สาวๆทั้ง 9 คนกลับมาแล้ว พร้อมกับเพลง 'I Got A Boy' ยังไงก็ตามสถานการณ์ดูเหมือนจะ 'I got a problem' มีปัญหานิดหน่อยนะ มีเสียงแตกแยกออกมาจากสิ่งที่พวกเธอได้ลองทำ

เห็นได้ชัดว่าสาวๆได้เปลี่ยนไป พวกเธอไม่ใช่โซชิที่พวกเรารู้จัก แต่เป็นโซชิ 'แบบใหม่' เหมือนในเนื้อเพลงของพวกเธอ 'สไตล์เธอมันเปลี่ยนไปตั้งแต่หัวจรดเท้าเลย' มันเป็นผลของการผสมผสานกับเพลงฮุค สาวๆกับการเต้นฮิพฮอพแบบกลุ่ม ศิลปะที่ไร้ค่าบนความรู้สึกเหมือนดูเจ้าหญิง

เหมือนในเนื้อเพลง แฟนๆถามพวกเธอ

"ทำไมถึงทำแบบนั้นหละ? ฉันสงสัยจะตายอยู่แล้ว~"

พวกเราเลยไปถามนักวิจารณ์ รวมไปถึงนักแต่งเพลง และสุดท้ายคำตอบของโซนยอชิแด

"บอกฉันหน่อยนะ~"



# ก่อนทำการสัมภาษณ์ พวกเราได้ฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับเพลงไตเติ้ลนี้จากนักวิจารณ์, นักแต่งเพลง และแหล่งข่าวอื่นๆ แต่เราก็เลือกที่จะถามคำถามกับโซนยอชิแดเองเลยดีกว่า

1. มันยากที่จะลองหรือทำเทรนอะไรใหม่ๆ = มุมมองเกี่ยวกับเพลงไตเติ้ลจะมาเป็นสองทาง ในตอนนี้ความคิดเห็นที่ว่าการลองเป็นเรื่องยากคงเหนือกว่า อีกมุมนึงก็มีการคาดไว้แล้วว่าจะทำเทรนอะไรใหม่ๆ มุมมองของผู้เชี่ยวชาญจะเหมือนๆกัน ขณะที่นี่ก็เป็นเรื่องจริงที่ว่ามันเป็นอะไรที่สดใหม่และไม่เป็นที่คุ้นเคยแน่นอน

-> "มีจังหวะและทำนองผสมกันอย่างมากมาย เลยดูเหมือนยาก และมันฟังดูเหมือนเป็นอะไรที่เต็มไปหมด" นักแต่งเพลง A ที่มีชื่อเสียง

โซนยอชิแด: ตอนแรก พวกเราก็เป็นแบบนั้นค่ะ ความรู้สึกแบบ "นี่มันอะไรเนี่ย?" เอาตรงๆแล้ว นั่นทำให้มันดูน่าเชื่อถือมากขึ้น เพลงนี่เป็นอะไรที่ใหม่เหมือนเสียงของมันเลยค่ะ เป็นเพลงที่ไม่เหมือนกับเพลงทั่วไปที่ฟังกันจนเบื่อ ยกตัวอย่าง คุณฟังเพลงจากอะไรที่เคยคิดไว้แบบที่ '1' เสร็จ พอเอาไปฟังแบบที่ '2' แล้ว คุณจะสนใจแบบหลังมากกว่าค่ะ (ทิฟฟานี่)

น่าสนใจอย่างมาก เพลงนี้เป็นเพลงที่ยิ่งฟัง จะยิ่งรู้สึกสนุก คุณจะคิดถึงสิ่งแปลกใหม่ที่เจอในเพลงได้ทีละอย่างๆเลย ปกติเวลาซ้อม บางทีเราก็เบื่อกับเพลงซะแล้ว ยังไงก็ตาม แต่กับเพลงนี้ยิ่งคุณฟังคุณจะชอบมันมากกว่าตอนแรกที่ฟังเสียอีก สิ่งที่คุณได้ยินมันจะขึ้นอยู่กับอารมณ์ของคุณในตอนนั้นๆ ฉันมันใจค่ะ (ซอฮยอน)

-> "จากเพลงสดใสที่เคยทำเพลงที่มีท่อนฮุค เสียงเพลงออกแนวอิเล็กทรอนิกส์ ไม่มีอะไรเปรียบเทียบได้ก็จริง แต่มันเป็นเพลงต่างชาติ มันดูเหมือนจะมีปัญหาทางด้านอารมณ์ ฉันว่าพวกเขาสนใจกับตลาดต่างประเทศมากเกินไป" นักแต่งเพลงชื่อดัง B

โซนยอชิแด: ฉันคิดว่าผลประโยชน์ใน K-POP อยู่สูงนะคะ ยังไงก็ตาม มันไม่ได้หมายความว่าเพลงนี้ปล่อยมาเพื่อจะไปตีตลาดต่างประเทศ แต่เป็นตลาดเพลงต่างหากที่มันกว้างขึ้น เพราะโลกของเรามีเพลงที่รวมกันเป็นหนึ่ง (ซอฮยอน)

คุณไม่คิดหรอคะว่ามันเปลี่ยนไปโดยธรรมชาติ? ตอนเราเดบิวครั้งแรก พวกเราไม่ได้อายุ 20 นะคะ พวกเราใส่รองเท้าผ้าใบ Converses และชุดกีฬา ตอนอัลบั้มที่ 2 ของพวกเราก็เป็นความรู้สึกแบบนักศึกษามหาวิทยาลัย ใส่เสื้อเชิ๊ตขาวและกางเกงยีน ครั้งนี้ก็เหมือนๆกัน เราลองทำเพลงที่เข้ากับอายุของเรา เราไม่ได้คิดถึงการตีตลาดต่างประเทศก่อนหรอกค่ะ ผู้หญิงคุยกันเรื่องที่เข้ากับตัวเองทุกวันๆ เหมือนกับเสื้อผ้ากับสไตล์ แทนที่จะบอกว่าเปลี่ยนไปเพื่อใคร พวกเราคิดว่าการที่พวกเราโตและพัฒนาขึ้นต่างหากคือสาเหตุที่แท้จริง (ทิฟฟานี่, ซอฮยอน)

-> "ฉันว่าเป็นการแสดงที่ดีเลย ดูหลากหลาย ทรงผมและเสื้อผ้าเปลี่ยนไปดู​​ทันสมัย พอทำอะไรที่เสี่ยงๆอย่างโดดเดี่ยว ฉันคิดว่ามันยากที่ทำให้ผู้คนจับตามอง ฉันว่าเพลงนี้เป็นเพลงที่คลิปและการแสดงรวมด้วยกันและจะมีผลมากนะ" คนดัง C

โซนยอชิแด: ปกติแล้วจะมีการจัดการส่วนของเพลงอย่างดีอยู่แล้ว แน่นอนว่าเพลงไม่ได้เข้าคู่กันมาก ยังไงก็แล้วแต่ โครงสร้างที่ซับซ้อนจะถูกจัดและรวบรวมมาอยู่ในการแสดงบนเวทีค่ะ บอกคำเดียวเลยว่าพอฟังกันเพลงสนุกๆแล้ว เป็นอะไรที่สนุกสุดยอดมากเลยค่ะ (ซอฮยอน)

ท่าเต้นเป็นอะไรที่แต่งต่างจากท่าเต้นปกติ ไม่ใช่ท่าเต้นแบบกลุ่ม พวกเรา 9 คนกังวลอยู่เหมือนกันว่าจะถ่ายทอดมันออกมาได้ดีไหม คิดถึงเนื้อเพลงและเต้นไปด้วยทำให้มีเสียงเพลงอยู่ในหัวนะ มันตื่นเต้นมากกว่าเดิมอีก และยิ่งน่าตื่นเต้นกว่าเดิมเมื่อสมาชิกแต่ละคนเปลี่ยนไปทำท่าคนละท่าไม่เหมือนกันในทุกๆการแสดง (แทยอน, ยูริ)

ตัวเนื้อเพลงก็เหมือนการพูดคุยกันค่ะ พวกเราเลยสามารถทำหน้าทำตาตามไปกับเพลงได้อย่างเป็นธรรมชาติ ฉันคิดว่าสมาชิกก็คอยเปลี่ยนท่าทางกันนะ แล้วแต่เรื่องที่พูดคุยกัน เป็นอะไรที่สนุกมากเลยค่ะ ฉันคิดว่าคนอื่นจะคิดว่ามันเป็นการแสดงที่คุณสามารถสนุกไปกับมันได้ ไม่ได้เป็นแค่เพลง แต่การร้อง, ท่าเต้น และ สไตล์ ทั้งหมดรวมเป็นหนึ่ง (ยุนอา)



2. มากไปก็ไม่ดีน้อยไปก็ไม่ดี vs ยิ่งมากยิ่งดี? = เริ่มจากการแร็พ ท่อนที่ 1, ท่อนที่ 2, โซโล่, แร็พ2, แล้วก็วนซ้ำๆ มันไม่ได้มีอะไรที่แตกแยกกันอย่างเห็นได้ชัดระหว่างท่อนเริ่มกับท่อนที่วนซ้ำ พูดถึงท่อนที่โผล่ออกมาและตัดแร็พออก นี่หมายความได้ว่ามากไปก็ไม่ได้ดีเสมอไป

-> "ตอนที่ทีเซอร์ถูกปล่อย ฉันคาดหวังไว้สูงนะ แต่พอปล่อยออกมาแล้ว มันมีส่วนที่ทำให้ความคาดหวังของฉันลดลงอย่างรวดเร็ว มันทำให้ฉันสงสัยว่าจำเป็นด้วยหรอที่ต้องมีท่อนแร็พ" นักแต่งเพลงชื่อดัง B

โซนยอชิแด: ด้วยการที่เราต้องแสดงด้วยตัวของเราเอง มันไม่ได้น่าเบือเลย เหตุผลเดียวกับการที่พวกเราเป็นทีมเดียวกันมองดูพวกเราที่ทำอะไรไม่เหมือนกัน วันเวลาผ่านไป ฉันรู้สึกได้ถึงการทำงานเป็นทีมแบบที่โซนยอชิแดเท่านั้นที่มี คนอื่นบอกว่าเพลงนี้ยาก แต่ถ้าคุณดูการแสดงแล้ว คุณจะรู้สึกถึงพลังอย่างนึงค่ะ (ฮโยยอน)

พวกเราแร๊พในตอนแรกเป็นอะไรที่ดูเสียสติสำหรับเราเหมือนกันนะ (หัวเราะ) มันไม่ง่ายเลยแหละ ทั้งเพลงที่วนซ้ำๆ เพลงที่มีท่อนฮุค มันก็ฟังดูยากเหมือนกัน แต่พวกเราว่ายิ่งพวกคุณฟังมันจะดียิ่งขึ้นนะ 'เพลงนี้เพราะมากจริงๆ' (ยุนอา, ซูยอง)

-> "SM กำลังมองหา 'anti trend' มันเป็นการทดลองที่ดีนะ ยังไงก็ตามสำหรับแฟนๆที่คุ้นเคยกับเพลงที่มีท่อนฮุค นี่คงเป็นอะไรที่ลำบากหน่อย คุณบอกไม่ได้หรอกว่าท่อนไหนเป็นท่อนหลัก คุณไม่สามารถได้ยินท่อนฮุคได้อย่างชัดเจน" นักวิจารณ์ด้านวัฒนธรรม D

โซนยอชิแด: จริงๆแล้ว เราก็รู้สึกกลัวที่จะลองอะไรใหม่ๆนะคะ ยังไงก็ตามมันไม่ได้หมายความว่าความคิดว่าเราจำเป็นต้องแตกต่างจากเกิร์ลกรุ๊ปกลุ่มอื่น พวกเราแค่คิดว่า พวกเราควรโตขึ้นนะในอัลบั้มล่าสุด ถ้าคุณแสดงภาพลักษณ์ที่เหมือนๆเดิม มันก็ดูทั่วไป แล้วแฟนๆจะได้คุ้นเคยกับมัน ตามนั้นแล้ว สิ่งที่พวกเราต้องการคือเจริญก้าวหน้าและโตขึ้น พวกเราเลยลองทำอะไรใหม่ๆและท้าทายสิ่งต่างๆค่ะ

ฉันหวังว่าพวกเราจะเป็นวงที่ทำอะไรได้อย่างหลากหลายค่ะ ตอนแรกพวกเราก็กังวลจนกระทั้งอัลบั้มวางแผงเลย พวกเรากระวนกระวาย พวกเรากังวลว่ามันจะโอเคไหม แต่การลองทำอะไรใหม่ๆเป็นอีกแนวทางของพวกเราค่ะ เราอยากให้คนคิดว่า 'ภาพลักษณ์ที่ไม่คุ้นเคยแบบนี้ก็ยังเป็นโซนยอชิแด' (ยูริ)

-> "พอพูดถึงการนำเสนอ ฉันคิดว่ามันก็มีส่วนอีกยากอยู่นะ เพราะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรหลายๆอย่างในเพลงนี้ พูดถึงท่าเต้น, สไตล์ และ วีดีโอแล้ว มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะรวมมาไว้ทั้งหมด ยังไงก็ตาม พวกเธอก็เปลี่ยนและดูเติบโตขึ้น ฉันอยากจะชมเชยพวกเธอนะ" นักแต่งเพลง A ที่มีชื่อเสียง

โซนยอชิแด: ก่อนการถ่ายทำมิวสิควีดีโอ พวกเราได้ขอเวลาอีกหน่อยสำหรับท่าเต้นนี้ มันไม่ได้เป็นอะไรที่จะทำได้โดยการจำอย่างเดียว พวกเราต้องเข้าใจเนื้อเรื่องด้วย เพลงนี้ไม่ได้เป็นอะไรที่จัดแบบเป็นระเบียบ ฉะนั้นแล้ว สำหรับเพื่อคนฟัง พวกเราตั้งใจซ้อมกันอย่างมาก มันเลยใช้เวลานานเข้าไปอีก พวกเราคิดว่าพวกเราได้โตขึ้นระหว่างการทำสิ่งเหล่านี้ค่ะ (แทยอน)




3. ชีกึมมึน โซนยอชีแด ? = พวกเธอก็ยังคงเป็นเด็กสาวจนถึงตอนนี้ ยังไงก็ตาม ปัจจุบันพวกเธอก็ยังคงเป็นโซนยอชิแด? แล้วก็เพลงฮิตอย่าง 'Gee' หรือ 'Genie' จะเกิดขึ้นอีกครั้งในอนาคต? ผู้เชี่ยวชาญด้านเพลงต่างก็เห็นด้วย จากเพลงฮิตต่างๆ 'โซนยอชิแด ก็คือ โซนยอชิแด' พวกเขาบอก (โซนยอชิแด) อยู่คนละระดับไปแล้ว

-> "ในอดีต เวลานักแต่งเพลงกับนักร้องจะนึกทำคอนเซ็ปอะไรสักอย่าง จะมองหานักร้องต่างชาติก่อน ยังไงก็ตาม ตอนนี้มันได้เปลี่ยนไปแล้ว พวกเธอเลยลองทำอะไรที่มันแปลกใหม่และรวดเร็ว เหมือนพวกเธอก้าวนำหน้าไปก่อนเลย" นักแต่งเพลงชื่อดัง B

โซนยอชิแด: พวกเราไม่ได้แข่งกับใคร ถ้ามีอะไรที่เราสนใจ ก็คงจะเป็นตัวพวกเราเอง 'โซนยอชิแด' ถ้าพวกเราได้ที่ 1 แน่นอนว่าพวกเราต้องดีใจ ยังไงก็ตาม พวกเราไม่ได้ยึดติดกับสิ่งเหล่านั้นอีกแล้ว ถ้าพวกเราชอบการเปลี่ยนแปลงของพวกเรา ก็แค่นั้นค่ะ การถ่ายทอดบทเพลง, ร้องเพลง, ท่าเต้น และสไตล์อย่างถูกต้องตามที่พวกเราต้องการ แค่นั้นก็ทำให้พวกเราดีใจแล้ว การที่พวกเราดูเป็นธรรมชาติตอนนี้ก็ดีกว่าไม่ใช่หรอคะ? (ซูยอง)

-> "ถ้าเพลงแนวนี้ดังขึ้นมา มันจะกลายมาเป็นเทรน แน่นอนว่าความเป็นไปได้ของมันขึ้นอยู่กับคนที่เริ่มทำก่อน และมันก็เป็นไปได้เพราะคนลองทำคือโซนยอชิแด" นักแต่งเพลง A ที่มีชื่อเสียง

โซนยอชิแด: ความคิดเห็นที่ว่าการแสดงที่ผ่านมาของพวกเราดีกว่าก็มีคุณค่านะคะ ยังไงก็ตาม การเติบโตขึ้นและการตามหาอะไรใหม่ๆคือหน้าที่ของโซนยอชิแด โซนยอชิแดที่ร้องเพลง 'Kissing You' ไม่ได้หายไปไหน จริงๆแล้วพวกเราอยากจะแสดงอะไรอีกหลายอย่างให้ผู้คนเห็นกันค่ะ เราหวังว่าคนอื่นจะคิดว่า 'ภาพลักษณ์แบบนี้ ภาพลักษณ์แบบนั้นก็เป็นโซนยอชิแด' สิ่งที่เปลี่ยนไปคือเวลา ไม่ใช่โซนยอชิแด (แทยอน)

-> "ไม่ใช่แค่เพลง แต่ศิลปะทุกแบบก็เป็นแบบนี้ เป็นอะไรบางอย่างที่เรียกว่าความหลากหลายที่มีอยู่ ฉันถือว่าโซนยอชิแดแสดงสิ่งใหม่ๆ เป็นอะไรที่ดีขึ้นและเจริญก้าวหน้า" นักวิจารณ์เพลง E

โซนยอชิแด: มันย่อมมีภาระที่เราแบกไว้อยู่เพราะพวกเราคือโซนยอชิแด พวกเรามีความรู้สึกว่า จะทำยังไงดีถ้าพวกเราไม่สามารถทำเหมือนที่มีคนหวัง ยังไงก็ตาม เราไม่ได้ทุกข์ใจหรือคิดว่าสิ่งที่เราทำจะกลายมาเป็นเทรนหรือฮิต เป้าหมายของพวกเราก็คือ ถ่ายทอดภาพลักษณ์ที่เหมาะกับเพลง พวกเราทั้ง 9 คนก็เหมือนเดิม การแสดงบนเวทีเท่านั้นที่ไม่เหมือนเดิม (ทิฟฟานี่)

พวกเราดีใจและมีความสุขที่สุดกับการที่ได้ส่งผ่านสิ่งเหล่านี้ไปถึงคนดู สำหรับนักร้องแล้วจะมีสิ่งไหนที่ยิ่งใหญ่กว่านี้อีกหรอ? พวกเรามีความรู้สึกดีที่ได้แสดง แทนที่จะ 'เอาอัลบั้มนี้ไปตีตลาดที่ใหญ่กว่านี้กันเถอะ' พวกเราหวังแค่อยากให้เพลงที่พวกเราทำไปได้ดีเหมือนพลังที่พวกเราได้ใส่ไปค่ะ (ซูยอง)

Source: dispatch
Eng Trans: ch0sshi
แปลไทย: Translator Gang ll soshifanclub ll http://www.soshifanclub.com