We Love Girls' Generation (SNSD)
[Trans] บทสัมภาษณ์ทิฟฟานี่จากนิตยสาร Marie Claire ฮ่องกง ฉบับเดือนมีนาคม 2017
I Just Wanna .... Be Myself
หากพูดถึงทิฟฟานี่แล้ว หลายๆคนคงนึกถึงเธอคนที่เป็นสมาชิกวง Girls' Generation ทั้งนี้แล้วตัวตนที่แท้จริงของเธอหละ? นิสัยเป็นยังไง? เป็นคนยังไง? ครั้งนี้ Marie Claire จะพาคุณไปพบกับโลกที่เป็นตัวตนของเธอ
Marie Claire: ขอ 4 คำที่อธิบายตัวเอง
ทิฟฟานี่: ลงมือทำ, มองโลกในแง่ดี, จริงจัง, ทึ่ม/ซื่อบื้อ
Marie Claire: เคยต้องเจอกับปัญหาเพราะนิสัยตัวเองไหม?
ทิฟฟานี่: ฉันค่อนข้างเป็นคนที่อ่านออกได้ง่ายนะคะ บางคนบ่นว่าฉันเป็นคนตรงเกินไป แต่ฉันก็คิดว่ามันเป็นสิ่งที่ดี
Marie Claire: เคยเปลี่ยนตัวเองเพื่อให้เข้ากับคนอื่นไหม?
ทิฟฟานี่: หลัวจากทำงานเป็นกลุ่มเป็นวงมากว่า 13 ปี ฉันเรียนรู้ที่จะผ่อนปรนและยอมค่ะ ยิ่งเราอายุมากขึ้น เราจะเรียนรู้ที่ยอมเพื่อสิ่งที่เรารักมากขึ้นค่ะ เช่นแฟชั่น จะมีแฟชั่นบางสไตล์ที่เราจะไม่มีทางยอมลองมันเลย แต่ตอนนี้คุณจะเลือกที่จะยอมและก้าวออกมาจากกรอบนั้นค่ะ
Marie Claire: คุณคิดว่าคุณเป็นสาวราศีสิงห์แบบสุดๆเลยไหม?
ทิฟฟานี่: ฉันคิดว่าตัวเองนิสัยคนราศีสิงห์มากๆเลยค่ะ ฉันมีความเป็นผู้นำและกล้าแสดงออก แถมยังมีเพื่อนเยอะแยะเลย เป็นคนที่ไม่คิดจะหยุดพัก
Marie Claire: เวลาที่มีความสุขหรือเสียใจที่สุดจะทำอะไร?
ทิฟฟานี่: เวลามีความสุขฉันจะเต้นค่ะ แต่ถ้าเสียใจก็จะไปนอนเพื่อสงบสติอารมณ์
Marie Claire: ช่วงวันหยุดจะไปทำอะไร?
ทิฟฟานี่: ฉันชอบที่จะได้ใช้เวลากับครอบครัวค่ะ เวลาได้พัก ตราบใดที่ฉันได้อยู่กับครอบครัวแล้ว ทำอะไรก็มีความสุขค่ะ
I Just Wanna ... Be True To My Style
เหล่าชาวเน็ตเกาหลีชื่นชอบที่จะดู Instagram ของทิฟฟานี่เหมือนนั่งอ่านนิตยสารแฟชั่น เพราะในนั้นจะมีตั้งแต่การแต่งตัวตามสบายๆทั่วไปจนไปถึงชุดใส่ออกงาน ที่สำคัญคือรสนิยมของเธอนั้นดีระดับนึงเลย ควรค่าต่อการเปิดดู แล้วแฟชั่นของทิฟฟานี่ในวันธรรมดาหละ?
ทิฟฟานี่ "มันขึ้นอยู่กับความรู้สึกค่ะ ฉันจะแต่งตัวตามความรู้สึก ถ้าหากร่างกายฉันมีจุดที่เป็นที่ติอยู่ ฉันจะแต่งตัวเพื่อปกปิดมันไว้ค่ะ แล้วก็จะเน้นด้านที่ดีแทน"
เธอเคยพูดไว้ว่าได้ลองสไตล์มามากมาย แต่ตอนนี้เธอโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว เธอได้พบกับทางและสไตล์ที่เข้ากับเธอ
ทิฟฟานี่ "ในช่วงเวลานี้ ที่เราสามารถสื่อสารกันได้ ฉันหวังว่าฉันจะสามารถเป็นแรงบันดาลใจให้คนสามารถก้าวข้ามจากกรอกของตัวเองค่ะ ลองแต่งตัวตามสไตล์ที่มันก้าวหน้า"
หากพูดถึงการดูแลผิวแล้ว เคล็ดลับของทิฟฟานี่สำหรับผู้อ่าน Marie Claire แล้ว คือการล้างหน้าสองรอบ หลังจากล้างเครื่องสำอางออกแล้ว เพื่อให้แน่ใจว่าหน้าเราสะอาดดี มันจะมีผลในระยะยาว
ทิฟฟานี่ "ฉันถ่ายงานครั้งล่าสุดเมื่อเดือนกรกฏาคมค่ะ หลังจากนั้นก็รู้สึกได้ว่าผิวตัวเองดีขึ้นมากเลยตั้งแต่ตอนนั้น ฉันเลยคิดว่ามันคุ้มค่าที่จะทำนะคะ"
I Just Wanna ... Move On
ในโลกของ K-Pop สำหรับวงเกิร์ลกรุ๊ปที่อยู่มาถึง 10 ปีแล้วยังโปรโมทอยู่ ถือว่าเป็นอะไรที่หายากมากๆ ปีนี้ Girls' Generation จะฉลองครบรอบ 10 ปีกันด้วย ถือว่าเป็นอะไรที่มีความหมายทั้งสำหรับตัวทิฟฟานี่เองและตัวสาวๆ Girls' Generation เองด้วย ตอนนี้เหล่าสมาชิกต่างก็ไปเดินทางตามหาความฝันของตัวเองและเตรียมงานเดี่ยวกัน สำหรับทิฟานี่ หญิงสาววัย 28 เธอมีความฝันที่อยากจะทำมันให้สำเร็จก่อนที่จะอายุ 30
ทิฟฟานี่ "ก่อนอายุ 30 ฉันอยากเป็นนักร้องเดี่ยวที่มีความรับผิดชอบ, มีศักยภาพ, อยู่ด้วยตัวเองให้ได้ค่ะ และไปแสดงที่ Broadway ค่ะ ในช่วงเวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมา ฉันโฟกัสแต่เรื่องการร้องเพลง ตอนนี้ฉันอยากจะลองก้าวไปลองทำอย่างอื่นและพัฒนาอย่างอื่นด้วยค่ะ ไม่นานมานี้ฉันได้ไปลองออดิชั่นหลายที่เลยค่ะ ฉันหวังว่าจะได้แสดงในภาพยนตร์บางเรื่องและพัฒนาความสามารถด้านการแสดงของตัวเอง ถ้าเป็นไปได้ ฉันอยากเป็นเจ้าหญิงในภาพยนตร์ของ Disney ค่ะ นั่นถือว่าเป็นความฝันของฉันมาโดยตลอด"
สำหรับทิฟฟานี่ เธอพร้อมแล้วที่จะลองก้าวไปลองพัฒนาตัวเองด้านอื่นๆ แล้วคุณหละพร้อมที่จะติดตามและชื่นชมผลงานของเธอหรือยัง?
คติประจำใจของทิฟฟานี่ คือเชื่อมั่นในตัวเอง
อย่าคิดนะว่าการที่จู่ๆทิฟฟานี่อยากจะโซโล่คือเป็นความฝันที่เกิดขึ้นอย่างปุบปับ เพราะจริงๆมันเป็นความฝันเดิมของเธอตั้งแต่ก่อนมาเกาหลี
ทิฟฟานี่ "ตอนแรก ฉันมีความคิดแบบนั้นก่อนไปเกาหลีค่ะ แต่ฉันโชคดีมากที่ได้รับประสบการณ์ได้แสดงมามากมายก่อนที่จะโซโล่ เพื่อให้ฉันได้เตรียมความพร้อมทุกด้านอย่างดี สำหรับฉันแล้วการที่ได้โปรโมทเป็นวงก่อนจะโซโล่ถือว่าเป็นอะไรที่มีความหมายกับฉันมากค่ะ ฉันอยากจะสื่อข้อความที่ต่างกันออกไปผ่านบทเพลง และหวังว่าผู้ฟังจะได้รับมันค่ะ" เธอกล่าวพร้อมหัวเราะ
หลายคนคงคิดว่าการได้เป็นนักร้องนั้นคงมีอิสระน่าดู แต่หลังได้โซโล่แล้ว ทิฟฟานี่รู้หรือเปล่าว่าการมันเหมือนกับตัวเองจะได้กลายเป็นหัวหน้าของทีม เพราะต้องเป็นตัวต่อที่ดำเนินงานกับฝ่ายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นตากล้อง, นักแต่งเพลง ก่อนที่เราจะใส่ไอเดียของเราลงไปได้กัน สิ่งที่ยากกว่าคือความรักที่มีต่อมัน เพื่อไม่ให้เรายอมแพ้และมีใจรักที่จะทำมันอยู่ตลอด และแรงผลักดันนั้นก็คือ การที่เชื่อมั่นในตัวเอง ตั้งแต่การโปรโมทแบบวงจนกระทั่งโซโล่ ตัวของเราเองถือว่าเป็นเครื่องนำทางก็ว่าได้ โดยมีความมั่นใจเป็นหลัง ตอนนี้ก็ถือว่าครึ่งปีแล้วหลังจากทิฟฟานี่ได้โซโล่
ทิฟฟานี่ "การได้เป็นนักร้องคือความฝันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฉันค่ะ แต่เมื่อความฝันเราได้ถูกเติมเต็ม มันจะเกิดความสงสัยและความสับสน ฉันเรียนรู้ว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือเป็นตัวของตัวเองและซื่อสัตย์ต่อตัวเองค่ะ ทำเพลงที่ฉันชอบ และปัญหาต่างๆก็จะหายไปเอง"
แต่ถ้าเราเอาแต่เชื่อมั่นในตัวเอง แต่ไม่มีประสบการณ์อะไรเลย แน่นอนว่าต้องเจออุปสรรคแน่นอน แม้ว่ามันจะเกิดความผิดพลาดในการแสดง มันก็จะกระทบงานเป็นอย่างมาก ทุกครั้งที่พบกับปัญหา ทิฟฟานี่จะหยุด เพื่อจะใช้ความคิดและมองกลับไปที่ปัญหาอีกครั้งจากมุมที่ต่างออกไป หรือมองปัญหานั้นให้กว้างขึ้น กระบวนการแบบนี้ถือว่าสำคัญมากๆต่อเธอ เพื่อเป็นการสะท้อนและคิดถึงปัญหาให้เธอสามารถทำมันให้ดีขึ้นในแต่ละครั้ง บางคนถึงกับหยอกเธอว่า "ถ้าหากสามารถย้อนเวลาได้ จะกลับไปแก้ไขหรือเปลี่ยนอะไรไหม?"
ทิฟฟานี่ตอบอย่างมั่นใจ "ในฐานะนักร้อง ฉันพูดได้อย่างมั่นใจเลยค่ะว่าเส้นทางและพัฒนาการของฉันตลอด 10 ปีที่ผ่านมานั้นค่อนข้างชัดเจน รวมไปถึงเส้นทางอาชีพของฉันที่ดีแล้ว มันไม่มีอะไรที่ฉันอยากจะเปลี่ยนมันเลยค่ะ"
ได้เห็นเธอตอบคำถามแบบนี้โดยไม่มีความสับสนใดๆ แถมเธอยังน้อมรับทั้งสิ่งที่ดีและไม่ดีที่เกิดกับเธอ และนับว่ามันเป็นกระบวนการเพื่อจะทำให้เธอมาอยู่ทุกวันนี้ได้ วันนี้ทิฟฟานี่ทำให้เราเห็นแล้วว่าจิตใจของเธอคือสิ่งที่สำคัญ
I Just Wanna ... Dance
อัลบั้มใหม่ของเธอชื่อว่า และมันค่อนข้างชัดเจนที่เธออยากจะเต้นหลังได้โซโล่แล้ว เรื่องราวความรักของทิฟฟานี่ต่อการเต้นเริ่มตั้งแต่วัยเด็กของเธอ
ทิฟฟานี่ "ฉันชอบเต้นตั้งแต่เด็กๆแลวค่ะ การได้ไปยืนอยู่บนเวที, คลาสเต้น, หรืองานปาร์ตี้ การเต้นถือว่าเป็นการผ่อนคลายนะคะ และฉันคิดว่าทุกคนควรรักการเต้นด้วยเช่นกัน"
หลังจากที่เธอพูดจบ เธอก็ดูพร้อมที่จะเต้นแล้ว คงเป็นเพราะมันเป็นการปล่อยอัลบั้มโซโล่ครั้งแรกของเธอ ช่วงเวลาที่เธออัดเพลง I Just Wanna Dance นั้นก็พบกับอุปสรรคบ้าง เธอต้องอัดถึง 6-7 รอบกว่าจะสำเร็จเพราะความตื่นเต้นข้างในใจ ทิฟฟานี่บอกว่านี่เป็นอัลบั้มที่เธอรู้สึกสนุกกับมันมากที่สุด การที่ได้ร้องเพลงในฐานะนักร้องเดี่ยวทำให้เธอค้นพบสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์และโทนต่างๆในการทำงานแต่ละครั้ง และยังได้ยินแต่เสียงของเธออีกด้วย ทั้งหมดที่กล่าวมานั้นถือว่าเป็นความรู้สึกพิเศษสำหรับเธอเลยก็ว่าได้ เมื่อพูดถึงการเต้นแล้ว ทิฟฟานี่ก็พูดถึงไอดอลของเธอ ทั้ง 2 คนเป็นทั้งนักเต้นและนักร้อง คือ Beyonce และ Justin Timberlake
ทิฟฟานี่ "ฉันเติบโตมาในยุค 90s ค่ะ เป็นสมัยที่มีนักร้องที่มีความสามารถเยอะแยะเต็มไปหมด แต่ฉันเลือก Beyonce และ JT เพราะทั้งคู่เดบิวต์ตั้งแต่อายุยังน้อย และหลังจากนั้นก็ค่อยๆพัฒนาตัวเองให้ออกมาเยี่ยมยอด เป็นทั้งนักร้องที่มีเอกลักษณ์และเป็นนักแสดงด้วยค่ะ การได้ก้าวตามเส้นทางของพวกเขาคือความฝันของฉันค่ะ" ทิฟฟานี่หัวเราะและกล่าวต่อว่า ถ้าหากเธอโชคดีพอที่จะได้เจอ Beyonce เธอจะบอกว่า "ฉันรักคุณนะคะ และคุณก็เป็นแรงบันดาลใจให้ฉันคอยพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ"
ทิฟฟานี่ไม่ได้พอใจกับการที่จะเป็นเพียงนักร้องหรือนักเต้นเท่านั้น แต่เธออยากจะก้าวไปลองเส้นทางอื่นๆอีก นักร้องฮิพฮอพชาวอเมริกันอย่าง Far East Movement ก็ถือเป็นอีกพาทเนอร์ของทิฟฟานี่ อาจจะเป็นอีกแนวที่ฉีกต่างออกไปจาก Girls' Generation แต่ก็ถือว่าเข้ากันได้ดี หลังจากได้ชมภาพยนตร์เรื่อง
ทิฟฟานี่ "ฉันอยากเป็นนักร้องที่มีความสามารถหลายด้านค่ะ นักร้องที่สามารถเต้น, ร้องเพลง, และแสดงได้ อย่างไอดอลของฉัน Beyonce และ JT"
Source: Maire Claire HK
Eng Trans: @wouldlickbtsnsd
แปลไทย: Translator Gang ll soshifanclub ll http://www.soshifanclub.com
Comments are closed.