Help - Search - Members - Calendar
Full Version: [Trans] บทสัมภาษณ์ยูริ&ซูยองจากหนังสือพิมพ์ม.จุงอังฉบับพฤษภาคม 2015
SoShi Fanclub - We Love Girls' Generation (SNSD) > Girls' Generation > News > Translate
EraOfGirls




[Trans] บทสัมภาษณ์ยูริ&ซูยองจากหนังสือพิมพ์ม.จุงอังฉบับพฤษภาคม 2015

หนังสือพิมพ์แห่งมหาวิทยาลัยจุงอังได้พบกับ: ควอนยูริและชเวซูยอง นักร้องนักแสดง (เอกการละครและภาพยนตร์ ชั้นปีที่ 4)

ชีวิตขีดเขียนขึ้นด้วยดินสอ มากกว่าแค่เพียงด้วยเสียงไมโครโฟน

วงที่คว้าชัยอันดับ 1 มากที่สุดจากรายการเพลงของเกาหลี แชมป์ผู้ครองชาร์ต Oricon ของญี่ปุ่น และเจ้าของสถิติยอดวิวมิวสิควิดีโอเค-ป๊อปบน YouTube เมื่อเดือนก่อน เฉกเช่นคำขวัญประจำวงที่พวกเธอกู่ก้อง “ตอนนี้คือโซนยอชิแด!” ยุคสมัยของหญิงสาวได้มาถึงอย่างแท้จริงแล้ว หลังจากเดบิวต์เมื่อปี 2007 ด้วยเพลง “Into the New World” พวกเธอเป็นผู้นำของยุคแห่งเกิร์ลกรุ๊ปเกาลีด้วยเพลง “Gee” และ “Tell Me Your Wish” ผงาดขึ้นมาเป็นเกิร์ลกรุ๊ปแห่งชาตินามว่า โซนยอชิแด เหตุผลที่ยูริและซูยองเป็นกันเองกับเราก็เพราะพวกเธอนั้นเป็นลูกศิษย์ชื่อดังของมหาวิทยาลัยจุงอัง ตั้งแต่ปีที่แล้วที่ทั้งคู่ทำหน้าที่เป็นทูตแห่งมหาวิทยาลัย เราได้รับฟังเรื่องราวเปิดใจของพวกเธอในฐานะนิสิตแห่งมหาวิทยาลัย และเรื่องราวพิเศษในฐานะของโซนยอชิแด

เร็ว ๆ มานี้ซูยองได้อัพโหลดภาพบนอินสตาแกรมพร้อมกับแคปชั่น “ชอบจังเวลาเห็นเธอตอนเช้า ๆ ^^ #รุ่นน้องยูริ” เป็นภาพหน้าสดของยูริกับซูยองที่กำลังยิ้มกว้าง เมื่อได้เห็นภาพที่ถ่ายระหว่างเดินทางไปเรียนทำให้เรานึกในใจว่า “เป็นลูกศิษย์ของม.จุงอังทั้งคู่เลยนี่!” และเหมือนว่าพวกเธอจะรู้ใจถึงได้ติดต่อเรามา ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าโซนยอชิแดมาเคาะถึงประตูบ้านของหนังสือพิมพ์จุงอัง อยากรู้จังเลยว่าพวกเธอรู้ข่าวอะไรจากหนังสือพิมพ์จุงอังของเรา

ถาม: แปลกใจจังที่พวกคุณมาขอให้เราสัมภาษณ์
ซูยอง:
ภาควิชาการละครของพวกเราสร้างผลงานการแสดงใหม่ ๆ ทุกฤดูค่ะ ตอนนี้พวกเรากำลังสร้างละครรับฤดูร้อน การเตรียมงานละครเรื่องนี้เป็นครั้งแรกทียูริกับฉันได้ร่วมทีมกัน เราเลยมาขอสัมภาษณ์เพื่อการโปรโมตละครของเรา และเพื่อกล่าวทักทายลูกศิษย์มหาวิทยาลัยที่อ่านหนังสือพิมพ์จุงอังค่ะ

ถาม: เรารู้มาว่าละครประจำฤดูกาลจะมีลายเรื่องมาจัดแสดง
ยูริ:
ใช่ค่ะ หน้าร้อนนี้ก็จะได้ชมสามเรื่องด้วยกันคือ <Chatterbox Our Father Has Cancer>, <Salome> แล้วก็ <Café Sinpa> ค่ะ เริ่มแสดงวันที่ 21 นี้ มาชมการแสดงกันด้วยนะคะ (555)

ถาม: จะได้เห็นซูยองกับยูริร่วมแสดงด้วยรึเปล่า?
ซูยอง:
ครั้งนี้เรารับหน้าที่เป็นทีมโปรโมตค่ะ แต่ฉันก็อยากจะลองแสดงหรือไปร่วมเป็นทีมสร้างก่อนเรียนจบค่ะ

ถาม: อีกนานไหมกว่าพวกคุณจะเรียนจบ? ซูยองเข้ามหาวิทยาลัยปี 2009 ส่วนยูริเข้าปี 2010
ยูริ:
ตอนนี้เราทั้งคู่กำลังเรียนเทอมแรกของปี 4 ค่ะ ฉันอยากจะมุ่งเรียนจบให้ทันกำหนดและสำเร็จการศึกษาค่ะ แต่ตอนนี้ความหวังเริ่มห่างไกล ฉันเลยจะต้องขยันให้หนักกว่าเดิมค่ะ

ถาม: ลองเปรียบเทียบตัวเองตอนนี้กับตอนที่เพิ่งเข้ามหาวิทยาลัยให้ฟังหน่อย?
ซูยอง:
รู้จักจางคือแรในเรื่อง “Misaeng” (ละครทีวี) ไหมคะ? ตอนมาเรียนแรก ๆ ฉันเป็นเหมือนจางคือแรเปี๊ยบเลยค่ะ คิดแต่ว่าเรื่องเรียนมันยากจังเลย ในขณะที่เพื่อน ๆ ของฉันเครียมตัวเข้ามหาวิทยาลัยมาดีมาก จำได้เลยว่าพยายามเรียนให้ทันเพื่อนเหมือนกับจางคือแร ตอนนี้ฉันอยู่ปี 4 และผ่านอะไรมาเยอะมาก เลยตามเรียนวิชาต่าง ๆ ได้ดีขึ้นกว่าเดิมแล้วค่ะ
ยูริ: แต่ฉันยังเรียนไม่ทันเลยนะ (555)
ซูยอง: อย่าเนียนย่ะ! เธอเองก็พูดนี่ว่าอยู่ปี 4 ก็รู้ดีหมดแล้ว! จางคือแรโผล่พรวดเข้ามาเป็นเด็กฝึกงาน มีแค่วุฒิมัธยมกับทักษะคอมพิวเตอร์พื้นฐาน จางคือแรต้องเจอความกดดันจากพวกภาษาธุริกิจเข้าใจยากและจากสายตาของคนรอบตัว เวลาเห็นแล้วก็อินตามไปด้วยเพราะรู้สึกว่าสภาพในอนาคตของพวกเราคงเป็นแบบนี้ เวลาได้ดูจางคือแร เหมือนว่าเราลืมความป็นคนดังไปเลยค่ะ คนดังนั้นอยู่กันคนละโลกกับเรา ที่ต้องดิ้นรนหางานทั่วไปทำ ทุกคนกลายเป็นเหมือนจางคือแรในโลกใหม่ที่ไร้ทักษะใด ๆ ถึงเป็นคนดังก็ไม่มีข้อยกเว้นค่ะ

ถาม: ทำไมคุณถึงเลือกมหาวิทยาลัยจุงอังที่ขึ้นชื่อเรื่องศิลปะ?
ยูริ:
อย่างแรกเลยคือภาควิชาการละครของมหาวิทยาลัยจุงอังมีประวัติเก่าแก่มายาวนาน มีรุ่นพี่ที่เด่นดังมากมาย ฉันประทับใจภาควิชาการละครของม.จุงอังเพราะประวัติยาวนานและลูกศิษย์ที่เก่งกล้าค่ะ
ซูยอง: ส่วนฉันได้ยินมาว่าระบบหลักสูตรการสอนของที่นี่ยอดเยี่ยมค่ะ

ถาม: โดนสอบสัมภาษณ์หรือออดิชั่นเพื่อเข้าเรียนรึเปล่า?
ซูยอง:
จำได้ค่ะว่าวันนั้นฉันแย่มาก

ยูริ: ฉันสมัครเรียนหลังจากหยุดพักไปช่วงนึง เลยได้ออดิชั่นไปก่อนแล้วค่ะ ฉันเตรียมตัวไว้ดีเพราะรู้ขั้นตอนของการออดิชั่นแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ทั้งตื่นเต้นทั้งอายตอนออดิชั่นเข้าม.จุงอัง จำได้ว่าตอนนั้นเอาฉากจากเรื่อง “Carmen” มาแสดงค่ะ

ถาม: ที่อายเพราะแสดงไม่ออกเหรอ?
ยูริ:
เปล่าค่ะ แต่อาจารย์ที่สัมภาษณ์ฉันถามฉันว่าเป็นนักร้องอยู่ใช่ไหม ฉันเลยตอบไปว่าอยู่ในวงโซนยอชิแดค่ะ พอตอบไปแบบนั้น เขาก็ขอให้เต้นหรือร้องเพลงที่เคยไปแสดงบนเวทีมา ฉันเลยร้อง “Tell Me Your Wish” สด ๆ ไม่มีดนตรีแล้วก็เต้นท่าเตะขาไปด้วย
ซูยอง: ร้องปากเปล่าเลยเหรอ?
ยูริ: ใช่ ร้องไปเต้นไป

ถาม: อาจารย์คงจงใจขอให้ทำแบบนั้นแน่ ๆ
ยูริ: ใช่ค่ะ เขาคงอยากจะเห็นว่าฉันทำได้รึเปล่า เพราะฉันอาจจะทั้งเขินทั้งอาย คงอยากทดสอบว่าฉันมุ่งมั่นจะเรียนสถาบันนี้ท่ามกลางความกดดันแบบนี้ได้จริงไหม

ถาม: แล้วมหาวิทยาลัยนี้เป็นยังไงบ้าง? หลังจากพยายามหนักเพื่อสอบเข้ามา?
ซูยอง:
อย่างที่บอกค่ะ ฉันเป็นเหมือนจางคือแรในตอนแรก มันก็มีช่วงที่สนุกอย่างเวลาได้เกรดสูง ๆ หรือได้รับคำชม แต่ก็มีหลายครั้งที่รู้สึกเหมือนโดนทอดทิ้ง มีวันนึงฉันรีบวิ่งไปห้องเรียนเพราะกลัวสาย แต่ว่าไม่มีใครอยู่เลย พอถามคนแถวนั้นเขาก็บอกว่า “วันนี้เขางดสอนนะ มาทำไมเนี่ย?” เพราะฉันเป็นดารา เลยไม่มีใครบอกฉันเลยว่าวันนั้นเขางดสอน เวลาเรียนก็เหมือนกันค่ะ เคยได้ยินคนพูดว่า “ถ้าเธอไม่ได้เอก็ดีแล้วนี่ จะได้กลับบ้านไปซะ” รู้สึกเหมือนโดนทอดทิ้งจริง ๆ ค่ะ

ถาม: แม้จะเจอเรื่องแย่ ๆ แต่ก็มาถึงตรงนี้ได้เพราะรู้จักปรับตัวสินะ
ยูริ:
ถูกค่ะ ส่วนตัวแล้วฉันคิดว่าพี่ซูยองเป็นคนที่จริงใจและมีความพยายามเต็มที่ค่ะ
ซูยอง: ทำไมอยู่ดี ๆ มาเรียกฉันว่าพี่ล่ะจ๊ะ?
ยูริ: ก็เป็นรุ่นพี่ฉันนี่ พี่ซูยองขรา (555) พี่ซูยองมีชื่อเสียงดีในหมู่อาจารย์ ทำให้ฉันได้รับพลังบวกจากเธอไปด้วย เพราะเราเป็นเพื่อนจากวงเดียวกัน ทำให้ทุกคนคิดว่ายูริเองก็ขยันทำงานเหมือนกันค่ะ

ถาม: ซูยองคิดยังไงกับคอมเมนต์นี้?
ซูยอง: ที่ยูริได้ดีก็เพราะฉันนี่แหละค่ะ (ยิ้มแรง) ล้อเล่นน่ะ ขยันทำงานเป็นสไตล์ของฉันอยู่แล้ว
ยูริ: ซูยองนั่งเรียนแถวหน้าประจำเลย
ซูยอง: นั่งหน้าแล้วผิดตรงไหนยะ?

ถาม: กล้ามานั่งแถวน้าไม่ใช่เรื่องง่ายนะ
ซูยอง: ปีแรก ๆ มันก็ยากค่ะ แต่ตอนนี้เรียนใกล้จบแล้ว ยูริก็เซียนแล้ว ถ้ามาเรียนไม่ได้ก็จะแจ้งอาจารย์แล้วมาย้อนอ่านชีทเอง แถมยังสนิทกับรุ่นน้องด้วย คนละเรื่องกับฉันเลยค่ะ ยูริเขามีออร่าพิเศษ รุ่นน้องเลยคอยเรียก “เจ๊” แล้วก็ตามต้อย ๆ

ถาม: มีวิชาไหนที่ประทับใจเป็นพิเศษไหม?
ซูยอง: หลังจากเรียนวิชาบังคับศิลปศาสตร์แล้ว ก็รู้สึกว่าพวกวิชาของมหาวิทยาลัยก็สำคัญค่ะ โดยเฉพาะหลังเรียนวิชา <ตรรกศาสตร์และการคิด> กับ <การบัญชีกับสังคม> แล้วค่ะ

ถาม: <การบัญชีกับสังคม> ฟังดูเรียนยากนะ
ซูยอง: แรก ๆ ฉันก็ไม่รู้เรื่องเลยค่ะ แต่ก็เข้าใจว่าทำไมต้องเรียน ในมหาวิทยาลัยเป็นช่วงที่ต้องเรียนศัพท์เศรษฐศาสตร์ยาก ๆ และเข้าใจทันให้ถูก แม้ตอนนี้คุณพ่อคุณแม่ของฉันจะดูแลเรื่องการเงินให้ แต่วันนึงมันจะกลายเป็นหน้าที่เรา นี่คือความรู้พื้นฐานเพื่อการดำรงชีวิตค่ะ แน่นอนว่าตอนนี้ฉันก็ไม่ได้รู้ดีไปทุกอย่าง แต่หลังจากที่ได้ลงเรียนไปก็น่าจะทำให้รู้อะไรมากขึ้นกว่าเดิมค่ะ

ถาม: การเรียนนั้นเรื่องนึง แต่คุณรู้ถึงความยากเย็นแสนเข็ญของการทำงานกลุ่มไหม?
ซูยอง: รู้ซึ้งเลยค่ะ เราต้องทำงานกลุ่มแบบเลี่ยงไม่ได้เป็นประจำ
ยูริ: งานกลุ่มกับโซนยอชิแดนี่แหละ!
ซูยอง: นั่นแหละค่ะ เราเลยเข้าใจประโยคที่ว่า “จะมีคนที่ทำทุกอย่าง กับคนที่ไม่ทำสักอย่าง” นี้ดี มีเพื่อนที่บอกว่าจะทำพาวเวอร์พอยท์ให้ แล้วก็ทำงานหนักอยู่คนเดียว ฉันรู้ซึ้งถึงความยากในการจับคนมารวมกลุ่มกันค่ะ
ยูริ: มีช่วงน่าลำบากใจเวลาที่เราเข้าเรียนไม่ได้ค่ะ มันน่าเสียดายเพราะฉันอยากจะตั้งใจเรียนให้ดี ที่มหาวิทยาลัยสอนให้ฉันรู้ถึงความยากของการทำงานเป็นทีม ฉันก็พยายามทำหน้าที่ของฉันให้ดีตามสถานการณ์ค่ะ

เรายิงคำถามไปว่า “ในงานของโซนยอชิแดทั้งกลุ่ม พวกคุณสองคนทำหน้าที่อะไร” “ปกติถ้าทำกิจกรรมเป็นกลุ่ม ก็จะมารวมตัวกันก่อนวันสุดท้าย” แต่เวลาที่ซูยองจะพูดอะไร สไตล์ของเธอคือต้องถามว่า “เมื่อไหร่เราจะมาพร้อมหน้ากันได้” หรือ “ว่างกันตอนไหน?” “ส่วนคติของยูริก็คือ “ต้องสนุกไว้ก่อน” ดังนั้นแม้ว่าเธอจะออกตัวก่อน แต่ถ้าเริ่มเบื่อล่ะก็ เธอก็จะหายเข้าไปในโลกส่วนตัวมั้ง? (555) หลังจากนั้นถ้าเธอพลาดโอกาสได้เป็นตัวเด่น ก็จะมานั่งเสียดาย” ทั้งยูริและซูยองเปิดใจคอมเมนต์ซึ่งกันและกัน หลังจาก 8 ปีของการทำงานกลุ่มชื่อโซนยอชิแด พวกเธอก็ให้คำตอบแบบจริงใจไม่ปรุงแต่ง 8 ปีมาแล้วนับแต่ที่พวกเธอเดบิวต์ เด็กสาววัย 18 ที่เคยร้องเพลงว่าอย่ามาล้อฉันเล่น (จากเนื้อเพลง “Girls’ Generation”) กลายเป็นภาพอดีตเมื่อตอนนี้พวกเธอมายืนอยู่บนจุดสูงสุด

ถาม: เรามีคลิปเวทีแรกของพวกคุณด้วย ยังจำกันได้ไหม?
ยูริ:
ตอนนั้นเราว้าวมาก แต่พอกลับมาดูตอนนี้ มันเชยเป็นบ้าเลยค่ะ

ถาม: รู้สึกยังไงตอนขึ้นเวทีครั้งแรก?
ยูริ:
ค่ายของเราจะจัดโชว์เคสประจำปีเพื่อให้เด็กฝึกได้มีโอกาสลองขึ้นเวทีค่ะ เพราะเรามีประสบการณ์แล้ว เลยไม่ค่อยตื่นเต้นเรื่องการออกทีวี และเพลง “Into the New World” เราก็เตรียมการกันมาเป็นปีแล้วค่ะ
ซูยอง: ฉันก็รู้สึกแบบนั้นค่ะ แต่พอได้เห็นหน้าของพ่อกับแม่แล้ว ก็รู้สึกอบอุ่นจนตื้นตัน

ถาม: แล้วตอนเพลง “Gee” ล่ะเป็นไงบ้าง? “Gee” เป็นเพลงยอดฮิตประจำวงโซนยอชิแดไปแล้ว
ยูริ:
เราซาบซึ้งมากที่หลายคนชอบกัน แม้หลายคนจะคิดว่า “Gee” ฮิตได้ในช่วงข้ามคืน แต่ฉันไม่คิดแบบนั้นค่ะ มันเป็นเหมือนเพียงขั้นหนึ่งในการเติบโตของพวกเรามากกว่า

ถาม: คุณไม่รู้สึกฟินไปกับความสำเร็จของเพลง [b]“Gee” เหรอ?
ยูริ:[/b] ฉันไม่รู้สึกแบบนั้นค่ะเพราะตอนนั้นเรางานยุ่งเอามาก ๆ ทั้งเรื่องที่เพลงขึ้นที่ 1 ต่อเนื่อง 9 อาทิตย์หรือที่ชุดของเรากลายเป็นเทรนด์แฟชั่น เราไม่มีเวลามาคิดเรื่องพวกนี้เลยค่ะ พอกลับมาฟังเพลงนั้นอีกรอบ รู้สึกว่า “Gee” เป็นเพลงที่ยอดเยี่ยมมาก และคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันเจ๋งสุด ๆ ถึงแม้ว่าตอนนั้นเราจะไม่รู้ตัวก็ตาม

ถาม: หลังจากนั้น ทั้ง “Tell Me Your Wish” กับ “Oh!” ก็ดังระเบิด แต่กับเพลงอย่าง “The Boys” หรือ “I Got a Boy” กลับทำให้เกิดเสียงแตกต่างกันไปในหมู่ผู้ชม
ซูยอง:
เราพยายามจะลองเจาะตลาดใหม่ แต่ฉันคิดว่ามันคงต่างไปจากสไตล์ของโซนยอชิแดที่ทุกคนนึกภาพไว้ค่ะ ตอนนี้เราไม่ได้ตั้งใจที่จะทำเพลงฮิต ๆ แบบ “Gee” แล้ว แต่ถ้ามันเกิดเป็นแบบนั้นได้ฉันก็จะฟินมาก ๆ ค่ะ เพียงแต่เป้ามายของเราตอนนี้คือท่าเต้น จุดแข็งหลักของโซนยอชิแดคือการรวมทีมเต้นและประสานพลังเสียง ทำให้เราคิดหนักเรื่องการทำเพลงให้ออกมาโดดเด่นในทั้งสองด้านนี้ค่ะ

ถาม: ที่คุณคิดหนักนี่มันเป็นสัญญาณการคัมแบ็คเร็ว ๆ นี้ของโซนยอชิแดรึเปล่าเอ่ย?
ยูริ:
กิจกรรมของวงคือเป้าหมายหลักของเราตอนนี้ค่ะ ถึงตอนนี้ฉันจะได้รับงานเดี่ยวมาบ้าง แต่ถ้ามันชนกับงานของวงก็เลือกที่จะทำให้วงก่อนค่ะ

ถาม: เราจะได้เห็นโซนยอชิแดกลับมาพร้อมหน้าเป็นวงเมื่อไหร่?
ซูยอง:
ภายในปีนี้แน่นอนค่ะ อีกไม่นาน อีกไม่นาน!


ตอนแรก เราตื่นเต้นมากที่จะได้เจอพวกเธอ ตอนเรียนมัธยม เราเต้นตามเพลง “Oh!” กับเพื่อน ๆ และเมื่อขึ้นมหาวิทยาลัย เราก็เอาเพลง “Into the New World” ไปประกวดความสามารถ เรานึกอิจฉาโซนยอชิแดตลอดมา และตอนนี้พวกเธอก็มานั่งอยู่่ตรงหน้านี้ เราเลยถามว่า ความฝันต่อจากนี้ของคุณคืออะไร? เราถามโดยคาดหวังว่าคำตอบน่าจะเป็นคอนเสิร์ตเวิลด์ทัวร์หรือเป็นแชมป์ที่ 1 บนชาร์ต Billboard แต่ที่คาดการณ์ไว้กลับผิดหมด


ถาม: คุณได้เดินในเส้นทางที่นักศึกษามหาวิทยาลัยทั่วไปไม่อาจสัมผัส มีอะไรที่คุณอยากจะแนะนำกับเพื่อน ๆ นักศึกษาบ้าง
ซูยอง
: ฉันว่าคนที่จะแนะนำเราคือนักศึกษาคนอื่น ๆ ต่างหากค่ะ (555)
ยูริ: เหมือนว่าเราจะแก่กว่านักศึกษาคนอื่นนะ เพราะพวกเขาทั้งยังเด็กและไฟแรง ฉันก็อยากให้ทุกคนพยายามทำในทุกสิ่ง แล้วก็อยากให้ทุกคนเล่นให้สนุก เรียนให้ดี พักผ่อนให้เยอะ และได้กินของดี ๆ แล้วก็เอาใจใส่ในทุกสิ่งค่ะ
ซูยอง: ของฉันนี่คนละเรื่องเลยค่ะ ฉันอยากจะให้ทุกคนตั้งตัวได้ไวและมีชีวิตมั่นคง ที่คนบอกว่าขอให้สนุกเพราะเกิดมาแค่ครั้งเดียว แต่ถ้ามองอีกมุมนึง ชีวิตก็คือโอกาสเดียวที่จะมุ่งมั่นในสิ่งที่ตัวเองรัก ถ้าคุณขยันทำงานในวันนี้ คุณก็จะสบายในวันหน้าค่ะ

ถาม: พวกคุณมีเวลาพักผ่อนกันบ้างไหม? เห็นทำงานมาตั้งแต่เป็นด็กเลย
ยูริ:
ยังมีอีกหลายอย่างที่ฉันต้องทำค่ะ ยังอีกหลายอย่าง
ซูยอง: ฉันคุยกับยูริทุกเรื่องอยากทำในอนาคต รู้สึกว่ามีอะไรยาก ๆ หลายอย่างที่อยากทำค่ะ


ถาม: แม้คุณจะมายืนในจุดสูงสุด แต่ก็ยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องการเหรอ?
ยูริ:
พอเรียนจบมหาวิทยาลัยแล้ว ทุกคนก็จะเครียดเรื่องหางานทำใช่ไหมล่ะคะ? ฉันเองก็เครียดเรื่องนั้นด้วย ถึงตอนนี้ฉันจะเป็นโซนยอชิแด แต่มันก็ไม่ได้การันตีอนาคตเลย ฉันรู้สึกเครียดมากกับเรื่องนี้ แม้จะคิดหาทางออกทุกวันแต่ก็ยังไม่ได้คำตอบ เลยตัดสินใจว่า “พอถึงเวลาก็ค่อยคิดแล้วกัน”

ถาม: มีเป้าหมายชีวิตที่ตั้งไว้ไหม?
ยูริ:
ตอนนี้คือตั้งใจเรียนให้จบก่อนค่ะ หลังจากนั้นอยากจะเป็นนักแสดงค่ะ
ซูยอง: มีเป้าหมายเฉพาะหน้าค่ะ วันนี้เป็นวันผู้ปกครอง เลยจองร้านอาหารไปทานมื้อค่ำกับคุณพ่อคุณแม่ ฉันคิดว่าชีวิตตัวเองมีไว้เพื่อดูแลคนอื่น ฉันไม่เคยวาดฝันไกลเรื่องอาชีพเลย แทนที่จะตั้งเป้าหมายไว้ว่า “ต้องทำแบบนั้นแบบนี้” ฉันเลือกที่จะคิดว่าอยากทำอะไรก็ลองทำเลย ถ้ามันไม่เป็นอย่างที่หวังไว้ ก็เปลี่ยนไปลองอย่างอื่นได้ ส่วนวันนี้ฉันจะทานมื้อค่ำกับพ่อแม่ค่ะ หลังจากนั้นก็จะซ้อมอัดเสียงแล้วไปเยี่ยมพ่อแม่ตอนค่ำ ๆ


มหาวิทยาลัยจุงอังมีความหมายยังไงกับคุณ?


ซูยอง: เพื่อนในบางเวลามั้งคะ (555) เหมือนการต่อสู้ดิ้นรน อย่างที่บอกไปค่ะว่าบางทีก็สนุกมาก แต่บางทีก็รู้สึกโดนทอดทิ้ง แต่พอตอนนี้มาอยู่เทอมแรกของปี 4 และใกล้เรียนจบแล้ว ฉันก็คงจะคิดถึงมันค่ะ ฉันไม่ได้ฝืนตัวเองแบบนี้ตั้งแต่เป็นศิลปินฝึกหัดแล้ว เหมือนกบในกะลา ฉันติดอยู่ในกะลาชื่อโซนยอชิแด และมหาวิทยาลัยจุงอังคือการเปิดโลกภายนอกของฉันค่ะ

ยูริ: มหาวิทยาลัยจุงอังเหรอคะ? ที่นี่คือครอบครัวค่ะ! เป็นสิ่งล้ำค่าที่ฉันขาดไปไม่ได้ เป็นสถานที่ซึ่งฉันต้องมีไว้เคียงข้าง แน่นอนว่าทั้งการสอบทั้งเรื่องเรียนมันก็ยาก งั้นขอพูดแบบนี้ละกันค่ะ ม.จุงอังก็คือ...ครอบครัว แต่เป็นเหมือนแม่ยายจอมโหด?



ภาพจากเวทีการแสดงมินิอัลบั้มชุดที่ 4 ของโซนยอชิแด “Mr. Mr.” ที่เราได้เห็นบ่อย ๆ ในรายการเพลงเกาหลีช่วงหนึ่งที่ผ่านมา เราได้พบกับโซนยอชิแดที่เติบโตขึ้นและแข็งแกร่งยิ่งขึ้น




Source: cauon via SonexStella
แปลไทย: EraOfGirls ll soshifanclub ll http://www.soshifanclub.com


bya28
อยากเห็นสองสาวเรียนจบเร็วๆจัง

ขอบคุณสำหรับบทความครับ^^
loveyoulovena

ยูริเขามีออร่าพิเศษ รุ่นน้องเลยคอยเรียก “เจ๊” แล้วก็ตามต้อย ๆ
เฮียเจ้าชู้นิหว่า 555


คติของยูริก็คือ “ต้องสนุกไว้ก่อน” ดังนั้นแม้ว่าเธอจะออกตัวก่อน แต่ถ้าเริ่มเบื่อล่ะก็ เธอก็จะหายเข้าไปในโลกส่วนตัวมั้ง? (555) หลังจากนั้นถ้าเธอพลาดโอกาสได้เป็นตัวเด่น ก็จะมานั่งเสียดาย
เฮียยูล... พี่จะหลุดเข้าไปอยู่ในมิติที่ 4 ทำไม๊ กั๊บยูลออนนี่!

5555

รักพี่สาวจัง


ปล.ขอบคุณสำหรับข่าวครับ
bosssone
ขอบคุณสำหรับบทความคับ^^
iFeelGood-Yuri
ขอบคุณค่ะ

...

แม่ยายจอมโหด เด๋วๆ ของเธอต้องแม่สามีจอมโหดซิ
555555

ชอบความคิดแบบยูริอะ กังวลสักนิด แล้วก็กลับมาคิดได้ว่า ช่างมันเถอะ ถึงเวลาค่อยว่ากันอีกที ^^
allforone
ขอบคุณสำหรับการแปลบทสัมภาษณ์นี้นะคะ กำลังรออ่านอยู่เลยค่ะ
อ่านแล้วมีความสุขจัง ได้เข้าใจตัวตนและความรู้สึกนึกคิดของยูลกะซูยองมากขึ้น
ยูลเป็นคนใช้ชีวิตได้น่าอิจฉาจังทั้ง life style ที่เห็นใน ig
หรือแม้กระทั่งบทสัมภาษณ์นี้ดูคุณควอนจะมองโลกในแง่ดี มีอารมณ์ขันด้วยสมชื่อกั๊บ
เครียดบ้างกังวลบ้าง แปปๆก้อแบบช่างมันๆ เดี๋ยวค่อยคิดก้อได้ 555
ใช้ชีวิตแบบสร้างความสุขให้ตัวเองอย่างเต็มที่ คือมีชีวิตดี๊ดีนะคะคุณควอน

ส่วนซูยองดูจะจริงจังกะการเรียนและการใช้ชีวิตมากกว่ายูลเยอะเลย
แถมยัง sensitive ด้วยอย่างที่บอกว่าบางครั้งรู้สึกเหมือนโดนทอดทิ้งโดดเดี่ยว
แต่ชอบซูยองที่บอกมานั่งเรียนแถวหน้า หรือแนะนำเรื่องการใช้ชีวิตที่ต่างกะยูลเลย
ยูลบอกเรียนให้สนุก กินอาหารให้อร่อย หลับให้เยอะๆ
แต่ซูยองบอกชีวิตเลือกได้ต้องจริงจังลำบากวันนี้เพื่อสบายในวันหน้า
เบื้องหน้ายูลหยองคู่ซี๊ที่ดูเป็นคนสนุกสนานมากทั้งคู แต่แนวคิดนี่ต่างกันเลย
แต่ก้อชอบแนวคิดของทั้งคู่นะคะ คิดคนละแบบแต่ก้อทำงานออกมาประสบความสำเร็จและเป็นที่รักของผู้ชมทั้งคู่
soshiFC_prae
ขอบคุณสำหรับคำแปลนะคะ อ่านไปยิ้มไป ไอ้พี่สองคนเนี้ยยย น่ารักซะจริงๆ ฮิๆ
violet_m
ขอบคุณสำหรับคำแปล
SaIBeR
ขอบคุณสำหรับคำแปลบทความดีๆค่าาา

รอพวกเธอรับปริญญาอยู่นะ
SmileyAoy
ยูลหยอง จะรอจบพร้อมกันใช่มั้ย

แต่ยูลดูจะเอ็นจอยกับชีวิตนิสิตมากกว่าหยองนะ
This is a "lo-fi" version of our main content. To view the full version with more information, formatting and images, please click here.
Invision Power Board © 2001-2025 Invision Power Services, Inc.