โซนยอชิแด ผู้ซึ่งครั้งหนึ่งเคยถูกเรียกขานว่าเป็น 'เกิร์ลกรุ๊ปรุ่นน้องแห่งชาติ' บัดนี้ได้เติบโตและโยนภาพลักษณ์น่ารักๆไว้เบื้องหลัง
เด็กสาวที่เคยขับร้องบทเพลงที่มีเนื้อหาว่า "หนูรักพี่ชายค่ะ" ได้เติบใหญ่จนถึงจุดที่พวกเธอสามารถกุมบังเหียนสั่ง 'The Boys' อย่างมั่นใจว่า
"ฉันจะนำเอง"


การแปลงโฉมนี้ไม่เป็นที่ประหลาดใจแต่อย่างใด เนื่องจากสาวๆจะทำการเดบิวท์ในระดับสากล กับอัลบั้มชุดที่ 3
ซึ่งจะทำการวางแผงในวันที่ 19 ตุลาคม นอกเหนือจากเพลงของพวกเธอจะถูกขายไปทั่วโลกผ่าน itunes ซิงเกิ้ลของพวกเธอ
ก็จะวางแผงที่อเมริกาในเดือนพฤศจิกายนเช่นกัน กับบริษัท Interscope Records

ถึงกระนั้นสาวๆที่เข้ามาให้สัมภาษณ์กับเรานั้นยังคงน่ารักและน่าเอ็นดูเหมือนเดิมไม่เสื่อมคลาย และเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ
พวกเธอกล่าวว่า "เราชอบการเปลี่ยนแปลงนี้จริงๆค่ะ, พวกเราเป็นฝ่ายยืนยันที่จะใช้ท่าเต้นแข็งแรงๆในเพลงนี้เองหน่ะค่ะ พวกเราอยากจะโชว์ให้เห็นโซนยอชิแดที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆและเป็นผู้ใหญ่ค่ะ"

บทสัมภาษณ์กับทาง OSEN


Q. พวกคุณคิดเห็นอย่างไรกับการที่อัลบั้มที่ 3 นั้นถูกเลื่อนออกไปนิดหน่อย?

แทยอน - โซนยอชิแดได้รับความรักจากทั่วโลกมากมาย พวกเราเลยเตรียมอัลบั้มนี้เป็นการตอบแทนไงคะ (สำหรับความรักที่มอบให้)

ซูยอง - พวกเราผิดหวังนิดหน่อยค่ะที่เลื่อนคัมแบ็กออกไป ทั้งที่ในใจและทุกขณะจิตของพวกเรานั้นพร้อมมากๆ แต่เพราะว่าจะไปผจญภัยในดินแดนแผ่นดินอเมริกา ...มันก็โอเคนะคะ ฉันคิดว่านี่จะเป็นการคัมแบ็กที่มีความหมายยิ่งยวดค่ะ


Q. พวกคุณรู้สึกอย่างไร ที่ได้ร่วมงานกับโปรดิวซ์เซอร์ชื่อดังอย่าง 'เท็ดดี้ ไรลีย์'?

ซันนี่ - เค้าทำให้บรรยากาศทำงานดูสบายๆค่ะ แทนที่จะร้องขอให้ทำอะไรเยอะแยะ เค้าก็แค่บอกให้พวกเราร้องค่ะ
เค้าช่วยเติมเต็มสมาชิกแต่ละคน ดังนั้นเอกลักษณ์ของสมาชิกแต่ละคนจึงถูกดึงออกมาใช้ร่วมกัน

ซอฮยอน - เค้าพูดชมพวกเรามากมายขณะที่เราทำการอัดเสียงค่ะ เค้าเต้นคลอไปกับเพลงด้วยนะคะ


Q. พวกคุณพึงพอใจกับเพลงเปิดอัลบั้ม "The Boys"มั้ย?

ทิฟฟานี่ - เพลงของโซนยอชิแดมีท่อนแร็พน้อยมากค่ะ นี่เป็นครั้งแรกเลยที่พวกเราได้โชว์ทักษะการแร็พ ฉะนั้นเราจึงตั้งตารอจดจ่อกับมันมากค่ะ ฉันคิดว่าเพลงออกมาดีนะคะ ฉันพอใจมากค่ะ แทนที่จะเป็นโซนยอชิแดที่สดใส แล้วก็ผู้หญิงจ๋า เราเฝ้ารอที่จะแสดงให้เห็นด้านที่เป็นผู้ใหญ่ และเท่ห์ขึ้นเรื่อยๆค่ะ (จากการคัมแบ็กครั้งนี้)


Q. ท่าเต้นแข็งแรงขึ้นเยอะเลย

ซูยอง - เราพยายามทำให้มันเข้ากับเำพลงค่ะ แต่ยังไงก็ไม่ดุดันหรือทรงพลังเท่ากับที่คิดเอาไว้นะคะ ตรงท่า 'ย่อตัว' ตอนขึ้นท่อนแร็พ
ก็เพราะว่าเราต้องการให้จุดนั้นมีอิทธิพลหน่ะค่ะ ทีมออกแบบท่าเต้นพยายามตัดสินใจว่าจะใส่ท่านั้นเข้าไปหรือไม่ แต่พวกเรายืนกรานว่าต้องใส่มันเข้าไป พวกเค้าถามเราว่าจะโอเคมั้ยว่าให้สมาชิกแค่ 4 คนทำท่านั้น
แต่สมาชิกทุกคนก็ร้องอยากจะเต้นท่านี้ค่ะ (หัวเราะ)


Q. สิ่งที่พวกคุณเน้นหนักมากที่สุดในอัลบั้มที่ 3 นี้คือ?

ซูยอง - พวกเราพยายามจะขยายขอบเขตเพื่อไม่ให้ถูกจำกัดด้วยแนวเพลงเดียวค่ะ ถ้าลองฟังรวมๆดูทั้งอัลบั้มแล้ว คุณจะเห็นว่า
แทนที่จะเป็นเพลงที่มีท่อนฮุกติดหู องค์ประกอบโดยรวมทั้งหมด(ของเพลง)นั้นลงตัว เราเน้นการร้องของพวกเรามากๆด้วยค่ะ


Q. นี่เป็นครั้งแรกที่ซูยองโดดมาแต่งเพลง

ซูยอง - ฉันคิดว่ามันจะเป็นยังไงนะถ้ามีคนมอบเพลงที่เพราะพริ้งเลิศเลอมากๆให้กับฉัน ถ้าจะมีใครสักคนที่มอบความรักกับคุณอย่างมากมาย เพลงนี้คือเพลงที่คุณสามารถฟังระหว่างที่คุณคิดถึงคนๆนั้นค่ะ


Q. ได้ยินมาว่าคุณศึกษาการแต่งเพลง และโปรดิวซ์มามาก แต่ดูเหมือนว่าไอเดียของพวกคุณไม่ได้ถูกนำไปรวมด้วยสักเท่าไหร่

ทิฟฟานี่ - ฉันแต่งเนื้อแร็พภาษาอังกฤษในเพลง 'The Boys'ค่ะ

แทยอน - ฉันฝึกฝนบ่อยๆค่ะ แต่พวกเค้าจุกจิกมาก พวกเค้าไม่ให้อภิสิทธิ์ใดๆกับพวกเราแค่เพราะว่าเราเป็นโซนยอชิแดหรอกค่ะ
เราต้องแข่งขันกับผู้เล่นในสนามเดียวกัน กับนักแต่งเพลง หรือโปรดิวเซอร์คนอื่นๆเหมือนกันค่ะ


Q. ภาพลักษณ์"The Boys"นั้นน่าแปลกใจเพราะว่ามันดูห้าวหาญกว่าภาพลักษณ์ตามปรกติของโซนยอชิแด

ซันนี่ - ความหมายของเนื้อเพลงนั้นขึ้นอยู่กับการตีความของผู้ฟังค่ะ นอกเหนือจากความหมายง่ายๆที่สาวๆให้กำลังใจหนุ่มๆ
มันก็ตีความได้อีกหลายอย่าง หญิงสาวอาจจะบอกกับหนุ่มๆว่าพวกเราจะเป็นช้างเท้าหน้านะ ให้อารมณ์สาวแกร่ง หรืออาจตีความอีกอย่างว่า
สาวๆให้กำลังใจหนุ่มๆให้เป็นผู้เป็นคนและเข้มแข็งขึ้นก็ได้ค่ะ (หัวเราะ) เพลงยังมุ่งที่จะให้กำลังใจแก่ผู้ฟัง ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิงที่อ่อนล้า (จากการใช้ชีวิต)

ซอฮยอน - ทุกอัลบั้มที่ผ่านมาของพวกเรา เราต้องการให้เห็นถึงพัฒนาการการเติบโตของเราค่ะ ในอัลบั้มแรกเราใส่รองเท้าผ้าใบ
และแสดงให้เห็นภาพลักษณ์ใสๆของเด็กสาว แต่หลังจากนั้น เราใส่เสื้อยืดสีขาวและยีนส์เหมือนกับสาวมหาลัย
ในครั้งนี้เราอยากจะเติบโตขึ้นทางดนตรีและในส่วนอื่นๆเช่นกันค่ะ

แทยอน - พวกเราชอบการแปลงโฉมครั้งนี้มากค่ะ ฉันว่าแฟนๆก็คงอยากเห็นด้านอื่นๆของโซนยอชิแดไปเรื่อยๆเหมือนกันค่ะ



Q. ปีที่ผ่านๆมาพวกคุณบรรลุเป้าหมายหลายสิ่งมาก มีอะไรที่จดจำได้แม่น?

ซอฮยอน - ทัวร์ญี่ปุ่นค่ะ ส่วนตัวแล้ว ฉันคิดว่าเราเรียนรู้ที่จะสนุกไปการแสดงเยอะมาก ฉันว่าเราเรียนรู้ที่จะเล่นร่วมไปกับแฟนๆเป็นครั้งแรกเลยค่ะ หรือแม้กระทั่งกับสมาชิกในวงก็ดีขึ้นมากๆด้วยเหมือนกันค่ะ

ทิฟฟานี่ - ระหว่างอารีน่าทัวร์ค่ะ ซึ่งมันทำให้เราต้องเดินทางตัวติดกันอยู่ 3 เดือนหน่ะค่ะ สมาชิกในวงใช้เวลาด้วยกัน และเม้าท์กันเยอะมาก
เป็นอีกโอกาสหนึ่งที่ทำให้ความสัมพันธ์ของเราแข็งแกร่งขึ้นไปอีกค่ะ เราทานอาหารอร่อยๆด้วยกัน ไปบ่อน้ำพุร้อน หยั่งกับเราไปทัศนศึกษากันเลยค่ะ

เจสสิก้า - คอนเสิร์ตที่ฝรั่งเศสค่ะ ปารีสคือเมืองในฝันของฉันเลย

ยูริ - ฉันก็จำปารีสได้ดีที่สุดเหมือนกันค่ะ เป็นอะไรที่ซาบซึ้งตรึงใจมาก ผู้คนที่มีสีผมต่างกัน ร้องเพลงภาษาเกาหลีคลอกันไป
แค่ความจริงที่ว่าคนเหล่านี้รู้ว่าคุณคือใครก็ทำให้มันน่าพิศมัยมากแล้วค่ะ


Q. แล้วอะไรคือสิ่งที่อยากทำให้สำเร็จในอนาคต?

แทยอน - เปิดคอนเสิร์ตของเราในโตเกียวโดมค่ะ

ทิฟฟานี่ - อยากลองทัวร์รอบโลกค่ะ ฉันอยากไปอเมริกาใต้


Q. คุณจะต้องรู้สึกถึงความรับผิดชอบในฐานะตัวแทนของนักร้องเกาหลีแน่ๆ

ยุนอา - ทั้งรู้สึกถึงความรับผิดชอบและแรงกดดันค่ะ แต่พวกเรารู้สึกขอบคุณที่ผู้คนมองเราเป็นผู้นำ
พวกเราจะไม่ตั้งเป้าหมายแล้วพูดว่าจะต้องได้อย่างนี้ อย่างนั้น แต่เราจะมีความสุขไปกับทุกช่วงเวลา
และพยายามยึดเหนี่ยวซึ่งกันและกันมากขึ้น ฉันว่าเป็นเพราะแบบนี้แหละอะไรดีๆถึงได้เกิดขึ้น พวกเราเป็นเกียรติที่ได้มีส่วนร่วมในช่วงเวลาอันยอดเยี่ยม เผื่อให้คนรู้จักเค-ป็อปมากขึ้น

Q. ได้ตั้งเป้าอะไรในการไปเยือนอเมริกามั้ย?

ทิฟฟานี่ - แน่นอนค่ะ เรามีเป้าหมายและตั้งตารอ แต่เราคิดว่า แค่ได้มีโอกาสในการท้าทายตัวเองก็มีความหมายมากในตัวของมันแล้วหล่ะค่ะ
แทนที่จะไปผจญความท้าทาย เราแค่อยากให้มันเป็นการตอบแทนแฟนๆของเราเท่านั้นเองค่ะ


Q. ดูเหมือนว่าคุณจะต้องโปรโมทพร้อม Wonder Girls นะ

แทยอน - ฉันก็สงสัยค่ะ ว่าพวกเธอจะงัดเพลงแนวไหนออกมา? ฉันมีเพื่อนอยู่ในวงนั้นค่ะ
ฉันว่าฉันคงจะแฮปปี้มากที่ได้เจอเธอ


Q. เมื่อเกริล์กรุ๊ปรุ่นน้องหน้าใหม่เดบิวท์ ก็จะถูกเปรียบเทียบกับโซนยอชิแด พวกคุณถูกดึงขึ้นมาบ่อยนะ

ซอฮยอน - แค่ยกพวกเรามาอยู่ในข้อสนทนาก็นับเป็นเกียรติมากแล้วค่ะ ด้วยความสัตย์จริงเลยนะคะ ถึงขนาดคนพูดขึ้นว่า
"โซนยอชิแด พวกคุณน่าทึ่งมาก,--ฉันก็ยังไม่มั่นใจเลยค่ะ"(หัวเราะ) ฉันว่าฉันจะต้องพยายามให้หนักขึ้นอีกมากเลยหล่ะค่ะ


Q.ตอนนี้พวกคุณเป็นเกิร์ลกรุ๊ปรุ่นพี่แล้วนะ

ยุนอา - ไม่ใช่เพราะเราแก่นะคะ แต่วงเด็กสาวๆรุ่นใหม่ๆออกมาเยอะต่างหากค่ะ (หัวเราะ)

ยูริ - ตอนนั้นฉันอยู่ในห้องพักระหว่างทำหน้าที่พิธีกร มิวสิกคอร์ค่ะ แล้วก็มีรุ่นน้องเข้ามาทักทายพร้อมกับอัลบั้มของพวกเค้า
ฉันรู้สึกเหมือนว่าฉันก็เพิ่งทำอย่างเดียวกันไปเมื่อไม่กี่วันก่อน มันเป็นความรู้สึกที่แปลกๆหน่ะค่ะ

ซูยอง - จริงๆแล้ว เราไม่ค่อยมีโอกาสได้ชมการแสดงของนักร้องรุ่นพี่ผู้หญิงเลยค่ะ เราได้ดูรุ่นพี่ฮโยริ
ได้ดูคอนเสิร์ตของบียอนเซ่ และคริสติน่า อากีเลร่า แต่เราได้ยินว่าบรรดารุ่นน้องอยากดูการแสดงของโซนยอชิแด
และยังบอกด้วยว่าได้รับอิทธิพลมาจากพวกเรา มันเป็นความรู้สึกที่ประหลาดมากค่ะ แต่ในเวลาเดียวกันเราก็ปลื้มและภูมิใจมากๆด้วยค่ะ


Q. 4ปีที่ผ่านมาสำหรับโซนยอชิแดเป็นอย่างไรบ้าง?

ซันนี่ - เอาจริงๆ ในตอนแรกเริ่มนั้นเราไม่รู้อะไรเลย ก็แค่ลุยเข้าไป แต่พอเวลาผ่านไป พวกเราเริ่มพัฒนา และเรียนรู้วิธีการ
ยังไงก็ตามยิ่งเวลาผ่านไป และเราก็คิดว่า " อ่าาา...มันไม่ได้มีอะไรซับซ้อนเลยสินะ" แต่พวกเราก็ภูมิใจ และมีความสุขมาก
ที่เราได้บรรลุเป้าหมายหลายๆอย่างตลอด 4 ปีนั้น แทนที่จะคิดถึง 4 ปีที่ผ่านไปเราพยายามค้นหาว่าข้างหน้าจะเดินไปยังไงมากกว่าค่ะ




source :allkpop
Original source : Osen
แปลไทยโดย ll pimpcess ll SOSHIFANCLUB ll http://www.soshifanclub.com
กรุณานำออกไปพร้อมเครดิตทั้งหมด
b (32).gif