คำเตือน : เนื้อหาในนี้ยาวมาก แต่ฉันต้องพูดในสิ่งที่อัดอั้นมาหลายวันออกมาให้หมด


ฉันสามารถเข้าไปในทุกกระทู้ในโซชิฟายด์ที่คอยถามฉันว่า สมาชิกคนโปรดในวงของฉันคือคนไหน
ฉันจะโพสพรรณาถึงข้อดีเพียงข้อเดียวจากหลายๆข้อของสมาชิกคนโปรดของฉันในหัวข้อไหนก็ได้
ฉันจะทำทั้งหมดนี้ไม่ใช่เพื่อแค่จะแสดงแรงสนับสนุนที่มีแต่เธอ แต่สำหรับตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาที่ฉันเป็นแฟนคลับซูยอง
ฉันไม่เคยคิดว่าจะมีคนถามคำถามนี้กับฉันว่า " ทำไมต้องเป็นซูยอง?"

ฉันเป็นสมาชิกในบอร์ดโซชิฟายด์มาเกือบจะปีนึงแล้ว และตลอดระยะเวลาที่ฉันถ่างตาไม่ได้หลับได้นอนดูรายการที่มีซูยองอยู่ในนั้น,
อ่านบทความเกี่ยวกับเธอ , เธอพยายามอย่างดีที่สุดที่จะช่วยเพิ่มจำนวนโพสในกระทู้ของเธอ, มันมีหลายๆครั้งเหมือนกันที่ฉันถามตัวเองว่า
"ฉันทำไปทั้งหมดนี้เพื่ออะไร?"
"อะไรทำให้ 'ชเว ซูยอง'คนนี้ เป็นอันดับหนึ่งในใจฉันตลอดมา?"


ตั้งแต่เมื่อก่อนแล้ว, ฉันรู้ว่ามันมีอะไรบางอย่างที่ไม่สามารถอธิบายสิ่งที่ทำให้ซูยองดึงดูดฉันออกมาเป็นคำพูดได้
ฉันได้แต่คิดแล้วคิดอีก จนกระทั่งฉันเข้าใจกระจ่างชัดว่า มันคือสิ่งนี้แหละ ชเว ซูยอง คือจิตวิญญาณที่สวยงามที่เป็นตัวแทนความเป็นมนุษย์โดยรวม

สำหรับฉันแล้ว ซูยองคือมนุษย์ที่สวยงามที่สุดที่ฉันเคยรู้จักมาในชีวิตฉัน ฉันไม่ได้พูดถึงความงามที่วัดกันทางกายภาพ
แต่ฉันพูดถึงความงามโดยรวม ตั้งแต่ฉันตั้งตัวเป็นแฟนคลับของซูยอง ฉันก็พยายามที่จะศึกษาเกี่ยวกับเธอ
และยิ่งฉันรู้เรื่องเกี่ยวกับตัวเธอมากเท่าไหร่ความนับถือในตัวเธอก็เพิ่มมากขึ้นเท่านั้น


ในแว่บแรก, เธออาจจะดูเป็นสาวอารมณ์ดี ที่ไม่เคยมีปัญหาอะไรเลยในชีวิตเลย ก็ทำไมหล่ะ? เธอเป็นหนึ่งในสมาชิกของวงเกิร์ลกรุ๊ปที่ดังที่สุดในเอเชีย,
เธอมีครอบครัวที่พร้อมจะสนับสนุนเธออย่างเต็มที่, เธอมีใบหน้าที่งดงาม และรูปร่างที่ผู้หญิงทุกคนใฝ่ฝันอยากจะมี
แต่ภายใต้เปลือกนอกทั้งหมดทั้งมวล ฉันอดคิดไม่ได้ว่าจะมีใครเคยสงสัยมั้ยว่ามันอาจจะมีอะไรที่ถูกปกปิดอยู่เบิ้องหลังรอยยิ้มเหล่านั้น
จะเคยมีใครตั้งคำถามม้ัยว่า อะไรคือเหตุผลของการเสียน้ำตาอย่างพรั่งพรูของซูยองเมื่อมีอะไรบางอย่างมาสะกิดใจเธอ ?
จากหลายๆสิ่งที่ฉันเรียนรู้เกี่ยวกับเธอ ฉันเลยมีข้อสมมติฐานที่สมเหตุสมผลว่า
เจ้าหญิงผู้ร่าเริงของวงโซนยอชิแด ไม่ได้มีแต่ความสดใสเจิดจ้าเพียงด้านเดียว

อย่างนึงคือ, ฉันเห็นหญิงสาวที่เต็มไปด้วยความไม่มั่นคงในตัวเอง ฉันมักจะคิดว่าเธอนั้นไม่สวย มีแต่แฟนๆรุ่นคุณลุงเท่านั้นแหละที่ชอบเธอ
เธอคิดว่าโหนกแก้มของเธอ ทำให้เธอขี้เหร่ เธอคิดว่าเธอผอมไปมั่ง คิดว่าตัวเองยังสวยไม่พอมั่ง ซึ่งความคิดเหล่านี้อาจจะมาจากวิธีที่เธอถูกเลี้ยงดูมา

มีการเปิดเผยในวาไรตี้โชว์รายการหนึ่งว่า ตอนที่แม่ของเธอตั้งท้องนั้นแม่ของเธออยากจะได้ลูกผู้ชาย และเพราะเหตุนั้น ตอนที่เธอเกิด
แม่ของเธอเลยผิดหวังที่ได้เห็นเด็กทารกตัวยาว ผิวดำ และขี้ริ้วขี้เหร่อย่างเธอ ในวัยเด็กของเธอ เธอถูกเลี้ยงมาอย่างเด็กผู้ชาย ผมเธอถูกตัดสั้น
และใส่เสื้อผ้าแนวทอมบอย แค่น้ันยังไม่พอ ซูยองยังต้องรับมือกับการเป็นลูกคนที่สอง, ในครอบครัวเกาหลีทั่วไป การเป็นลูกคนที่สองนั้น
(ไม่ว่าเป็นลูกสาว/ชาย) ต้องรับมือกับความคาดหวังที่สูงมาก คุณจะถูกคาดหวังให้ทำอะไรได้ดีให้เทียบเท่าตามรอยลูกคนโต
ไม่อย่างนั้น, คุณก็จะถูกเปรียบเทียบอย่างไม่หยุดหย่อน และต้องต่อสู้กับไอเดียที่ว่าคุณเป็นได้แค่อันดับสอง
ในกรณีของซูยองยิ่งหนักหนามากเพราะพี่สาวของเธอนั้นทั้งสวย มีพรสวรรค์ และมารยาทงาม
มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่คุณจะพยายามเป็นใครบางคนที่สมบูรณ์แบบกว่านั้น



แต่เธอมองเรื่องนี้ในแง่ร้ายมั้ย? เธอทำตัวเป็นเด็กหัวกบฎต่อต้านครอบครัวรึเปล่า?
เธอโกรธแม่เธอรึเปล่าที่แม่เธอออกมาบอกว่าเธอหัวแข็งและดันทุรังกว่าพี่สาวเธอ?
เธอมานั่งรำพึงรำพันรึเปล่าว่าวันเกิดครบขวบปีแรกในชีวิตของเธอเพิ่งจะมาจัดเอาเมื่อยี่สิบปีให้หลัง?

คำเดียวเลยคือ "ไม่"


มันทำให้ฉันทึ่งมาก ที่เธอหัวเราะไปกับมันได้ราวกับว่ามันเป็นเรื่องขี้ปะติ๋วมาก มันเป็นอะไรที่น่าขำที่ความสัมพันธ์ระหว่างเธอและพี่สาว
มันแน่นแฟ้นมากซะจนซูยองจะร้องไห้น้ำตาไหลเป็นแม่น้ำไทรโยคเมื่อคิดว่าเธอกับพี่สาวไม่ได้เจอหน้ากันนานแล้ว
ฉันคิดว่ามันเป็นอะไรที่น่ายกย่องมากกับความคิดที่ว่าเมื่อก่อนแม่เธอผิดหวังที่เธอไม่ใช่ลูกชาย
ไม่ได้ทำให้ความรักที่เธอมีต่อแม่ลดน้อยลงไปเลย เธอยังคงเป็นลูกสาวที่ดี เธอขยันเรียนจนจบมัธยมปลายตามระยะเวลาที่กำหนด
ไม่รวมถึงว่าเธอทำงานตั้งแต่อายุยังน้อย

ฉันเชื่อว่าความสำเร็จทั้งหมดนี้ไม่ได้มาจากตัวเธอเองคนเดียวทั้งหมด
เพราะครอบครัวของเธอคือส่วนสำคัญที่หล่อหลอมให้ซูยองเป็นซูยองอย่างในทุกวันนี้
ครอบครัวของเธอดูเหมือนจะเป็นครอบครัวใหญ่ที่มีความสุขอบอวลไปด้วยความรัก

นอกจากสถานการ์ณในครอบครัวแล้ว ฉันคิดว่าความรู้สึกไม่มั่นคงในตัวเองนิดหน่อยส่งผลกระทบถึงสิ่งที่เธอกำลังเป็นอยู่ คือการเป็นคนในวงการบันเทิง




ฉันเคยอ่านเจอโพสนึงในฟอรั่มนี้แหละ มีคนโพสว่า
เหตุผลที่เขายกให้ซูยองเป็นสมาชิกคนที่เค้าชอบน้อยที่สุด เพราะเค้ารู้สึกว่าซูยองนั้นอิจฉาสมาชิกคนอื่นๆ
อืมมมมม.....ไม่รู้นะ เรามาวิเคราะห์สถาณการ์ณนี้กันดีกว่า

ลองคิดภาพตามนะ " คุณถูกคัดเลือกโดยหนึ่งในบริษัทที่มีชื่อเสียงที่สุดในวงการบันเทิงของเกาหลีตั้งแต่อายุยังน้อย
คุณถูกส่งไปต่างประเทศตั้งแต่อายุสิบสองภายใต้สัญญาสามปีในฐานะสมาชิกของวงดูโอ้ เมื่อหมดสัญญาก็ได้เดินทางกลับมาแผ่นดินบ้านเกิด
เป็นนางแบบบ้างบางคราว เป็นพิธีกรบ้าง เล่นโฆษณาบ้าง ถึงแม้จะต้องกลับมาอยู่ในฐานะ'เด็กฝึกหัด' ก็ตาม
หลังจากนั้นสองปีบริษัทก็บอกว่า 'เฮ้! เราตัดสินใจแล้วว่า หลังจากฝึกมาเจ็ดปี รวมถึงเวลาที่ไปทำงานเป็นศิลปินที่ญี่ปุ่นด้วย
ก็ได้เวลาที่เราจะให้เธอเดบิวท์บนผืนแผ่นดินบ้านเกิดเสียที' คุณเลยรู้สึกตื่นเต้นไปหมด เพราะสิ่งที่เฝ้ารอคอยมันได้มาถึงเสียที
วินาทีที่เฝ้าฝันมานาน ได้เอาคำว่า'เด็กฝึกหัด'ออกไปใจเสียที แต่ก่อนที่คุณจะกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจไปมากกว่านี้ ก็ต้องโดนเบรกหัวคะมำ
เมื่อโปรดิวเซอร์พูดต่อว่า 'แต่เธอจะได้เดบิวท์กับวงเกริลกรุ๊ปที่มีสมาชิกเก้าคน และเธอจะได้เป็น นักร้องเสียงรอง'"

นั่นคงทำให้ใบ้กินไปเลยเหมือนกัน

ฉันไม่แปลกใจที่ซูยองเคยพูดว่า เธอประหลาดใจมากพอรู้ว่าจะต้องเดบิวท์ในฐานะสมาชิกคนหนึ่งของโซนยอชิแด
วงเกริล์กรุ็ปที่ใหญ่มาก วงที่มีกันตั้งเก้าคน
เด็กสาวเก้าคนที่มีบุคคลิกต่างกัน สมาชิกบางคนเธอก็รู้จักสนิทสนมมานาน บางคนเธอก็ไม่เคยเจอมาก่อน
เด็กสาวที่มีพรสวรรค์พร้อมจะโชว์ให้โลกเห็นเก้าคน เด็กสาวเก้าคนที่เผอิญมีความฝันที่เหมือนกัน เก้าคนนั้นหมายถึง
เธอต้องพยายามทำให้ดีที่สุดให้หนักขึ้นถึงเก้าเท่าเพื่อที่จะไม่ถูกบดบังรัศมี เพื่อที่จะเป็นสมาชิกที่มีความสามารถเทียบเท่ากับคนอื่นๆ


ถ้าฉันเป็นเธอ ฉันคงถอนตัวไปแล้ว แต่ซูยองของเราสูญสิ้นศรัทธารึเปล่าหล่ะ? เธอได้ตุกติกขอข้อเสนอที่ดีกว่ารึเปล่า? คำตอบคือ'ไม่เลย'
เธอยอมรับความท้าทายนั้น แล้วเริ่มต้นใหม่แต่แรก เธอเติบโตไปพร้อมๆกับเด็กทั้งเก้า เธอทำให้มันเป็นจุดที่ทำให้เธอพัฒนาไปทุกๆด้าน
พวกเราได้เป็นพยานเรื่องความพัฒนาในด้านการร้องเพลงของเธอ แม้กระทั่งทักษะทางการแสดง และการเต้น เฉกเช่นเดียวกับสถานการ์ณของครอบครัวเธอ
แทนที่เธอจะเก็บเอามาเป็นแง่ลบ แต่เธอก็พลิกให้มันเป็นเรื่องขำ และนั่นคือ ชเว ซูยองที่ฉันเห็นและ ชเว ซูยองที่ได้รับความนับถือจากฉัน


แล้วดูสิว่าตอนนี้สาวๆทั้งเก้าอยู่ในจุดไหน สามปีหลังจากเดบิวท์
พวกเธอก็กลายเป็นคลื่นที่กระทบไปทั่วเอเชียในฐานะหนึ่งในเกิร์ลกรุ๊ปที่ทรงอิทธิพลมากที่สุด
สาวๆได้ฝ่าฟันข่าวอื้อฉาว และอุปสรรคทั้งหมดจนได้รับชัยชนะ ไม่ใช่แค่ในนามของไอด้อลกรุ๊ป
ตอนนี้โซนยอชิแดไม่ใช่แค่วงหญิงล้วนเก้าคนที่รวมตัวกันอย่างวันวาน
ความสัมพันธ์แน่นแฟ้นที่พวกเธอร่วมทักถอในวันนี้ มันไม่ใช่แค่เพื่อนร่วมงาน แต่พวกเธอคือ'ครอบครัว'

ในครอบครัวนี้ ทุกคนมีบทบาทที่ต่างกันออกไป และฉันเชื่อว่าซูยองได้รับสิทธิ์อย่างชอบธรรมทุกอย่างที่จะได้ตำแหน่ง โฆษกของวง
เธอรู้ว่าควรจะพูดอะไร อย่างไร และตอนไหน มีหลายครั้งหลายคราวที่ซูยอง ออกรับหน้าเป็นผู้ปกป้องสาวๆ เธอออกรับคำผรุสวาทว่า
'สาวพลาสติก' ตอนที่เธอเป็นคนกล่าวขอบคุณแก่โซวอนที่มาให้กำลังใจในดรีมคอนเสิร์ต
ชื่อของเธอนั้นมักจะโผล่มาเป็นแพะรับบาป คู่กับสถาณการ์ณที่น่ากระอักกระอ่วน เธอเอาตัวเองไปอยู่ด่านหน้า
ไม่ว่าใครจะบอกว่าเธอทำอย่างนั้นไปเพื่อที่จะยืดเวลาตัวเองเพื่อให้เป็นที่สนใจ ฉันก็ห้ามไม่ได้
แต่สิ่งหนึ่งที่ฉันมั่นใจคือ สิ่งหนึ่งที่ซูยองจะทำ คือเสียสละตนเองเพื่อคนที่เธอรัก

ไม่ใช่ซูยองเองหรอกหรือที่บอกให้ยุนอาเลิกเรียกเธอว่า'ออนนี่' แต่ให้ปฎิบัติต่อเธอเหมือนเพื่อน?
ไม่ใช่ซูยองเองหรอกหรือที่ทำให้เจ้าหญิงน้ำแข็งละลายเมื่อปี 2001 เมื่อเจสสิก้าและซูยองตกลงเป็นเพื่อนกัน?
แล้วไม่ว่าซูยองจะต้องการเอาชนะซักแค่ไหน ทำไมเธอถึงยอมอ่อนลงให้มักเน่ซอฮยอนตลอด?
ใครหล่ะที่เป็นคนดึงเอาความขี้เล่นของฮโยยอนออกมาได้?
ใครหล่ะที่สังเกตุพฤติกรรมโมโห 5 ขั้นของยูริ และบุคลิกละเอียดยิบย่อยของเธอ?
ตอนที่เธอกำลังจะเอาแฮมเบอร์เกอร์เข้าปาก เธอยังหยุดคิดถึงซันนี่ที่อยู่ห่างออกไปครึ่งโลก
เพียงเพราะว่าซันนี่ก็ชอบกินแฮมเบอร์เกอร์เหมือนกันได้อย่างไร?
ไม่ใช่ซูยองหรอกเหรอที่บอกทิฟฟานี่และแทยอนว่า ถ้าพวกเธอรู้สึกแย่เมื่อไหร่ พวกเธอไม่ต้องแกล้งทำเป็นว่าสบายดี
เพราะพวกเธอมาพึ่งซูยองได้เสมอ ตลอดเวลา? เห็นรึยังว่าซูยองสนิทกับสาวๆคนอื่นมากแค่ไหน?
นั่นแหละคือครอบครัว ความสัมพันธ์ฉันท์พี่สาวน้องสาว นั่นแหละ คือความรัก


ฉันจำได้ว่าซูยองเคยพูดว่า เธออยากจะหัดเล่นกีต้าร์เธอจะได้ร้องเพลง 'Goodbye Days'ตอนโซโล่ของเธอในคอนเสิร์ต
พอเธอรู้ว่าแทยอนจะได้ร้องเพลงนี้ในละครเวที เธอรู้สึกเหมือนโดนหักหลังมั้ยหล่ะ?
ไม่เลย มิหนำซ้ำเธอยังเป็นคนแรกที่ส่งดอกไม้ไปให้การสนับสนุนให้แทยอนอีกต่างหาก
ฉันเชื่อว่าสาวๆที่เหลือจะประสบความสำเร็จได้ด้วยตัวเอง และไม่มีใครจะปรบมือให้ได้ดังเท่า
และตะโกนเชียร์ด้วยความภาคภูมิใจได้สุดเสียงเท่ากับสาวๆของพวกเราอีกแล้ว

พวกเธอบอกว่าซูยองคือตัวตนของโซนยอชิแด แต่ฉันจะบอกว่าซูยองเป็นมากกว่านั้น

บุคลิกภาพอาจกำหนด อารมณ์และทัศนคติต่อชีวิตในแบบทั่วๆไปแต่ ลักษณะนิสัยต่างหากหล่ะที่ทำให้คุณคือคุณ ในฐานะคนคนหนึ่ง

ความเป็นตัวตนของซูยองถูกขัดเกลาด้วยประสบการ์ณการทำงานอย่างหนัก จากความล้มเหลวและความสำเร็จ
ด้วยปัญหาในชีวิตประจำวัน เธอจัดการที่จะรับมือกับมันและทำให้ดีที่สุด ลักษณะนิสัยแบบนี้ ทัศนคติแบบนี้แหละ
คือกระจกสะท้อนของหนึ่งในคุณลักษณะมนุษย์ที่คนเรามักจะมองข้าม โลกเราทุกวันนี้มันโหดร้าย หลายๆครั้งที่เราสูญสิ้นความหวังในตัวของคนรอบข้าง
แต่ฉันคิดว่า ถ้ามีบางสิ่งที่เราควรจะยึดเหนี่ยวเอาไว้ คือความรู้สึกเชื่อมั่นว่าไม่ว่าอะไรจะแย่สักเท่าไหร่ มันจะดึงเอาส่วนที่ดีที่สุดของมนุษย์ออกมา

เมื่อไหร่ก็ตามที่ฉันได้ข่าวหายนะ ไม่ว่าจะเป็นถัยทางธรรมชาติ หรือมนุษย์เป็นผู้ก่อ
ฉันไม่ค่อยมีอารมณ์ร่วมไปด้วยสักเท่าไหร่ มันเป็นเรื่องปรกติที่คนเราต้องตาย
ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่ ฉันไม่ร้องไห้เมื่อรับรู้ว่ามีคนสิบล้านคนต้องตาย หรือเด็กเป็นหมื่นโดนฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยม
ฉันไม่ค่อยเสียน้ำตาให้กับความตาย ฉันจะเศร้าโศกไปกับคนที่ยังอยู่มากกว่า คนที่ถูกทอดทิ้งไว้เบื้องหลังมากกว่า
คนที่ดิ้นรนจะมีชีวิตรอด ฉันจะร้องไห้ให้กับความจริงที่ว่าในช่วงเวลาที่ย่ำแย่จนถึงขีดสุด มนุษยชาติที่เราเคยด่าทอ
จะยื่นมือเข้าช่วยเหลือซึ่งกันและกัน คุณจะเห็นว่ามีอาสาสมัครยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ ประเทศต่างๆพากันส่งอุปกรณ์ดำรงชีวิตไปช่วยเหลือ
มนุษย์จะกลับมาพึ่งพากันและกัน

มนุษย์เรามีความปราถนาที่มีมีชีวิตอยู่โดยสันดาร ถึงแม้เราจะแบ่งแยกกันตามเชื้อชาติ สีผิว ภาษา วัฒนธรรมและ ด้วยอะไรที่เป็นของเรา
พวกเราต่างก็อยากที่จะทิ้งร่องรอยความมีตัวตนของเราไว้บนเสี้ยวหนึ่งของจักรวาล เท่าที่ชีวิตสั้นๆเราจะทำได้อย่างดีที่สุด

คุณลักษณะเหล่านี้ได้สะท้อนออกมาจากตัวสาวๆของพวกเรา ว่าพวกเธอกล้าหาญแค่ไหนที่พาตัวเองมายืนได้ในจุดนี้
ได้เห็นว่าสาวๆร้องไห้ทุกครั้งที่ชนะรางวัล ทั้งๆที่มันน่าจะเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับพวกเธอไปแล้ว แต่ก็ไม่
พวกเธอยังร้องไห้เหมือนกับว่ามันคือรางวัลแรกของพวกเธอ นั่นเป็นเพราะว่า พวกเธอรู้ดีว่าแต่ละรางวัลนั้นมันมาจากหยาดเหงื่อ และน้ำตา
ความลำบากเหนื่อยยาก และเวลาที่พวกเธอใช้ร่วมกัน

และฉันภาคภูมิใจที่สาวๆไม่เคยลังเลเลยที่จะยื่นไมค์ให้ซูยองเป็นผู้กล่าวคำขอบคุณ
มันเหมือนกับว่าพวกเธอเชื่อใจ และมั่นใจในตัวซูยองด้วยชีวิตว่าเธอสามารถถ่ายทอดสิ่งที่อยู่ในใจของพวกเธอได้
มันอาจจะเป็นไปได้มั้ยว่า สาวๆเองก็รู้ว่าซูยองเข้าใจ เพราะเธอคือคนที่เหมาะสมกับสถานการ์ณมากที่สุด
ไม่ว่าจะเป็นเพราะอะไรก็ตาม มันก็ไม่ได้เปลี่ยนความเป็นจริงที่ว่า ซูยองสมควรได้รับบทบาทนี้ทุกประการเพราะสาวๆต่างก็เชื่อใจเธอ

ความเป็นห่วงเป็นใยต่อแฟนๆ และกับคนทั่วไป ศรัทธาอันแรงกล้าของเธอ ความนอบน้อม และความที่เธอปราถนาจะเป็นคนที่ดียิ่งขึ้น
การที่เธอมีเป้าหมายที่แน่ชัด และความมุ่งมั่นที่จะใช้ชีวิต ที่จะไปต่อ เพื่อที่จะต่อสู้ในทุกสนามจนกว่าจะถึงจุดสิ้นสุด
การที่เธอโหยหาให้คนยกย่องในตัวเธอและเธอก็พยายามอย่างหนักเพื่อให้ได้มา เธอยึดเอาทุกช่วงเวลาในชีวิตไม่ว่าจะเล็กน้อยสักแค่ไหน
เธอจะทำให้ช่วงเวลานั้นเหมือนกับปาฎิหาร์ยอันล้ำค่า นี่คือสิ่งเล็กน้อยจากล้านสิ่งที่ทำให้ฉันรักเธอ

ซูยองอาจจะเลือกทางอื่นก็ได้ แต่เธอก็เลือกทางที่เธอเดินอยู่ตอนนี้ มันก็เป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดในชีวิตเธอเลยมั้ง
เธอมีครอบครัวที่รักเธอ และมีพี่น้องนอกไส้เพิ่มมาอีกแปดคน ความไม่มั่นคงในตัวเองอาจจะแสดงออกมาให้เห็นบ้างบางคราว
แต่ฉันเชื่อในตัวเธอว่า วันนึงเธอจะเรียนรู้ที่จะยอมรับในตัวของตัวเองได้ ในแบบที่เธอเป็นเธอ

เธอจะเป็นสมาชิกที่ดึงดูดให้ฉันรักโซนยอชิแดตลอดไป หญิงสาวที่เปลี่ยนฉันจาก แอนตี้ที่น่าสมเพชเป็นแฟนคลับและหลงรักเธอ
เธอทำให้ฉันรักสาวๆที่เหลืออีกแปดคนด้วย เธอช่างกล้าหาญ แข็งแกร่ง และถ่อมตน อีกอย่างนึงคือซูยองนั้นมีอายุน้อยกว่าฉัน
แต่ฉันมีเธอเป็นแบบอย่าง นั่นก็น่าจะบอกได้แล้วว่า ฉันนับถือเธอในฐานะมนุษย์คนนึงมากแค่ไหน และฉันก็พยายาม
ที่จะเผยแพร่ให้คนรักเธอมากขึ้น ฉันเชื่อว่าเธอควรจะได้รับสิ่งดีๆนี้ทั้งหมด

และเพื่อจะตอบคำถาม และจบโพสที่ยาวเหยียดนี้ว่า "ทำไมถึงต้องเป็นซูยอง?"

แล้วทำไมจะไม่หล่ะ?


----------------------------------------

Source: [SOOYOUNGISM] Of beautiful souls and humanity in general..
By: Bam the Great@Soshified
แปลไทยโดยpimpcess ll SOSHIFANCLUB ll http://www.soshifanclub.com
กรุณานำออกไปพร้อมเครดิตทั้งหมด p.gif


---------------------------------

เพิ่มรูปให้เพื่อความซาบซึ้งค่ะ emo2 (12).gif emo2 (12).gif emo2 (12).gif