Q: เนื่องจากคุณได้มาทำหน้าที่เป็นพิธีกรในรายการนี้เป็นครั้งแรก ฉันคิดว่าคุณคงจะรู้สึกแปลก ๆ อยู่ไม่ใช่น้อย
ซันนี่: ฉันรู้สึกสั่น ๆ นิดหน่อยค่ะ ฉันรู้สึกเสียใจบ้าง ที่ไม่มีพิธีกรร่วม หรือว่าเพื่อน ๆ โซนยอชิแดมาทำหน้าที่กับฉัน แต่ฉันจะพยายามให้ดีที่สุด เพื่อทำให้สถานที่แห่งนี้ เป็นสถานที่ที่ฉันสามารถคุยกับแขกรับเชิญในเรื่องเพลงได้ค่ะ

Q: รู้สึกอย่างไร หลังจากที่ได้รับคำเชิญมาเป็นพิธีกรครั้งแรก
ซันนี่: ถ้าจะบอกว่าไม่รู้สึกอะไรเลย ก็ดูจะเป็นการกล่าวเกินจริงไปหน่อยนะคะ แต่ฉันก็รับข้อเสนอนั้นด้วยความสุขและความสนุกค่ะ พูดตามตรง ฉันคิดอยู่นานเลยเกี่ยวกับการรับหน้าที่เป็นพิธีกรเดี่ยว แต่ต่อมา ฉันก็คิดว่านี่ล่ะ จะเป็นวิธีที่แสดงให้เห็นว่าเขาเชื่อใจฉัน และฉันจะทำให้ดีที่สุดค่ะ

Q: โซนยอชิแดคนอื่น ๆ มีการตอบรับอย่างไรบ้าง ใครที่ให้กำลังใจคุณมากที่สุด?
ซันนี่: สมาชิกทุกคนเลยค่ะ และฉันก็ยังได้รับคำแนะนำมาจาก ทิฟฟานี่ แทยอน และซอฮยอน ที่ตอนนี้กำลังรับหน้าที่เป็นพิธีกรในรายการ MBC Show! Music Core พวกเธอดูดีใจกับฉัน



Q: มีใครบ้างหรือไม่ ที่คุณยึดเป็นแบบอย่างในการเป็นพิธีกร
ซันนี่: รุ่นพี่ยู ฮียอล ที่ตอนนี้กำลังรับหน้าที่เป็นพิธีกรในรายการ KBS Yoo Heeyeol's Sketchbook ค่ะ ฉันได้เรียนรู้จากรุ่นพี่คนนี้มาหลาย ๆ อย่าง ในเรื่องของการสื่อสารกับผู้ชม ผ่านทางคำพูดที่เฉียบแหลม และความตลกปกฮา สิ่งเป็นสิ่งที่ตลกทุกท่านพึงจะมีค่ะ ฉันทราบดีค่ะว่าฉันคงไม่มีทางเก่งได้เท่ารุ่นพี่แน่นอน แต่ฉันจะพยายามให้ดีที่สุด เพื่อเรียนรู้อะไรอีกหลาย ๆ อย่างมาจากเขาค่ะ

Q: ผลตอบรับสำหรับ Music Island ตอนแรกเป็นอย่างไรบ้าง?
ซันนี่: ทุก ๆ คนที่ฉันรู้จักได้ชมรายการ แถมมาแสดงความยินดีกับฉันด้วยค่ะ ฉันคิดว่า พวกเขาชมฉันมากกว่าตำหนิฉันเสียอีกนะคะ แต่ที่ฉันคิดได้อยู่อย่างหนึ่งก็คือฉันยังพยายามได้ไม่ดีค่ะ

Q: อะไรคือสิ่งที่ทำให้คุณรู้สึกว่าคุณยังทำได้ไม่ดีพอ?
ซันนี่: พูดตามตรงนะคะ ฉันกังวลกับความจริงที่ว่า ฉันยังเป็นศิลปินที่ยังเด็กอยู่ ฉันจึงคิดว่าฉันยังไม่สามารถที่จะคุยเกี่ยวกับเรื่องเพลงได้อย่างลึกซึ้งมากพอ เพราะฉะนั้น ฉันจะตั้งใจเรียนรู้เกี่ยวกับเพลง และนักร้องท่านอื่น ๆ ให้มากขึ้นค่ะ

Q: จุดแข็งของคุณสำหรับการเป็นพิธีกรคืออะไร?
ซันนี่: ฉันคิดว่าเป็นในเรื่องของการที่หลาย ๆ คนรู้จักโซนยอชิแด รัก และอยากจะรู้จักพวกเรามากขึ้น เพราะฉะนั้น การที่ฉันเป็นหนึ่งในสมาชิกของโซนยอชิแด จะเป็นจุดแข็งที่ทำให้ฉันสามารถพัฒนาได้ค่ะ ฉันคิดว่าที่ฉันได้รับเลือกมาเป็นพิธีกรนั้นก็เพราะว่าฉันเป็นหนึ่งในสมาชิกของโซนยอชิแด และชาวเอเชียหลาย ๆ คนก็จะคิดว่าฉันนั้นเป็นเหมือนครอบครัวของเขาค่ะ ด้วยเหตุนี้ ฉันจะพยายามให้มากที่สุดในฐานะของ โซนยอชิแด เพื่อให้ทุกคนได้เรียนรู้เกี่ยวกับโซนยอชิแด และประเทศของพวกเรามากขึ้น ฉันจะพยายามให้ดีที่สุด เพื่อทำให้นักร้องของพวกเรา และวัฒนธรรม K-Pop เป็นที่รู้จักมากขึ้นด้วยรายการ Music Island ค่ะ



Q: อะไรคือสิ่งที่ทำให้คุณแตกต่างจากพิธีกรคนอื่น ๆ ?
ซันนี่: ถึงฉันไม่สามารถนำทุกคนเข้าสู่บทสนทนาได้อย่างแม่นยำได้ แต่ฉันก็พยายามตั้งใจฟังในสิ่งที่พวกเขาให้มากที่สุด สิ่งที่ทำให้ฉันแตกต่างจากพิธีกรคนอื่น ๆ ก็อาจจะเป็นเพราะว่าฉันยังเด็ก และทุกคนทำให้ฉันรู้สึกสบายใจมากขึ้น ทำให้ฉันสามารถเป็นพิธีกรที่ทำหน้าที่ได้อย่างสบายใจได้ค่ะ

Q: มีศิลปินคนไหนไหม ที่คุณอยากจะเชิญมา และอะไรคือเหตุผลที่คุณต้องการเชิญให้เขามา
ซันนี่: ฉันอยากจะเชิญคุณฮวีซองค่ะ ซึ่งตอนนี้เขากำลังทำหน้าที่รับใช้ชาติอยู่ในกรมทหาร ฮวีสองเป็นครูสอนร้องเพลงของฉันเองค่ะ เพราะฉะนั้นเวลาฉันเชิญเขามาอาจจะแตกต่างจากคนอื่นไปสักเล็กน้อย ความจริงแล้ว เหตุผลที่ฉันอยากจะเชิญฮวีซองมา ก็เพราะว่าเขาอยู่ในกรมทหาร แล้วก็ยังมีอีกหลาย ๆ ปีหลังจากที่เขาปลดประจำการ ซึ่งฉันไม่อยากจะก้าวลงจากหน้าที่นี้ก่อนจะถึงเวลานั้นค่ะ เพราะฉะนั้น นี่จึงเป็นเหตุผลที่ฉันอยากจะเชิญเขามาร่วมรายการค่ะ

Q: ฉันคิดว่า คุณคงจะรู้สึกแตกต่างไม่น้อย กับการขึ้นแสดงบนเวทีในฐานะนักร้อง และพิธีกร อะไรคึอสิ่งที่คุณคิดว่ามันแตกต่างกัน?
ซันนี่: ในฐานะนักร้อง ฉันสามารถระเบิดพลังออกมาได้อย่างเต็มที่เวลาฉันอยู่บนเวทีภายในเวลาสามหรือสี่นาที แต่ในฐานะพิธีกร ฉันได้เรียนรู้ว่าการแสดงของฉันไม่สำคัญเท่ากับความลงตัวที่อยู่บนเวที และฉันคิดว่า การเป็นพิธีกรนั้นจำเป็นที่จะต้องเติมเต็มให้รายการนั้นสมดุลการ และฉันจะพยายามให้ดีที่สุดเพื่อเติมเต็มในจุด ๆ นั้นค่ะ



Q: โซนยอชิแด เป็นที่นิยมมากในทั่วโลก อะไรคือสิ่งที่ทำให้คุณคิดว่าความนิยมของ K-Pop นั้นแตกต่างจากอดีตก่อนหน้านี้เป็นอย่างมาก?
ซันนี่: ไม่ใช่แค่เฉพาะโซนยอชิแดเพียงกลุ่มเดียวนะคะ ที่ฉันสามารถรับรู้ได้ถึงกระแสนิยมของ K-Pop ด้วยตัวฉันเอง ฉันรู้สึกภูมิใจมาก ๆ ค่ะ เวลาที่ K-Pop นั้นได้ถูกเผยแพร่ไปทั่วโลก และมีแฟนคลับคอยเชียร์พวกเราไม่ว่าพวกเราจะไปเยี่ยมเยียนประเทสไหนก็ตาม เช่นเดียวกับแฟนคลับชาวต่างชาติที่ลงทุนบินมาดูพวกเราค่ะ พวกเราจะพยายามให้ดีที่สุด เพื่อทำให้ประเทศเกาหลีนั้น เป็นที่รู้จักมากขึ้นผ่านทางกระแสความนิยมของ K-Pop ค่ะ

Q: พนันได้เลยว่า คงจะมีแฟนคลับไม่น้อย ที่รู้สึกประทับใจในขณะที่โซนยอชิแดกำลังโปรโมทอัลบั้ม
ซันนี่: แน่นอนค่ะ ฉันจำแฟนคลับทุกคนที่มาให้กำลังใจพวกเราได้ แต่แฟนคลับที่ฉันนึกได้ในตอนนี้ก็คือแฟนคลับที่ฉันพบที่ประเทศฝรั่งเศสค่ะ ซึ่งตอนนั้นพวกเรากำลังท่องเที่ยวในกรุงปารีส แล้วในขณะที่พวกเรากำลังเที่ยวชมอยู่นั้นเอง ก็ได้มีแฟนคลับวิ่งเข้ามาหาพวกเรา แถมยังเต้นเพลง Gee ให้พวกเราดูด้วยค่ะ ความมั่นใจ และความรักที่แฟนคลับคนนั้นมีในกระแส K-Pop ฉันสามารถรู้สึกได้เลยค่ะ ฉันรู้สึกดีใจมาก ๆ ฉันถึงจำแฟนคลับคนนั้นได้จนถึงทุกวันนี้ยังไงล่ะคะ

Q: สุขภาพของคุณช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้าง? ฉันคิดว่าคุณคงจะเหนื่อยไม่น้อยกับการที่ทำหน้าที่เป็นทั้งนักร้องและพิธีกร
ซันนี่: แน่นอนค่ะ การทำงานเป็นทั้งนักร้องและพิธีกร เป็นอะไรที่ลำบากและเหนื่อยมาก แต่แทนที่จะมานั่งคิดถึงงานและความเหนื่อยกับงานนั้นงานนี้ ฉันกลับคิดว่ามันสนุกออกนะคะ ทุก ๆ อาทิตย์ ฉันจะทำหน้าที่เป็นพิธีกร จากนั้นฉันก็จะนำพาเสียงหัวเราะมาให้กับทุกคนในรายการบันเทิงวาไรตี้ วันต่อมาฉันก็จะต้องซ้อมบทละครเวที ฉันคิดว่างานแต่ละวันที่ทำนั้นยิ่งทำยิ่งสนุกและมีค่ามากขึ้นค่ะ เพราะว่าแต่ละวันนั้นไม่เหมือนกันกัน แถมยังสนุกอีกด้วย และแน่นอนค่ะ ด้วยความรักที่ฉันได้รับมากอย่างมหาศาล ทำให้ฉันตอนนี้กำลังยุ่งมาก ๆ แต่ละวันนั้นสนุกสนานมาก ๆ จนฉันไม่รู้ว่าฉันไม่มีโอกาสจะได้พูดว่าฉันไม่สบายเลยล่ะค่ะ เอาง่าย ๆ นะคะ ฉันแข็งแรงมาก ๆ เลยค่ะ"



Q: คุณมีวิธีในการรักษาสุขภาพอย่างไร
ซันนี่: อย่างที่คิดไว้ค่ะ การได้ทำงานในสิ่งที่ตัวเองรัก และได้ทำงานกับคนที่ตัวเองชอบ เป็นอะไรที่สนุกสนานมาก ๆ ในแต่ละวัน คุณจะสามารถยิ้มและหัวเราะได้มากขึ้น เพราะฉะนั้นถึงฉันจะไม่สบาย แต่ฉันก็สามารถให้ดีได้เร็วกว่าเดิมค่ะ ฉันไม่มีวิธีตายตัวในการรักษาสุขภาพหรอกค่ะ แต่ถ้าฉันจะต้องเลือกวิธีในการรักษาสุขภาพที่ดี ฉันควรเลือกอะไรระหว่าง การใช้ชีวิตที่มีแต่ความสนุกสนาน หรือว่าการใช้ชีวิตอย่างเหมาะสม ดีคะ?

Q: คุณวางแผนไว้ในอนาคตอย่างไรบ้าง แต่ไม่ใช่แค่ในฐานะโซนยอชิแดเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมไปถึงตัวของคุณเองอีกด้วย
ซันนี่: ในฐานะที่เป็นซันนี่ ที่เป็นนักร้องของวงโซนยอชิแด และที่เป็นตัวฉันเอง ฉันอยากจะลองทำงานใหม่ ๆ เพื่อสนุกสนานกับสิ่งต่าง ๆ มากขึ้น และแน่นอนค่ะว่า ถ้าสิ่งเหล่านั้นเหมาะสมกับฉันได้ดี ก็จะเป็นอะไรที่ดีมาก ๆ แต่ถ้าเป็นสิ่งที่ไม่เข้ากับฉัน ฉันก็ไม่อยากจะลองสักเท่าไรค่ะ แต่ถ้าพูดในฐานะของโซนยอชิแด แผนของฉันก็คือละครเวทีเรื่อง Catch Me If You Can ที่จะเปิดการแสดงรอบแรกสิ้นเดือนมีนาคมนี้ค่ะ ฉันหวังว่าทุก ๆ คนจะมาชมฉันและมาชมการแสดงเยอะ ๆ และไม่ใช่ในฐานะซันนี่ พิธีกรสาวเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมไปถึงซันนี่ นักแสดงละครเวทีสาวด้วยนะคะ และแน่นอนค่ะ อย่าลืมให้การสนับสนุนฉันต่อไปนะคะ เพราะว่าผลงานภายใต้ชื่อของโซนยอชิแดก็จะยังคงมีต่อไป ช่วงนี้ฉันมีกิจกรรมที่ต้องทำมากมาย เพราะฉะนั้น ฉันจึงหวังว่าทุก ๆ คนจะสามารถเติมพลังในด้านบวกจากฉันได้มากขึ้นนะคะ และฉันหวังว่าพวกคุณจะมอบความสนใจ และความรักให้ฉันเยอะ ๆ ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ"



Source: SBS [1],[2]
English translated by: minigiglo + ch0sshi@soshified
Edited by: MoonSoshi9@soshified
แปลไทย โดย: Translator Gang ll soshifanclub ll http://www.soshifanclub.com