หลังจากที่ โซนยอชิแด ประสบความสำเร็จในประเทศญี่ปุ่น พวกเธอก็ได้นำพากระแส"ไอดอลเกาหลี"เข้ามาอีกด้วย
อีกทั้งตลาดบันเทิงเกาหลีที่ซบเซานั้นเริ่มที่จะกลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง ซึ่งตอนนี้ส่วนใหญ่จะมุ่งเน้นไปที่ศิลปินและเพลง K - Pop
แทนที่นักแสดงและละครเกาหลี

SM Entertainment(ค่ายSM)ซึ่งทำให้ โซนยอชิแด ประสบความสำเร็จนั้น ได้ออกมาเปิดเผยถึงผลกำไรว่ามีกำไรถึง4เท่าตัวเมื่อเทียบจากปีก่อน
ผลกำไรนั้นมีมากกว่า 10,000,000,000 วอน และเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ค่าย SM เป็นค่ายแรกของเกาหลีที่ได้จัดคอนเสิร์ตใน Staples Center ที่LA.


ในยุคปี90 ค่ายSM มีการตีตลาดไปยังประเทศต่างๆผ่านทางกิจกรรมของศิลปินในค่ายเช่น HOT และ SES
และด้วยความที่มีประสบการณ์ในตลาดต่างประเทศแล้ว ค่ายSM ก็ยังสามารถทำให้ โซนยอชิแด, ดงบังชินกิและโบอา
ประสบความสำเร็จในตลาดโลกได้อีกด้วย

เด็กสาวน่ารักทั้งเก้าคนนี้ได้ส่งเพลงต่างๆของพวกเธอติดอันดับชาร์ต Oricon ในประเทศญี่ปุ่น
และตอนนี้มูลค่าในแง่ทางด้านวัฒนธรรมและการตลาดของพวกเธอนั้นก็ดูท่าว่าจะประเมินค่าไม่ได้อีกด้วย
และผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ โซนยอชิแด หนึ่งในนั้นก็คือคิมยองมิน

คิมยองมินเติบโตขึ้นในประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่เขาอายุ6ขวบ และเขาก็ยังรู้ลึกเกี่ยวกับตลาดบันเทิงของญี่ปุ่นได้ดีกว่าใครๆอีก
เพราะเหตุนี้ เขาจึงเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ ค่ายSMประสบความสำเร็จ

"การสร้างดาวหนึ่งดวงก็เหมือนการเจียระไนเพชรนั่นแหละและคุณก็ต้องค้นหาสิ่งที่ดีที่สุดมาเพิ่มเติมเพื่อให้เข้ากับมันได้เป็นอย่างดี
เด็กสาวที่เปี่ยมไปด้วยความสามารถทั้งเก้าคนนี้ ซึ่งเมื่อรวมกับระบบของทางค่ายและสื่อบันเทิง สามสิ่งเหล่านี้จึงทำให้ โซนยอชิแด ประสบความสำเร็จ
"


คิมยองมินบอกว่า ตัวแปรที่สำคัญที่สุดที่ทำให้ โซนยอชิแด ประสบความสำเร็จก็คือประสิทธิภาพและความสามารถของพวกเธอ
และระบบของทางบริษัทซึ่งดึงศักยภาพของพวกเธอออกมาได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งระบบสื่อสารมวลชนที่ช่วยทำให้ โซนยอชิแด เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก

เดือนสิงหาคมปีที่ผ่านมาก่อนที่ โซนยอชิแดจะเดบิ๊วต์ในญี่ปุ่น ค่าย SM ได้อัพโหลดมิวสิควิดีโอเวอร์ชั่นภาษาญี่ปุ่นลงในเว็บไซต์ YouTube
จุดประสงค์ของทางค่ายก็เพื่อให้ชาวญี่ปุ่นสามารถเข้าชมมิวสิควิดีโอได้อย่างสะดวก ซึ่งเมื่อแฟนๆได้รับชมแล้วจะได้บอกต่อให้กับชาวญี่ปุ่นคนอื่นๆได้นั่นเอง

กลยุทธ์การวางแผนของทางค่ายประสบความสำเร็จ เพียงหนึ่งสัปดาห์หลังจากการวางขายของซิงเกิ้ลเพลง Gee ก็สามารถขายได้ถึง 66,000 แผ่น
และหลังจากสัปดาห์นั้นเอง พวกเธอก็ยังสามารถคว้าอันดับหนึ่งยอดขายของชาร์ตออริกอนประจำวันได้อีกด้วย

ในปีที่ผ่านมา โซนยอชิแด ไม่ค่อยมีกิจกรรมมากเท่าไหร่นัก แต่ทว่าในปีนี้ พวกเธอก็ได้มีโฆษณาสินค้าของญี่ปุ่นแล้ว
และพวกเธอก็เตรียมตัวสำหรับอัลบั้มใหม่และคอนเสิร์ตของพวกเธอกันอยู่อีกด้วย


แผนการของSM ในปีนี้

"SM จะมุ่งเน้นไปยังการผลิตศิลปินใหม่แทนการขยายบริษัท การตีตลาดต่างประเทศจะประสบความสำเร็จได้เป็นอย่างดีนั้น
เราต้องประสบความสำเร็จในตลาดบ้านเราก่อน ดังนั้นเราจะมุ่งเน้นในตลาดเกาหลีเป็นลำดับแรกก่อนครับ"


ตั้งแต่ปี 1990 SM ได้พยายามผลิตศิลปินให้ประสบความสำเร็จไปพร้อมๆกัน พวกเขาไม่เพียงแต่จะคัดเลือกคนที่มีศักยภาพจากการออดิชั่นในเกาหลี
ซึ่งจัดทำในทุกวันเสาร์ แต่ยังคัดเลือกผ่านการออดิชั่นจากประเทศต่างๆ อาทิเช่นประเทศไทย, อเมริกา, จีน, และประเทศอื่น ๆทั่วโลก

SM ได้จัดหลักสูตรโปรแกรมในการผลิตศิลปินในระยะยาว ในโปรแกรมเรียนเหล่านี้ ไม่ได้มีเพียงแต่การสอนร้องเพลง การแสดง และเต้นเท่านั้น
แต่ยังมีการสอนภาษาต่างประเทศอีกด้วย

และSM ก็ยังมีการวางแผนจะสร้างวงใหม่ขึ้นมาอีกด้วย เป้าหมายหลักของคิมยองมินในปีนี้ก็คือสร้างไอดอลวงใหม่
ให้โลดแล่นในเกาหลีได้อย่างประสบความสำเร็จ ซึ่งจะทำให้การขยายและตีตลาดต่างประเทศจะได้ดำเนินไปได้อย่างสะดวก

ต่อมา เขายังต้องการที่จะแสดงให้เห็น "ธุรกิจวงการบันเทิงแบบ360˚" สู่ตลาดโลกอีกด้วย

ในธุรกิจแบบ360 ˚นั้น กระบวนการต่างๆเช่นการแคสติ้ง, ออดิชั่น, การศึกษา(รวมถึงการเรียนร้องเพลง, การแสดง, การเต้นและภาษาต่างประเทศ),
การผลิตอัลบั้ม, โฆษณา, คอนเสิร์ต,ภาพยนตร์และละครต่างๆล้วนแล้วแต่เป็นความรับผิดชอบของทางบริษัททั้งสิ้น


ปีที่ผ่านมาการประสบความสำเร็จของ โซนยอชิแด นั้นแสดงให้เห็นถึง "ธุรกิจแบบ 360 ˚" อย่างแท้จริง
โบอาและดงบังชินกิได้ทำงานกับค่ายเพลงของญี่ปุ่นเมื่อพวกเขาอยู่ในญี่ปุ่น แต่ทว่า โซนยอชิแด ยังทำงานกับ SM
แม้ในขณะที่พวกเธออยู่ในญี่ปุ่น นอกจากนี้SM ยังบอกอีกว่า โซนยอชิแด อาจจะประสบความสำเร็จมากกว่าที่เป็นอยู่นี้ก็ได้
และยังมีแนวโน้มที่พวกเธอจะมีส่วนร่วมในละครที่ SM ได้ตระเตรียมมาไว้เป็นเวลานานแล้วอีกด้วยก็เป็นได้

อุตสาหกรรมบันเทิง Research&Development;:(R&D)
(การวิจัยและพัฒนา)

คิมยองมินกล่าวว่าแรงจูงใจสำหรับ SM ที่จะเป็นผู้นำคลื่นฮันรยูนั้น ก็คือ ต้องมีการลงทุนอย่างต่อเนื่องใน R & D
ถึงแม้ว่าพวกเขาประสบความสำเร็จแล้วก็ตาม

"กระบวนการและระบบต่างๆในการสร้างศิลปินนั้น บริษัทควรที่จะได้รับความสนใจมากกว่าตัวศิลปินเอง
ระบบที่มีการวางแผนและการผลิตสื่อต่างๆและส่วนประกอบอื่นๆนั้นจะเป็นวิธีการเดียวเท่านั้นที่จะสร้าง 'SNSD' เวอร์ชั่นใหม่ได้

สุดท้ายคิมยองมิน ได้เน้นย้ำว่าในการสร้างฮันรยูสตาร์ แฟนๆต้องมุ่งเน้นไปยังที่ตัวบริษัทที่สร้างดาราศิลปินขึ้นมามากกว่าตัวศิลปินเอง
เพื่อให้คลื่นฮันรยูยังอยู่ต่อไปได้นั้น เว็บไซต์ YouTube หรือระบบการปฏิบัติงานของทางค่ายSMควรจะได้รับความสนใจมากกว่านี้

Source: bntnews.co.kr
Credit: [email protected]
แปลไทยโดย reindeer ll SOSHIFANCLUB ll SNSD