[Interview] บทสัมภาษณ์โซนยอชิแดฉบับเต็มกับอัลบั้ม "The Boys"




ในระหว่างการสัมภาษณ์กับ Chosun Daily เมื่อวันที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมา สาวๆโซนยอชิแดพูดถึงการทำงานกับโปรดิวซ์เซอร์ชื่อดัง 'เท็ดดี้ ไรลีย์'
และความคิดเห็นของพวกเธอในระหว่างการเตรียมตัวกับอัลบั้มใหม่ และสิ่งที่พวกเธอหวังจะทำให้สำเร็จในอัลบั้มนี้ และในอนาคต
สมาชิกทั้งหมดยกเว้น นักแสดงอิมที่กำลังติดถ่ายดราม่าเรื่องใหม่ ได้ให้สัมภาษณ์ด้วยกระตือรือร้น ใบหน้าเปื้อนยิ้มตลอดเวลา และให้ความร่วมมือกับทางเราเป็นอย่างดีอีกด้วย

พาร์ท 1 การซ้อมเต้น? พวกเราซ้อมหนักกันถึงจุดที่ว่าจะเดินเหินขึ้นลงบันไดยังลำบากเลยค่ะ

ฉันหวังว่าผู้คนจะไม่พยายามเปรียบเทียบเรากับเกริล์กรุ๊ปวงอื่นๆ เมื่อเป็นเรื่องการแสดงในอารีน่าที่ญี่ปุ่น หรือการแสดงอื่นๆของเราในต่างประเทศนะคะ

โซนยอชิแดได้ทำงานร่วมกับโปรดิวซ์เซอร์ เท็ดดี้ ไรลีย์ชื่อดัง ผู้โปรดิิวซ์อัลบั้มให้กับไมเคิลแจ็กสันในอัลบั้มหลังๆ เพื่อที่จะครอบคลุมโลกดั่งพายุโถม
ด้วย Universal music group อเมริกา โซนยอชิแดวางแผนที่จะปล่อยอัลบั้มชุดที่ 3 ของพวกเธอไปทั่วโลก เริ่มที่อเมริกา ยุโรป และอเมริกาใต้ และแน่นอน,ที่เอเชีย

เพลงใหม่ของพวกเธอ 'The Boys' นั้นแหกรูปแบบเพลง'ฮุก' มาเป็นเพลงที่หนักด้วยเสียงกลอง และมีจังหวะที่แตกต่างผสมผสานด้วยบีทตึบๆและการร้อยเรียงที่เข้ากัน
ก่อเป็นเสียง ป็อปเออร์เบิ้นซาวน์ด

ถึงแม้ว่าสาวๆโซนยอชิแดจะออกสื่อ และวาไรตี้โชว์ หน้าตาของพวกเธอเป็นที่คุ้นเคย แต่ก็นับเป็นเวลากว่า 11 เดือนแล้วที่พวกเธอห่างหายไปจากวงการเพลงของเกาหลี
สาวๆพูดว่า 'เพื่อที่จะแสดงให้แฟนๆเห็นโซชิเวอร์ชั่นอัพเกรด สมาชิกทั้ง 9 ของเราอุทิศเวลาในการฝึกซ้อมต่อเนื่องยาวนาน' แทยอนสารภาพว่า 'เพราะความหนักหนา และการฝึกซ้อมดึกดื่น
มันทำให้เราถึงกับเดินขึ้นลงบันไดกันแทบไม่ไหวเลยหล่ะค่ะ'

ในทางตรงกันข้าม สาวๆเล่าว่าพอถึงเวลาอัดเพลงกับโปรดิวซ์เซอร์ เท็ดดี้ ไรลีย์นั้น เหมือนหนังคนละม้วนเลยทีเดียว ลีดเดอร์แทยอนกว่าวว่า "พอถึงวันบันทึกเสียง
เท็ดดี้จะบอกให้เราแค่เต้น ปลดปล่อยไปกับทำนอง เพื่อกำจัดความประหม่าออกไปค่ะ มันสนุกมากทีเดียว" ยูริกล่าวต่อว่า "บรรยากาศในการทำงานนั้นเป็นไปอย่างสบายๆค่ะ
ตลอดเวลา เท็ดดี้จะดึงเอาเอกลักษณ์ จุดเด่นในน้ำเสียงของแต่ละคนออกมา และช่วยให้เราทำให้มันสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีค่ะ "(หัวเราะ)

ในอัลบั้มนี้ นับเป็นครั้งแรกที่สมาชิกในวงลองชิมลางกับการแร็พ ซูยองเผยว่า "เพราะว่านี่เป็นครั้งแรกที่เพลงของเรามีท่อนแร็พนับจากเดบิวท์มาเลยนะคะ เราเลยค่อนข้างกังวล
ในอัลบั้มนี้พวกเราได้ทดลองแนวเพลงใหม่ๆหลายแนว ฉันตั้งตาคอยดูส่วนของพี่ฮโยยอนในเพลงมากที่สุดค่ะ เพราะว่าพี่เค้าเป็นที่รู้กันว่ามีเซนส์ในด้านแนวการแร็พ และเต้นฮิพฮอพที่ดีหน่ะค่ะ

ถึงแม้ว่าพวกเธอจะกลับมาพร้อมอัลบั้มเต็มที่จะวางแผงขายทั่วโลก ตามที่ประกาศ "เราไม่แผนโปรโมทระยะยาวในต่างประเทศค่ะ
ในระหว่างนี้เราจะโฟกัสไปที่การโปรโมทในเกาหลี และการแสดงในต่างประเทศนั้นไม่ใช่เพียงวิธีเดียวที่ทำให้เราเข้าถึงแฟนๆต่างชาติ
ยังมีอีกหลายวิธีค่ะ ทั้งยูทูป และเฟซบุ๊ค (หัวเราะ) "



พาร์ท 2. ความพยายามครั้งแรกกับการเขียนเนื้อเพลง ฉันเปลี่ยนเนื้อเพลงแม้กระทั่งตอนที่อยู่ในห้องอัดแล้วด้วย (ซูยอง)

"อัลบั้มภาษาอังกฤษอัลบั้มแรก... การออกเสียง เป็นสิ่งสำคัญที่พวกเราต้องเน้น"

สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับอัลบั้มนี้ก็คือ หนึ่งในสมาชิกของพวกเธออย่างซูยองนั้น ลงมือเขียนเนื้อเพลงด้วยตัวของเธอเอง ซูยองเป็นที่รู้กันดีว่าเธอมีจิตใจที่งดงาม และค่อนข้างเคร่งในศาสนา เธอได้แต่งเพลง Spring Day (How great is your love?) โดยบรรยายถึงพระเจ้าและความรักอันแสนอบอุ่นที่พระองค์มีให้ ซูยองกล่าวว่า จริงๆ เพลงนี้ก็ไม่ได้พูดถึงพระเจ้าทั้งหมดหรอกนะคะ (หัวเราะ) มันยังหมายถึงความรักที่เรามีให้กับพ่อแม่ คนรัก และก็เพื่อนด้วยค่ะ ฉันถูกขอให้ใช้ช่วงเวลาพักในการเตรียมตัวเขียนเนื้อเพลงสำหรับเพลงนี้ ฉันคิดอยู่นานกว่าจะตอบตกลง ฉันใส่ความคิดความตั้งใจลงไปในเพลงนี้มาก ในขณะเดียวกันฉันก็พบว่ามันยากมากทีเดียว แม้กระทั่งวันที่พวกเราอัดเสียงเพลงนีตอนที่พวกเรากำลังอัดเสียงกันอยู่ ฉันยังมีส่วนที่ต้องแก้ไขอีกด้วย ตอนนั้นฉันหัวเราะไม่ออกเลยทีเดียว แต่เป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำมากเลยค่ะ

ว่ากันว่าทิฟฟานีนั้นมีความมั่นใจมากที่สุดในการเตรียมตัวสำหรับอัลบั้มภาษาอังกฤษ เธอบอกว่า เพราะว่าฉันโตมากับการใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร การเตรียมตัวสำหรับอัลบั้มนี้จึงไม่ใช่เรื่องยาก เจสสิกาเสริมว่า "แม้ว่าพวกเราจะไม่ได้เรียนเน้นทางด้านการออกเสียงก่อนหน้านี้ แต่พวกเราก็ตั้งใจและจริงจังกับการฝึกออกเสียงที่ถูกต้องค่ะ เมื่อถูกถามถึงการเข้าสู่ชาร์ตบิลบอร์ดของอเมริกา พวกเธอก็ตอบว่า พวกเราดีใจและเป็นเกียรติมากค่ะที่อัลบั้มของพวกเราจะได้วางขายในอเมริกาด้วย บิลบอร์ดหรือคะ? พวกเรายังไมได้คาดหวังไปไกลขนาดนั้น (หัวเราะ)

ในขณะที่ยังรักษาภาพลักษณ์ของ SNSD ไว้อยู่นั้น สาวๆ ก็เลือกที่จะเพิ่มคอนเซปท์ "ระดับโลก" ผสมกันไปด้วย และการรอการกลับมาอย่างใจจดใจจ่อว่ากลับมาครั้งนี้ สาวๆ จะมีอะไรใหม่ๆ บ้างในอัลบั้ม พวกเธอบอกว่า โชว์ของพวกเราจะเจ๋งและมีพลังยิ่งกว่าเดิมค่ะ พวกเราทิ้งคอนเซปท์ชุดยูนิฟอร์มที่ใส่เหมือนกันทั้งวงออก และเปลี่ยนลุคใหม่ให้บุคลิกและความมีเสนห์ของแต่ละคนเด่นชัดขึ้น ในโชว์ของพวกเราอีกต่อๆ ไปจะมีสิ่งใหม่ๆ ที่น่าสนใจมากขึ้นไปอีกค่ะ ฉะนั้นได้โปรดช่วยติดตามการคัมแบคของพวกเราด้วยนะคะ! (ทิฟฟานี และแทยอน)



พาร์ท 3. แฟนต่างประเทศที่ขอกอดฉันขณะที่เราทำการแสดงอยู่ ทำให้ฉันประหลาดใจมากค่ะ (แทยอน)

เพื่อให้เข้ากับนิยามของคำว่า ยุคสมัยของเด็กสาว? พวกเราเลือกโปรโมทคอนเซปท์ใหม่ของพวกเราให้เข้ากับอายุของพวกเราเองค่ะ

เมื่อตอนที่ต้องตัดสินใจเลือกคอนเซปท์ของพวกเธอ สาวๆ นั้นแอบถามว่า พวกเราต้องใส่เสื้อยืดสีขาวกับกางเกงยีนส์อีกไหมคะ? เนื่องด้วยความหมายของคำว่า "โซ นยอ ชิ แด = ยุคสมัยของเด็กสาว นั่นเอง พวกเธอถูกตั้งข้อสงสัยกันมากว่าพวกเธอควรจะเก็บภาพลักษณ์เด็กวัยใสน่ารักต่อไปอยู่หรือไม่ อย่างไรก็ตาม สาวๆ กลับเลือกที่จะเปลี่ยนแปลงทีละเล็กทีละน้อย เพื่อแสดงให้เห็นถึงการเติบโตขึ้นของพวกเธอ โดยแทนที่พวกเธอจะก้าวไปพร้อมกับคำว่า ตอนนี้ก็เกิร์ลเจเนอเรชั่น พวกเธอเลือกจะเปลี่ยนความหมายของคำนั้นเป็น วันนี้ของเกิร์ล เจเนอเรชั่น ซอฮยอนเผยว่า พวกเราเติบโตขึ้นทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และด้านดนตรีของพวกเราในทุกๆ อัลบั้ม แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเราจะทำการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ เพราะว่าในอัลบั้มเต็มนั้นมีเพลงอยู่หลายเพลง พวกเราจึงนำความแตกต่างทางดนตรีและความหลากหลายสไตล์ใส่ลงไปในอัลบั้มด้วย ฉันหวังว่าทุกคนคงไม่ได้คากหวังกับพวกเรามากจนเกินไปนะคะ~

แม้ว่าจะต้องต่อสู้กับเกิร์ลกรุ้ปอีกหลายวง ทิฟฟานีและซูยองก็ยังดูจะสร้างความบันเทิงให้ตัวเองได้อยู่ พวกเธอเผยว่า เพราะว่าพวกเราจะคัมแบคอีกครั้งหลังจากห่างหายไปนาน พวกเราก็ตื่นเต้นที่จะได้เห็นทุกคนขึ้นโชว์อีกครั้ง มันเป็นความรู้สึกเหมือนตอนได้ฟังเพลงของนักดนตรีต่างประเทศที่ฉันชื่นชอบ จนกระทั่งฉันเติบโตขึ้นและได้มาแสดงที่ประเทศเกาหลีนี่ ทั้งสั่น ทั้งตื่นเต้นในคราเดียวกัน ซอฮยอนเสริม มันเหมือนพวกเราได้เติบโตขึ้นมาจากรุ่นน้อง มันน่าชืนชมยินดีมากค่ะ แต่มันก็เป็นจุดที่บอกว่าฉันต้องทำงานให้หนักมากขึ้นกว่าเดิม

เมื่อถูกถามว่า เหตุการณ์ไหนบ้างที่เกิดขึ้นระหว่างการทัวร์คอนเสิร์ตต่างประเทศ แทยอนเผยว่า มีครั้งหนึ่ง มีแฟนคนนึงพยายามที่จะขึ้นมากอดฉันระหว่างที่ฉันแสดงอยู่บนเวที ฉันตกใจมาก (หัวเราะ) อีกครั้งหนึ่งก็ตอนโชว์ Summer Sonic ที่ญี่ปุ่น พวกเราเจอปัญหาเรื่องเครื่องเสียงจนต้องหยุดการแสดงจนกว่าเครื่องเสียงจะซ่อมเสร็จ เมื่อทีมงานมาบอกว่าเครื่องเสียงนั้นร้อนจนเกินไปจนเสีย พวกเราเลยหันไปบอกแฟนๆ ว่าเป็นเพราะเสียงเชียร์ที่น่าประทับใจของพวกเขาต่างหาก และหลังจากที่ทำให้อารมณ์ดีขึ้นแล้ว พวกเราก็สามารถสนุกกับการแสดงที่เหลือของเรา

แทนที่จะมีเพลงที่มีท่อนฮุคโดนใจ แต่เพลง The Boys นั้น กลับทิ้งห่างจากคำนั้น เพลงที่ไม่มีท่อนฮุคที่ชัดเจนแต่กลับมีทำนองและดนตรีที่เรียบตลอดทั้งเพลง อีกความแตกต่างที่เพลงนี้มี แต่แทนที่พวกเธอจะกังวลกับจุดนี้ พวกเธอกลับเลือกที่จะเปลี่ยนแปลงมัน นั่นคือสาเหตุที่การคัมแบคของพวกมเป็นจำนวนมาก



พาร์ท 4. สมาชิกมักจะคุยกันบ่อยๆ ผ่านทางการส่งข้อความในมือถือ (ซอฮยอน)

นั่งดื่มกันในหอหรอคะ? พวกเราชอบไปดื่มไวน์ที่ร้านบรรยากาศดีๆ มากกว่า

ก่อนที่พวกเธอจะปล่อยอัลบั้มภาษาอังกฤษนี้ พวกเธอได้ประสบความสำเร็จกับคอนเสิร์ต Arena Tour ในประเทศญี่ปุ่นเช่นเดียวกับคอนเสิร์ตอื่นๆ ในต่างประเทศ สาวๆ บอกว่าพวกเธอได้รับพลังและกำลังใจอย่างล้นเหลือหลังจากได้เห็นแฟนๆ นั้นมาดูพวกเธอ พวกเธอยังเล่าให้ฟังถึงความหลากหลายของแฟนคลับที่พวกเธอเคยพบมา แฟนบางกลุ่มก็ร้องไห้ไม่หยุดเมื่อได้เจอพวกเธอ แฟนคนหนึ่งสักคำว่า SNSD (ภาษาเกาหลี) ไว้ที่แขนของเขา เด็กน้อยที่มาดูคอนเสิร์ตกับคุณแม่โดยใส่ชุดเลียนแบบโซนยอชิแด และแฟนรุ่นคุณลุงผมขาวที่ใส่เสื้อสกรีนชื่อของพวกเธอ ซูยองและซอฮยอนเผยว่า พวกเราเสียใจที่เรามีแค่ทางเดียวกันในสื่อสารกับแฟนๆ ก็คือผ่านทางเสียงเพลง

เมื่อมาตอนท้ายของบทสัมภาษณ์ เราได้ถามพวกเธอว่าสมาชิกแต่ละคนเมื่อมีความคิดเห็นที่ไม่ตรงกัน พวกเธอผ่านจุดนั้นไปได้อย่างไร ทิฟฟานีตอบว่า "ฉันคิดว่าพวกเราทั้งหมดมีความเชื่อในกันและกัน และรู้ว่าแต่ละคนคิดอะไรอยู่ พวกเราถึงสามารถมากันได้ไกลถึงจุดนี้ ซอฮยอนยังเสริมอีกว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือพวกเราคุยกันในทุกๆ เรื่องเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว ล่าสุดกิจกรรมที่พวกเราทำร่วมกันบ่อยๆ คือการคุยกันในห้องแชททางโทรศัพท์มือถือ

นอกจากนั้น ตอนนี้สมาชิกแต่ละคนก็โตขึ้นแล้ว พวกเราก็เลยถามเรื่องการดื่มแอลกอฮอล์ของพวกเธอ ว่าพวกเธอดื่ม "โซจู" กันที่หอบ้างหรือเปล่า พวกเธอหัวเราะกันเสียงดังก่อนจะตอบ พวกเราไม่ดื่มกันจนเมาหรอกค่ะ เมื่อเวลาพวกเรามีตารางงานที่แน่นมากๆ แล้วมีเวลาว่างบ้าง พวกเราจะนอนกันค่ะ (หัวเราะ) แต่พวกเราก็มีดื่มกันบ้างเป็นครั้งคราว เพราะเราเป็นผู้หญิงพวกเราก็ชอบที่จะจิบไวน์ที่ร้านสวยๆ บรรยากาศดีๆ ค่ะ (กล่าวจบทุกคนเงียบ แล้วก็หัวเราะออกมาเสียงดัง)

------------------------------------------

Source: soompi
แปลไทยโดย pimpcess + Translator Gang ll SOSHIFANCLUB ll http://www.soshifanclub.com
กรุณานำออกไปพร้อมเครดิตทั้งหมด