ซันนี่ พูดถึงอาชีพและเป้าหมายในอนาคตของเธอ ในบทสัมภาษณ์ของ bnt International

ซันนี่ เล่าให้ฟังว่าเธอเลี้ยงแมวไป 2 ตัว ชื่อ เกลือ (โซกึม) และ พริไทย (ฮูชู) ซันนี่กล่าว "ด้วยความที่พักนี้ฉันอยู่ที่บ้านแทบจะตลอดเวลา ฉันเลยทุ่มเททุกความสนใจไปที่น้องแมวค่ะ และ พอได้ใช้เวลากับน้องแมวมากขึ้นๆแล้ว ฉันก็ยิ่งรักพวกเขา แม้จะเป็นแมวที่นิสัยเหมือนหมา แต่เวลาที่พวกน้องแมวมาอ้อนทำตัวติดใส่ฉันแบบตังเมแล้วเนี่ย ถึงกับหุบยิ้มไม่ได้เลยค่ะ"

เมื่อพูดถึงสิ่งที่ซันนี่ทำตอนอยู่ที่บ้าน เธอทั้งชม Netflix, อ่าน web comics, และเล่นเกมมือถือ



ซันนี่เปิดใจถึงชื่อในวงการของเธอว่ากระทบต่อบุคลิกของตัวเอง "หลังจากได้ชื่อในวงการว่า 'ซันนี่' แล้ว ฉันคิดว่าก็ต้องปรับตัวตามค่ะ ได้ยินว่าคนชอบบอกว่าฉันเป็นคนหน้านิ่งหรืออยู่เฉยๆแล้วจะดูน่ากลัว เลยต้องเริ่มยิ้มให้บ่อยมากขึ้นในชีวิตประจำวัน" ซันนี่กล่าวต่อพร้อมหัวเราะ "แต่บางครั้งมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยค่ะ"

เมื่อถามถึงเคล็ดลับที่ซันนี่สามารถทำการแสดงด้วยพลังงานที่เต็มเปี่ยมบนเวทีในฐานะ Girls' Generation นั้น ซันนี่ตอบว่าสาวๆโซชิเองได้ฟิตร่างกายตั้งแต่สมัยก่อนเดบิวต์ด้วยการไปวิ่งริมแม่น้ำฮัน "ตอนนั้นฉันยังเด็กอยู่ พละกำลังร่างกายยังมีแรงเยอะกว่าตอนนี้ค่ะ แต่พักนี้ฉันก็กลับมารู้สึกถึงความสำคัญของการออกกำลังกายอีกครั้งนะคะ ถ้าจะเพิ่มความแข็งแรงของร่างกายแล้ว การออกกำลังกายก็คือที่สุดอยู่ดี"



ซันนี่เดบิวต์ในฐานะ Girls' Generation ในปี 2007 ด้วยเพลง 'Into the New World' เธอกล่าวถึงเพลงนี้ว่าเป็นเพลงที่มีความพิเศษอยู่ในใจเธอเสมอ รวมไปถึงเพลงฮิตอย่าง 'Gee' และ 'Genie' อีกด้วย "ฉันคิดนะคะว่าเรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร ฉันว่าคงเป็นเพราะหลายคนติดตามฟังเพลงเราอย่างต่อเนื่อง" และ "ครั้งแรกที่เริ่มซ้อมเรานั้นกังวลนะคะ 'เราจะได้รับความสนับสนุนจากคนทั่วไปหรือเปล่านะ' ส่วนตอนนี้ฉันนั้นรู้สึกขอบคุณอย่างมากเลยค่ะที่พอพวกเขาฟังเพลงของเราแล้วรู้สึกมีพลังมีกำลังใจและรักเพลงของเราเก็บไว้ในความทรงจำ"

ซันนี่ยังพูดถึงเพลง 'Gee' ว่าเป็นเพลงที่เธอรักและหวงแหนมาก เพราะกระแสตอบรับและความสำเร็จจากผู้ฟังและคนทั่วไป และเพลง 'Oh!' ยังเป็นเพลงที่พวกเธอดึงคอนเซปออกมาได้อย่างดีเลย



เมื่อถูกสัมภาษณ์ถึงความคิดที่ว่า Girls' Genration เปรียบเสมือน "ตำราของวงเกิร์ลกรุ้ป" ซันนี่หัวเราะด้วยความเขินอายและตอบ "ทุกครั้งที่ได้ยินประโยคนี้ก็จะรู้สึกขอบคุณเสมอเลยค่ะ เวลาที่ฉันมองดูเหล่าสาวๆโซชิแล้ว แต่ละคนนั้นเต็มไปด้วยเสน่ห์จริงๆ พวกเธอทั้งเก่งด้านการแสดง, การร้องเพลง, และยังมีไหวพริบดีต่อรายการวาไรตี้ด้วย สิ่งเหล่านี้คงเป็นเหตุผลสำหรับสมยานามนั้นค่ะ"

พอพูดถึงสาวๆโซชิทั้งรับงานแสดงและงานเพลง ซันนี่กล่าว "แม้กระทั่งตอนนี้เอง ทุกครั้งที่เห็นเมมเบอร์ทำงานเดี่ยว ฉันสงสัยเสมอเลยค่ะว่าพวกเธอต้องทุ่มเทกายใจแค่ไหนเพื่อให้งานออกมาดีแบบนั้นๆ รู้สึกเหนื่อยตามเลย แต่มันก็เป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมมากๆ"



ชื่อจริงๆของซันนี่คืออีซุนกยู แต่บางทีตัวเธอเองก็สับสนระหว่างชื่อจริงๆกับชื่อในวงการ "ฉันได้โปรโมทและทำกิจกรรมภายใต้ชื่อ 'ซันนี่' มากว่า 14 ปีแล้วค่ะตอนนี้ บางทีเลยสับสนบ้าง แน่นอนว่าต้องเป็นวัยรุ่นเมื่อก่อนก็มีเวลาที่สับสนค่ะ แบบ 'โอ้ ตอนนี้สินะที่เราสบาใจ' หรือ 'นี่คืออีซุนกยู' เมื่อก่อนนั้นฉันจะตั้งใจทำงานอย่างหนักเพื่อแสดงให้ทุกคนเห็นถง ซันนี่ วง Girls' Generation ส่วนตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ต้องโอบกอดรักตัวเองค่ะ ไม่ว่าจะในฐานะซันนี่หรืออีซุนกยู"

ซันนี่ เล่าต่อด้วยเสียงหัวเราะ "ขนาดครอบครัวของเธอเองยังเรียกซันนี่เลยค่ะ พวกเขาเรียกฉันด้วยชื่อในวงการเพื่อที่จะให้ฉันชินกับมัน จนกลายมาเป็นความเคยชินจริงๆเลย"

พูดถึงไม่นานมานี้ที่ซันนี่ไปออกรายการ "On & Off" ซันนี่ได้พูดถึงความกังวลเกี่ยวกับเสียงร้องเพลงของเธอ ซันนี่จึงอธิบาย "ไม่ใช่ว่าฉันเกลียดเสียงตัวเองนะคะ มันเป็นเพียงว่าไม่รู้ว่าจะใช้วิธีไหนร้องเพลงเพื่อจะได้เข้ากับเสียงตัวเอง ตอนถ่ายรายการอยู่ มันอาจจะดูเขินอายได้ถ้าเราแชร์เรื่องส่วนตัว พอพูดออกไปผ่านรายการแล้วก็เลยโดนมองไปว่าไม่ชอบเสียงตัวเอง แต่ก็ขอบคุณประเด็นนี้นะคะ มันเลยทำให้ฉันได้ความมั่นใจกลับคืนมาและรู้ถึงความรู้สึกของแฟนๆด้วย"



เมื่อถามว่าอยากลองทำเพลงแนวไหน ซันนี่ตอบ "ด้วยความห่างของอายุระหว่างฉันกับพี่สาวๆ ฉันเลยรู้จักเพลงเก่าๆเยอะเลยค่ะตั้งแต่เด็กแล้ว พอกลับมาฟังเพลงเหล่านั้นตอนนี้แล้ว ฉันคิดว่าตัวเองก็อยากลองร่วมงานกับศิลปินเหล่านั้นดูนะคะ ฉันฟังเพลงของศิลปินหลายท่านเลย อย่าง อีมุนแซ, จอนอินควอน, อีแจฮุน วง Cool"

ซันนี่เล่าว่าตัวเองอยากเปลี่ยนแปลงความรู้สึกภายในใจ มากกว่าจะไปลองคอนเซปหรือภาพลักษณ์ใหม่ๆ "ฉันอยากเป็นคนที่ดูสบายๆที่เผยด้านธรรมชาติทั่วไปได้ออกมาอย่างเปิดเผยต่อคนทั่วไปค่ะ คงเป็นเพราะฉันตั้งใจโฟกัสทำแต่งานมาตั้งแต่เด็กๆ เลยรู้สึกขาดประสบการณ์ในอีกหลายๆด้านเลย ฉะนั้นฉันเองก็มีอีกหลายสิ่งที่ความจะได้เรียนรู้และเติบโต เลยอยากจะรีบๆและเติบมาเป็นตัวของตัวเองที่แข็งแกร่งมั่นคงยิ่งขึ้นค่ะ"



หลังจากก้าวเข้าสู่วัย 30 ของเธอแล้ว ซันนี่หวังว่าอยากจะใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ในทุกๆวัน "การวิ่งไปข้างหน้าเป็นสิ่งที่ดีนะคะ แต่ก็ต้องพร้อมกับความสุขในทุกๆวัน ตั้งแต่นี้ต่อไป ฉันจะเป็นคนที่ใช้ชีวิตไปพร้อมกับความสุขในทุกวันของชีวิตเลยค่ะ"

อีกประมาณ 2 เดือน จะครบรอบ 5,000 วัน นับจากวันเดบิวต์ของ Girls' Generation แล้ว ซันนี่เองก็รู้สึกเซอร์ไพรส์และตื่นตาตื่นใจ "พอคิดถึงเรื่องนี้แล้ว ฉันเองก็เลือกอาชีพเริ่มทำงานตั้งแต่ยังเด็กเลย ฉันอยากเป็นนักร้อง ฉันสนุกกับการร้องและเต้นตั้งแต่ตอนอยู่มอต้นค่ะ ฉันยังคงก้าวต่อไปกับความฝันนี้และได้รับความรักมากว่า 10 ปี พอมองย้อนกลับไป มันเป็นขั้นตอนที่น่าแปลกใจดีนะคะ เป็นความฝันที่ไม่สามารถทำให้สำเร็จได้ด้วยคนเดียวเลย แต่เพราะได้พบกับเพื่อนๆและมิตรที่แสนดี และฉันสามารถปกป้องเก็บมันไว้ได้ ต้องขอบคุณแฟนๆเลยที่สนับสนุนกันมาตลอด อยากมอบความรู้สึกขอบคุณจากใจจริงถึงแฟนๆของฉันที่รักกันมาถึง 5,000 วันเลยนะคะ"


Source: soompi
แปลไทย: Translator Gang ll soshifanclub ll http://www.soshifanclub.com