (หัวเราะ)


Q: ตอนนี้ ถึงคำถามที่จะถามกับ "สองนักแสดงสาว" แล้ว ยุนอา และยูริ ที่เพิ่งฝากผลงานในละครโทรทัศน์ไปเมื่อไม่นานมานี้ ในละครเรื่อง KBS 'Love Rain' และ SBS 'Fashion King'

ยุนอา: ฉันไม่ได้ใส่ใจกับเรตติ้งของละครเรื่อง 'Love Rain' มากเท่าไรเลยค่ะ แต่กลับสนุกไปกับการถ่ายทำเสียมากกว่า ละครเรื่องนี้ มันเป็นละครเรื่องแรกที่ฉันได้ถ่ายหลังจากที่ไม่ได้ถ่ายมาสักพักแล้ว เพราะฉะนั้น 'Love Rain' เลยเป็นอะไรที่สำคัญกับฉันมาก ฉันได้รู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่ฉันไม่เคยได้รู้สึกมากก่อน ในตอนแรก ฉันนึกถึงภาพการถ่ายทำที่โรยไปด้วยกลีบกุหลาบ แต่พอได้มาถ่ายทำจริง ๆ ฉันก็เพิ่งได้รู้อะไรหลาย ๆ อย่างว่า ยิ่งฉันถ่ายทำนานมากขึ้นเท่าไร ความยุ่งยากก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น พอถึงคราวปิดกล้อง ฉันก็นึกเสียดายว่า "ฉันควรจะทำได้ดีกว่านี้"

ยูริ: 'Fashiong King' เป็นละครที่ทรมานมากค่ะ แต่ก็เป็นละครที่สนุกไปในคราวเดียวกัน และฉันก็สนุกไปกับละครเรื่องนี้ด้วยค่ะ เพราะว่าจริง ๆ แล้วฉันเป็นคนที่สดใส และร่าเริง มันก็เลยทำให้ฉันกระหายที่จะแทรกซึมเข้าด้านมืดของตัวละคร อันนา ให้ได้มากที่สุด และยิ่งไปกว่านั้น ที่ฉันอยากจะรับบทนี้ ก็เพราะว่าความตั้งใจที่มีให้กับงาน ที่อันนามีนั้น มันคล้ายกับฉันมาก ๆ เมื่อละครออกอากาศ ดูเหมือนว่าคนรอบข้างฉันจะผิดหวังกับฉากที่ฉันปรากฎตัว แต่พูดตามตรงนะคะ ฉันไม่มีเวลามากพอที่จะกังวลว่าฉากที่ฉันปรากฎตัวมันจะเป็นยังไง แต่ฉันกลับอยากที่จะทำให้ดีกว่านี้ในผลงานชิ่นอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตัวละครที่สดใสมากกว่านี้ นั่นล่ะค่ะ คือตัวฉันเลย


Q: ฉันประหลาดใจกับภาษาอังกฤาของยูริในละครเรื่อง 'Fashion King' เพราะว่าภาษาอังกฤษของคุณมันเป็นธรรมชาติมาก ๆ
ยูริ: ถึงฉันจะเขิน แต่ฉันก็ฝึกซ้อมอย่างหนักกับมันจริง ๆ นะคะ เพราะว่า อันนา เชี่ยวชาญในหลาย ๆ ภาษา และเป็นตัวละครที่เป็นมืออาชีพ ฉันจึงต้องกังวลกับเรื่องการออกเสียงมากเป็นพิเศษกว่าสิ่งอื่นใด และฉันก็ไม่ได้เรียนภาษาอังกฤษมาจากโซนยอชิแดบางคนที่มาจากสหรัฐอเมริกาเลยค่ะ แต่ฉันมีครูของฉันเองค่ะ และฉันก็ได้อัดเสียงที่ครูของฉันพูดในประโยคที่ฉันจะต้องพูด แล้วก็ฝึกตามอย่างตั้งใจค่ะ


Q: ก่อนหน้านี้ ปาร์ค จีซอง ได้เลือก ยุนอา เป็นสมาชิกของเกิร์ลกรุ๊ปคนโปรด ในรายการ SBS 'Running Man'
ยุนอา: ฉันได้ดู Running Man ด้วยค่ะ ฉันรู้สึกดีนะคะ ที่สุดท้าย เขาก็เลือกฉัน (หัวเราะ) พอพวกเรารู้ว่า เขาได้ชอบโซนยอชิแดมาก่อนอยู่แล้ว พวกเราก็เลยมอบอัลบั้ม พร้อมลายเซ็นของพวกเราให้กับเขาค่ะ ฉันรู้สึกเป็นเกียรติมากค่ะ และฉันก็จะคอยให้กำลังใจเขาอยู่เสมอ ๆ ค่ะ


Q: ซูยอง เพิ่งจะได้มาเป็นพิธีกรคนใหม่ของรายการ SBS 'Midnight Entertainment TV' คุณรู้สึกอย่างไรบ้าง กับการที่ได้มาเป็นพิธีกรในรายการสด?
ซูยอง: ก่อนที่ฉันจะเดบิวท์ (มาเป็น โซนยอชิแด) ฉันเคยเป็นพิธีกรในรายการสดของ Mnet ชื่อว่ารายการ 'HelloChat' มาก่อนค่ะ ประสบการณ์จากการเป็นพิธีกรในครั้งนั้นช่วยฉันได้เยอะเลยค่ะ พูดตามตรงนะคะ สิ่งที่ทำให้ฉันรู้สึกประหม่า เวลาที่คนชมฉันว่า "เธอทำได้ดีนะ" ก็คือมันไม่ค่อยมีอะไรให้ฉันทำเท่าไรค่ะ ตอนที่ฉันได้เห็นพี่โจ ยังกู กับพี่ ยุน โดฮยอน และฉันก็เก็บซ่อนความตื่นเต้นไม่อยู่เลยค่ะ

Q: ซูยอง เคยพูดว่า การขว้างบอลของเจสสิก้านั้น เป็นสิ่งที่ "จะไม่มีวันเกิดขึ้นอีกต่อไปแล้วใน 10 ปีนี้" ฉันรู้สึกภูมิใจมากจริง ๆ ฉันอยากจะได้ยินคำพูดของเจสสิก้าเกี่ยวกับเรื่องนี้บ้าง
เจสสิก้า: ฉันรู้สึกดีใจมากค่ะ เพราะเธอเป็นเพื่อนของฉันคนเดียวที่พูดแบบนั้น (กลั้นหัวเราะ)

ซูยอง: เหตุการณ์ในครั้งนั้น เป็นเหตุการณ์ที่แสดงความเป็นตัวตนของเจสสิก้าได้ดีค่ะ การขว้างบอลของเจสสิก้า ทำให้ฉันคิดได้ว่า บริษัทของพวกเรา กำลังทำการตลาดได้อย่างดีเยี่ยมเลยค่ะ ตัวตนจริง ๆ ของผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นแบบนั้นนั่นล่ะค่ะ ในขณะที่เธอดูดี เธอก็อาจจะเฉื่อยชา ฉันคิดว่าเหตุการณ์ในครั้งนั้น เป็นเหตุการณ์ที่แสดงด้านอีกด้านของเธอออกมาได้เป็นอย่างดี ที่เจสสิก้าทำแบบนั้นเนี่ย เธอไม่ได้ตั้งใจหรอกค่ะ ฉันดีใจเสียด้วยซ้ำที่เธอเผยด้านด้านนั้นของเธอออกมา

เจสสิก้า: ฉันซ้อมขว้างตั้งเยอะเลยนะคะ ที่สวนหน้าหอของพวกเราน่ะค่ะ แต่ฉันคิดว่ามันไม่ง่ายเลยด้วยซ้ำ ฉันคิดว่าทักษะทางด้านกีฬามันได้ถ่ายทอดไปหาน้องสาวของฉัน (คริสตัล) หมดแล้ว และฉันคิดว่า ฉันจะตั้งตารอคอยสำหรับการขว้างบอลของเธอนะคะ


Q: ในขณะที่โซนยอชิแดที่เหลือปรากฎตัวในรายการทีวี ซันนี่ ก็ทุ่มเทแรงกายและแรงใจให้กับผลงานละครเวทีของเธอ ซึ่งก็คือเรื่อง 'Catch Me If You Can'
ซันนี่: เมื่อไม่นานมานี้ ได้มีพิธีปิดของละครเวทีเรื่องนี้จัดขึ้นด้วยค่ะ ในระหว่างที่แสดงละครเวทีอยู่บนเวที ฉันรู้สึกสนุก และมีความสุขอยู่เสมอ ๆ ค่ะ เวลาเตรียมตัว ฉันมักจะรู้สึกเครียดเสมอ ๆ เพราะว่าครั้งนี้มันเป็นครั้งแรกที่ฉันได้มาเล่นละครเวที แต่ฉันก็ต้องขอบคุณ ที่ได้พบกับทีมนักแสดง สต๊าฟฟ์ที่ดี และผู้จัดการเวทีที่เพอร์เฟ็กต์ ฉันได้รับความช่วยเหลือมาจากพวกเขาเยอะแยะเลยค่ะ พวกเขาทำได้ดีหมดทุกคนเลย และเป็นเพราะว่าฉันตามพวกเขาได้ ทำให้ฉันสามารถทำการแสดงให้บรรลุไปได้อย่างปลอดภัยค่ะ ฉันอยากจะสนุกกับปาร์ตี้จริง ๆ แต่ก็ไป MT (ปาร์ตี้ที่นัดแนะกัน) ไม่ได้ ฉันยังเสียดายอยู่จนถึงทุกวันนี้เลยค่ะ


Q: พอตอนนี้ฉันได้มาลองมองดู ฉันก็พบว่า โซนยอชิแดหลาย ๆ คนต่างก็มีประสบการณ์กับละครเวทีมาแล้ว พวกคุณวางแผนที่จะลองเล่นละครเวทีอีกสักเรื่องกันไหม?
แทยอน: อืม..... แน่นอนค่ะ แต่ฉันไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องที่ง่าย ๆ นะ เพราะว่ามันเป็นอะไรที่ยากมาก และฉันก็ไม่รู้ว่าฉันจะพยายามกับมันได้ในอนาคตอีกหรือเปล่าน่ะค่ะ

ทิฟฟานี่: เพราะว่าฉันรู้ว่า โซนยอชิแด นั้น ทุ่มเทอย่างหนักกับละครเวทีมากมายขนาดไหน เพราะฉะนั้น ฉันและโซนยอชิแดคนอื่น ๆ ก็จะให้กำลังใจกับพวกเธอเหล่านั้น และเมื่อพวกเราเดินทางไปสนับสนุนแทยอน เธอก็จะไม่คุยกับพวกเรา แล้วก็ตั้งใจดูวิดีโอการแสดงอย่างเต็มที่ค่ะ ฉันคิดว่า "เธอจะทำได้ดีไหมนะ" แล้วสุดท้าย เธอก็ทำได้ดีได้จริง ๆ ค่ะ (หัเวราะ)


Q: สมาชิกคนไหนที่คุณรู้สึกขอบคุณมากที่สุด สมาชิกคนที่คุณสามารถแบ่งเบาความทุกข์ ความลำบากได้ หรือเป็นสมาชิกที่คุณสามารถคุยด้วยได้ยามที่คุณเครียด?
เจสสิก้า: สมาชิกทุกคนก็เป็นอย่างนั้นนั่นล่ะค่ะ พวกเธอจะฟังคำของกันและกันอย่างดีเสมอ ๆ ไม่ว่าใครจะพูดอะไรก็ตาม

ยุนอา: ความเครียด มักจะเกิดขึ้นในห้องแชท ที่ตั้งขึ้นในสมาร์ทโฟนของพวกเราค่ะ ได้ห้องแชทของพวกเรา พวกเรามักจะแบ่งปันเรื่องราวต่าง ๆ มากมาย ที่ผ่ายเข้ามาในชีวิต และถ้าคุณไม่เช็คดูเลย คุณจะพบว่าข้อความพวกนั้น มันจะปาไป 500 ข้อความโดยที่ไม่รู้ตัว ยิ่งไปกว่านั้น พวกเรายังสร้างห้องแชทขึ้นมาอีกหลาย ๆ ห้องเพื่อเป็นช่องทางในการสื่อสารกับพี่ ๆ ผู้จัดการของพวกเรา หรือจะเป็นห้องแชทที่เอาไว้คุยกับพี่ ๆ สไตล์ลิช พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องเสื้อผ้าต่าง ๆ และพวกเราก็จะได้ทราบประกาศต่าง ๆ จากห้องแชทนี้ด้วยค่ะ


Q: เรื่องห้องแชทส่วนตัวของพวกคุณ ดูน่าสนใจมาก ๆ ใครเป็นคนที่พูดมากที่สุดในห้องแชท?
เจสสิก้า: ซูยอง มักจะพูดถึงเรื่องต่าง ๆ (อย่างเช่น ละคร เป็นต้น) บ่อย ๆ ค่ะ และถ้าตอนไหนที่เธอเบื่อ เธอก็จะพูด ๆ อยู่นั่นล่ะค่ะ

ซูยอง: ฉันเบื่อค่ะ แต่พวกเธอไม่รับมุกของฉันเอาเสียเลย อย่างถ้าฉันพิมพ์ไปว่า "มีใครอยากจะไปกินข้าวด้วยกันไหม?" หรือ "อยากทำอะไรกันบ้างเอ่ย" พวกเธอเปิดดูนะคะ แต่ไม่ตอบค่ะ (ทำหน้ามุ่ย)


Q: ถ้าคุณไม่ใช่ โซนยอชิแด แต่เป็นคนธรรมดาทั่วไป คุณคิดว่าในชีวิตนี้ คุณจะทำอะไรบ้าง?
ยุนอา: ช่วงนี้ ฉันคิดถึงเรื่องนี้มาตลอดเลยค่ะ เพราะว่าฉันเพิ่งได้พบกับเพื่อน ๆ ของฉัน และพวกเขาก็ให้นามบัตรของบริษัทที่พวกเขากำลังทำงานอยู่ให้กับฉันค่ะ ถ้าฉันไม่ได้ทำงานนี้ ฉันคิดว่าฉันอาจจะได้เป็นพนักงานบริษัทค่ะ ช่วงนี้ฉันคิดถึงสิ่งที่ฉันจะทำ ถ้าฉันเป็นคนธรรมดาเยอะแยะเลยค่ะ แต่ก็ยังไม่ทราบเหมือนกันค่ะว่าจะทำอะไรดี

ซูยอง: แต่พูดตามตรงนะคะ ในขณะที่ฉันได้ทำอะไรหลาย ๆ อย่างมาตลอดในช่วงชีวิตแบบนั้น ในทางกลับกัน พวกเราทำได้แค่ใช้ชีวิตในแบบที่เป็นอยู่ตอนนี้เท่านั้น อันที่จริง พวกเราได้อะไรหลาย ๆ อย่างจนน่าอิจฉามากกว่าคนอื่น ๆ เสียอีกนะคะ

เจสสิก้า: เพื่อนของฉันหลาย ๆ คนได้เริ่มทำงานกันแล้วเหมือนกันค่ะ ฉันเคยคิดที่จะเป็นนักศึกษาธรรมดา ๆ ทั่วไปบ้างค่ะ แต่กลับกัน ถ้าฉันไปเป็นนักศึกษาธรรมดา ๆ ทั่วไป มันก็จะเป็นแบบ ฉันต้องทำงานอย่างหนัก เพราะความกดดันจากคุณพ่อ และคุณแม่ของฉันแน่ ๆ ค่ะ (หัวเราะ)

ซอฮยอน: ตอนที่ฉันเป็นเด็ก ฉันเคยฝันอยากจะเป็นนักเปียโนค่ะ และด้วยที่คุณแม่ของฉัน ท่านเป็นผู้อำนวยการของสถาบันการสอนเปียโนด้วย ฉันก็เลยได้ฟังเพลงหลายรูปแบบ และมีโอกาสได้เรียนไวโอลินและบัลเล่ย์ เพราะฉะนั้น ถ้าฉันไม่ได้เป็นโซนยอชิแด ฉันคิดว่า ฉันอาจจะเดินทางไปเรียนต่อที่ต่างประเทศก็ได้ค่ะ จริง ๆ แล้ว ฉันเคยวางแผนที่จะเดินทางไปเรียนต่อที่ซานฟรานซิสโกด้วยค่ะ ตอนอยู่ ป.5 แต่ฉันก็ล้มเลิกเป้าหมายทันทีที่ได้ไปแคสที่ SM ค่ะ


Q: เนื่องจากตอนนี้ พวกเรากำลังคุยถึงเรื่องการเรียนในมหาวิทยาลัย ก่อนหน้านี้ แทยอนก็เคยติดอันดับ 1 ในแบบสำรวจเรื่องหนึ่งด้วย แบบสำรวจที่เผยว่า แทยอน เป็นคนดังอันดับ 1 ที่นักศึกษามหาวิทยาลัยอยากให้มาเป็นรุ่นน้องมากที่สุด
แทยอน: โอ้ จริงหรือคะเนี่ย ฉันไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อนเลย นี่ฉันต้องเข้าไปสมัครเรียนในมหาวิทยาลัยไหมคะ? (ทุกคนหัวเราะ)

ซูยอง: ฉันบอกเรื่องนี้กับสมาชิกทุกครั้งที่มีโอกาส แต่ฉันก็หวังว่าอยากให้ทุก ๆ คนเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัย เพราะมันจะทำให้คุณรู้สึกว่า คุณได้กลายเป็นหญิงสาวในวัยของคุณ อย่างน้อยก็เหมือนกับตอนที่คุณไปโรงเรียน นอกจากมันจะเป็นเรื่องดีแล้วที่คุณจะได้แสวงหาความรู้มากขึ้น แต่มันก็อาจจะเป็นเรื่องดีที่คุณจะได้พบกับชเว ซูยอง, อิม ยุนอา และคิม แทยอนในระหว่างนั้นก็ได้นะคะ


Q: คำถามสุดท้าย โซนยอชิแด จะทำอะไรใน 10 ปีต่อจากนี้? ขอพวกคุณสักหนึ่งคนพูดแทนหน่อยได้ไหม?
ซอฮยอน: ฉันเคยพูดเรื่องนี้กับพี่ ๆ โซนยอชิแดด้วยค่ะ แต่พวกเรายังคิดอยู่เหมือนเดิมว่า ยังไงก็จะยังคงมีโซนยอชิแดต่อไป เหมือนกับรุ่นพี่ของพวกเรา รุ่นพี่ชินฮวา น่ะค่ะ ในขณะที่พวกเรากำลังจะเป็นโซนยอชิแดที่อายุมากขึ้น พวกเราก็อาจจะมีคอนเสิร์ตหลาย ๆ คนเสิร์ตบาง หรือไม่ก็ พวกเราบางคนอาจจะผันตัวไปเป็นนักแสดง แต่ตอนนี้ ฉันคิดว่าโซนยอชิแดบางคน กำลังหันไปเอาดีทางเรื่องการแต่งและเรียบเรียงเพลง ในขณะที่บางคนอาจจะสนใจในเรื่องละครเวทีค่ะ


Source: HighCut vol.81 magazine
English translation: ch0sshi @ twitter
แปลไทย: Translator Gang ll soshifanclub ll http://www.soshifanclub.com