We Love Girls' Generation (SNSD)
Posts tagged girls’ generation
[Greeting] กระทู้อวยพรวันเกิด “ควอน ยูริ” 5 ธันวาคม 2560
สุขสันต์วันเกิดนะคะยูริ
สำหรับปีต่อๆไปนี้ ขอให้ยูริมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง คิดอะไรก็สมหวังตามที่ตั้งใจไว้
ขอให้ฟื้นตัวจากการผ่าตัดได้ไวๆ ได้กลับมาทำในสิ่งที่ชอบได้อย่างเต็มที่มากขึ้นนะคะ
พวกเราจะเป็นกำลังใจให้ยูริเสมอนะ
รัก.
[News] ตำรวจกังนัมสรุปผลสอบสวนกรณีอุบัติเหตุรถชนของแทยอน (Taeyeon)
ตำรวจได้รายงานเพิ่มเติมหลังจากได้แถลงการณ์เบื้องต้นกรณีอุบัติเหตุรถชนที่มีแทยอนเกี่ยวข้อง เมื่อวันที่ 28 พ.ย.
2 ธ.ค. แทยอน ได้ไปให้สอบปากคำที่สถานทีตำรวจกังนัม การสอบปากคำใช้เวลาประมาณ 20 นาที โดยแทยอนรับผิดต่อการก่อให้เกิดอุบัติเหตุครั้งนี้เนื่องจากเธอไม่ได้ระมัดระวังต่อรถคันข้างหน้าเธอ แทยอนกล่าวว่าเธอกำลังเดินเรื่องให้บริษัทประกันช่วยชดเชยให้กับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บในเหตุการ เพื่อที่พวกเขาจะได้รับการรักษาและค่าชดเชยอย่างเร็วที่สุด
ก่อนหน้านี้แทยอนถูกตั้งคำถามถึงว่ามีหมาอยู่บนรถขณะเกิดเหตุไหม ซึ่งอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ทั้งนี้แทยอนกล่าว "บนรถตอนนั้นมีลูกหมาวัย 3 เดือนอยู่บนรถกับฉันค่ะ แต่ลูกหมานั้นได้หลับอยู่ในกรง ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุในครั้งนี้"
นอกจากนั้นทางตำรวจยังได้พูดคุยกับคนขับรถแท็กซี่ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับบาดเจ็บในอุบัติเหตุครั้งนี้ ส่วนผู้บาดเจ็บรายอื่นยังอยู่ในช่วงตรวจรักษาและยังไม่ได้ยื่นผลตราจ
ทั้งนี้อุบัติเหตุครั้งนี้ไม่ได้อยู่ใน '11 ข้อของผู้กระทำการโดยประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง' และอุบัติเหตุครั้งนี้อยู่ภายใต้การดูแลของบริษัทประกัน ทำให้คดีนี้ถูกปิดลงโดยปราศจากการฟ้องร้องหลังได้รับการตรวจสอบและปิดคดีแล้ว
Source: soompi
แปลไทย: Translator Gang ll soshifanclub ll http://www.soshifanclub.com
[News] ฮโยยอน (Hyoyeon) เตรียมสปีคอิงลิชเข้าร่วมรายการ ‘My English Puberty’
ทางช่อง tvN ได้ทำรายการวาไรตี้โชว์ตัวใหม่ ชื่อรายการ 'My English Puberty'
รายการนี้มีจุดมุ่งหมายที่จะออกมาในรูปแบบของวาไรตี้โชว์ที่ให้ความรู้ โดยจะให้เหล่าคนดังไปเข้าโรงเรียนเตรียมภาษาอังกฤษ เพื่อพัฒนาความสามารถด้านภาษาอังกฤษของพวกเขา ในรายการจะมี ฮโยยอน, ฮวังชินฮเย, ฮวีซอง, จีซังรยอล, จองซีอา, และฮันฮยอนมิน ผู้เข้าร่วมรายการ 'My English Puberty' เพิ่งได้เข้าไปในโรงเรียนเตรียมภาษาอังกฤษย่านกังนัมเมื่อไม่นานมานี้
รายการ 'My English Puberty' จะเริ่มออกอากาศวันที่ 4 ธันวาคมม เวลา 20:10 น. เวลาเกาหลี
Source: allkpop
แปลไทย: Translator Gang ll soshifanclub ll http://www.soshifanclub.com
[News] ทิฟฟานี่ (Tiffany) บินลัดฟ้ามาร่วมเปิดช็อปแบรนด์ที่ฮ่องกง พร้อมให้สัมภาษณ์ “สาวๆโซชิสบายดี ยังติดต่อกันอยู่ ไม่ต้องเป็นห่วง”
30 พ.ย. ทิฟฟานี่ เข้าร่วมงานเปิดช็อปของแบรนด์ Bottega Veneta ที่ฮ่องกง
นับเป็นครั้งแรกที่ทิฟฟานี่ได้ออกงานในโซนประเทศเอเชียและให้สัมภาษณ์ต่อสื่อหลังจากที่เธอไม่ได้ต่อสัญญากับค่าย SM Entertainment และตัดสินใจเดินทางกลับบ้านเกิดที่อเมริกา เพื่อไปศึกษาต่อด้านการแสดง โดยเธอได้ให้สัมภาษณ์ผ่านนิตยสารไว้ว่าเธอได้เริ่มเข้าเรียนไปเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา
ทิฟฟานี่เริ่มต้นทักทายแฟนๆที่มารอเธอด้วยภาษาจีนกวางตุ้ง "สวัสดีค่ะทุกคน ขอบคุณที่มานะคะ" นอกจากนั้นเธอได้ขอบคุณแบรนด์ Bottega Veneta ที่ให้เกียรติเชิญเธอมาร่วมงานครั้งนี้ด้วย เพราะเธอไม่ได้มาร่วมงานแฟชั่นที่ฮ่องกงเป็นเวลากว่า 2 ปีแล้ว หลังจากนั้นทิฟฟานี่ได้ให้สัมภาษณ์ต่อหน้าสื่อด้วยภาษาอังกฤษเป็นเวลาประมาณ 5-6 นาทีก่อนจะเดินทางกลับ
โดยสื่อฮ่องกงได้สัมภาษณ์ถามคำถามทิฟฟานี่ ดังนี้
Q: เทศกาลคริสต์มาสกำลังจะมาถึงแล้ว คุณได้ไปซื้อของให้กับเพื่อนหรือครอบครัวบ้างไหม?
ทิฟฟานี่: ฉันเพิ่งได้ย้ายกลับไปที่ LA ค่ะ ที่นั่นจะฉลองกันคึกคักเลย ฉันได้ไปซื้อของให้กับครอบครัวนะคะ แล้วก็ได้ยินมาว่าแทยอนกำลังเตรียมตัวจัดคริสต์มาสคอนเสิร์ตด้วย ฉันเลยค่อนข้างตื่นเต้นกับผลงานเพลงของเธอค่ะ และสุขสันต์วันคริสต์มาสนะ
Q: คุณมีภาพลักษณ์ที่สวยงามดั่งเทพธิดา คุณมีเกณฑ์อะไรไหมในการเลือกคู่แต่งงานหรือเปล่า?
ทิฟฟานี่: เป็นคำถามที่ถือว่าใหม่มากๆนะคะ ฉันเดาว่าเขาคงต้องอาศัยอยู่ใน LA ในตอนนี้นะ? อืม ใช่ค่ะ เป็นการอยู่ที่ LA
Q: แผนในอนาคตของคุณ?
ทิฟฟานี่: ฉันเพิ่งเริ่มเรียนเมื่อเดือนกันยายนค่ะ และกำลังรอช่วงปิดเทอมฤดูหนาวอยู่ ในเดือนมกราคมที่ LA จะเป็นฤดูแห่งการออดิชั่นค่ะ ฉันเลยวางแผนว่าจะลองไปออดิชั่นดู และฉันเพิ่งจะเริ่มงานเพลงด้วย ปีหน้าอาจจะมีข่าวดีนะคะ
Q: คุณถือว่าเป็นนักร้องที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก อะไรทำให้คุณอยากไปศึกษาในโรงเรียนด้านการแสดง แล้วมีนักแสดงฮ่องกงคนไหนไหมที่คุณอยากร่วมงานด้วยในอนาคต
ทิฟฟานี่: ฉันอยากทำงานด้านการแสดงอยู่เสมอค่ะ อยากจะเรียนรู้และมีพื้นฐานด้านการแสดงก่อนจะรับเล่นบทอะไร ส่วนเรื่องนักแสดงฮ่องกง แต่ตอนนี้เขาเป็นนักแสดงระดับ Hollywood ไปแล้ว แต่เขาเป็นคนฮ่องกงค่ะ Daniel Wu ถ้าได้เจอเขา ได้ทำงานกับเขาที่ฮ่องกงหรือ Hollywood คงดีมากๆเลยค่ะ ฉันเป็นแฟนคลับน่ะค่ะ
Q: พรุ่งนี้มีงาน MAMA ด้วย คุณจะเข้าร่วมหรือเปล่า?
ทิฟฟานี่: โอ้มายก้อช จริงๆคือฉันต้องกลับไปเรียนต่อหลังลงเครื่องเลยค่ะ แต่ถือเป็นเกียรติมากๆ และอยากขอบคุณแฟนๆที่โหวตให้ Girls' Generation นะคะ ขอบคุณมากจริงๆค่ะ และยินดีด้วยสำหรับผู้ที่ได้เข้าชิงรางวัลคนอื่นนะคะ
Q: มีโอกาสได้คุยกับแทยอนหรือยังหลังอุบัติเหตุนั้น เธอรู้สึกอย่างไร?
ทิฟฟานี่: ค่ะ สาวๆทุกคนยังติดต่อกันอยู่ แทยอนปลอดภัยดีค่ะ และฉันขออวยพรให้เธอโชคดีสำหรับคริสต์มาสคอนเสิร์ตและงานต่างๆของเธอด้วย สาวๆทุกคนสบายดีค่ะ เรายังติดต่อกันอยู่ ไม่ต้องห่วง
คลิปตอนทิฟฟานี่ให้สัมภาษณ์และตอบคำถาม
Source: K-Star hk
แปลไทย: Translator Gang ll soshifanclub ll http://www.soshifanclub.com
[News] ต่างค่ายแต่ใจเดียวกัน! ยูริ (Yuri) และ ซอฮยอน (Seohyun) ร่วมงานมินิทอร์คของ Pantene
30 พ.ย. ยูริ และ ซอฮยอน เข้าร่วมงานมินิทอร์คของ Pantene ที่กรุงโซล โดยทั้งคู่นั้นรับหน้าที่เป็นพรีเซนเตอร์ของแบรนด์ยาสระผม Pantene มาตั้งแต่ปี 2016
ทั้งนี้นี่เป็นการออกงานคู่กันของยูริและซอฮยอนครั้งแรก หลังจากที่ทั้งสองคนอยู่กันต่างค่าย เนื่องจากซอฮยอนไม่ได้ต่อสัญญากับค่าย SM Entertainment ตามข่าวที่ออกมาในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา (ร่วมถึงซูยอง และทิฟฟานี่ด้วย)
หากแต่ความสัมพันธ์, ความรัก, ความสนิท, และความเป็นโซนยอชิแด ของพวกเธอยังคงเหมือนเดิม ในงานวันนี้ยูริและซอฮยอนต่างยิ้มแย้มและหยอกกันเล่นภายในงาน
นอกจากนั้นแล้ว นี่ยังเป็นการออกมาพบสื่อและแฟนๆครั้งแรกของยูริหลังจากที่เธอได้เข้ารับการผ่าตัดข้อเท้าหลังจบการโปรโมทเมื่อเดือนสิงหาคม ยูริเคยกล่าวในไลฟ์ของเธอบนอินสตาแกรมว่า เธอเจ็บข้อเท้าและเข้ารับการผ่าตัดนำชิ้นส่วนกระดูกออก และต้องเข้าเฝือกนานกว่า 10 วัน แต่ตอนนี้เธอแข็งแรงดีแล้ว พักฝื้นดูแลตัวเองด้วยดี ก่อนมางานวันนี้ยูริได้กล่าวว่า "นี่เป็นการใส่รองเท้าส้นสูงของฉันครั้งแรกหลังผ่าตัดเลยค่ะ"
ในส่วนของซอฮยอนนั้นเพิ่งปิดกล้องการถ่ายทำซีรีย์ 'Bad Thief, Good Thief' ไปเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา หลังจากนั้นเธอได้ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อถึงการตัดสินใจไม่ต่อสัญญาของเธอรวมไปถึงการวางแผนในอนาคต ซึ่งเธอได้กล่าวไว้ว่า "การที่ฉันตัดสินใจแบบนี้ไม่ใช่เพราะว่าฉันอยากไปอยู่ค่ายอื่นหรอกนะคะ จริงๆแล้วสาเหตุนั้นไม่มีอะไรพิเศษค่ะ ฉันเพียงแค่อยากอยู่ได้ด้วยตัวเอง อยากจะตัดสินใจด้วยตัวเอง และเพื่อที่จะทำแบบนั้นแล้ว ฉันต้องไปพบเจอคนที่สามารถช่วยเหลือฉันในการทำขั้นตอนเหล่านั้น ฉันเลยต้องมองข้ามค่ายปัจจุบันค่ะ" และ "ฉันคิดว่าฉันต้องการเวลาให้ตัวเองสักนิด หลังจากนั้นฉันวางแผนจะสร้าง one-man agency หรือหาบริษัทใหม่ค่ะ"
สำหรับ วง Girls' Generation นั้น ซอฮยอนยังพูดปิดท้ายไว้ว่า "แม้เราจะอยู่กันต่างค่าย แต่ Girls' Generation เป็นอะไรที่จะคงอยู่ตลอดไปค่ะ แน่นอนว่าเราจะวางแผนโปรโมทอีก"
ทั้งนี้ซอฮยอนจะไปเป็นแขกรับเชิญในคริสต์มาสคอนเสิร์ต 'The Magic of Christmas Time' ของแทยอน ในเดือนธันวาคมนี้ ด้วย
คลิปบรรยากาศในงานวันนี้
Source: osen, allkpop
แปลไทย: Translator Gang ll soshifanclub ll http://www.soshifanclub.com
[News] สวยและใจดี! ซอฮยอน (Seohyun) บริจาคเงินให้กับผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวที่โพฮัง
สวยแล้วยังใจดี ซอฮยอน บริจาคเงินให้กับผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวที่โพฮัง
30 พ.ย. ทาง Hope Bridge ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยของเกาหลี เผยว่าซอฮยอนได้บริจาคเงินกว่า 30 ล้านวอน (ประมาณ 9 แสนบาท) ให้กับผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวที่โพฮัง
ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่น้องเล็กของเราได้ทำบุญเพื่อการกุศล เมื่อปี 2011 ซอฮยอนได้บริจาครายได้ทุกวอนที่เธอได้รับจากการร้องเพลงโลโก้ของงาน 'Asia Song Festival' ให้กับทาง UNICEF ทั้งหมด นอกจากนั้นเธอยังเคยบริจาคเงิน 10 ล้านวอน (ประมาณ 3 แสนบาท) ให้กับผู้ป่วยโรค Retinitis Pigmentosa ในปี 2014 อีกด้วย
Source: allkpop
แปลไทย: Translator Gang ll soshifanclub ll http://www.soshifanclub.com
[News] แทยอน (Taeyeon) ประสบอุบัติเหตุรถชนที่กังนัม ไม่ได้รับบาดเจ็บ, SM แถลงขอโทษ และเจ้าหน้าที่ชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
บ่ายของวันที่ 28 พ.ย. แทยอนแกำลังเดินทางจากแถวสถานี Hakdong ไปยังสถานี Nonhyeon บนถนนสามเลน โดยรถคันที่แทยอนขับนั้นไปชนท้ายของแท็กซี่ข้างหน้า ทำให้รถแท็กซี่ไปชนรถข้างหน้าอีกที ทำให้เกิดการชนท้ายของรถ 3 คัน
คำแถลงการจาก SM Ent. "วันนี้เมื่อเวลา 19:40 น. (เวลาเกาหลี) ในขณะที่แทยอนกำลังทำภารกิจส่วนตัวย่าน Nonhyeon ด้วยความไม่ระวัดระวังของเธอ เธอได้ประสบอุบัติเหตุรถชน แทยอนได้แสดงความเสียใจและขอโทษถึงคนขับรถและผู้โดยสารและเธอจะพยายามอย่างสุดความสามารถในการแก้ไขอุบัติเหตุในครั้งนี้"
กล่าวต่อ "หลังจากจัดการเรื่องอุบัติเหตุรถชนแล้ว แทยอนได้เดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัยไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ ทั้งนี้เราต้องขอโทษที่ทำให้เกิดความกังวล" ทั้งนี้ทาง SM Ent. ได้กล่าวว่าจะตัดสินใจเรื่องการคัมแบ็คและคอนเสิร์ตของแทยอนในเดือนหน้าอีกที
แหล่งข่าวจากสถานีตำรวจ Nonhyeon ได้เผยต่อสำนักข่าว OSEN ว่า " แทยอนตัวสั่นมากตอนเกิดอุบัติเหตุ ส่วนฝ่ายอื่น(คนบนรถคันที่ถูกชน)ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย"
ตอบถึงโพสบนโลกโซเชียล ทางตำรวจเองได้แจ้งและแถลงถึงสาเหตุที่ไม่ได้ตรวจวัดค่าแอลกอฮอลในเลือดของแทยอน กล่าว "พวกเราได้ทำ Sobriety Test (การทดสอบว่าผู้ขับมีสติสัมปชัญญะครบถ้วนหรือไม่) เพื่อเป็นการตรวจสอบว่าเธอดื่มหรือไม่ แต่ในเคสของแทยอน เราไม่พบว่าเธอดื่ม นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเราไม่ได้ตรวจวัดค่าแอลกอฮอลในเลือดของแทยอน"
สำนักข่าว YTN ได้โทรไปสัมภาษณ์คนขับรถพ่วงที่อยู่ในเหตุการณ์ "ผมอยู่ตอนที่เกิดเหตุการณ์ครับ แทยอนโทรหาผู้จัดการและรอแจ้งบริษัทประกันด้วย ส่วนรถพยาบาลมาในภายหลังแล้วตรวจเช็คคนเจ็บทันทีที่มาถึงสถานที่ แทยอนตัวสั่นตั้งแต่เกิดเหตุ เธอเข้าไปดูอาการของผู้บาดเจ็บ ทั้งคนขับและผู้โดยสาร ผู้จัดการของแทยอนมาถึงในภายหลังและจัดการสิ่งต่างๆ" และ "หลังจากเกิดอุบัติเหตุแทยอนไม่ได้เป็นห่วงแค่ตัวเอง แต่กับผู้บาดเจ็บคนอื่นด้วย เธอไม่ได้เข้าใกล้รถพยาบาลเลย ในตอนนั้นมีผู้โดยสารที่เป็นผู้หญิง 2 คนที่มาจากแท็กซี่ ผมว่าเขาน่าจะเป็นคนโพสลง SNS ที่ผมทราบคือทั้งคู่มองไปทางรถของผู้กระทำ(แทยอน) และหลังจากนั้นก็ถูกนำตัวส่งไปที่โรงพยาบาล"
นอกจากนั้นสถานีดับเพลิงกังนัมได้ออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับกรณีอุบัติเหตุรถชนของแทยอนเมื่อคืน ด้วยเหตุที่ว่าคนที่ถูกชนกล่าวว่า 'เซเลปได้รับการปฏิบัติที่ดีกว่า' ในเหตุการณ์ หากแต่สิ่งที่พวกเธอกล่าวถูกคนขับรถพ่วงออกมาแก้ไข
แทยอนก่อให้เกิดอุบัติเหตุรถชนกัน 3 คันเมื่อคืนที่โซล จากพยานในเหตุการณ์แล้ว รถ Mercedes-Benz ของแทยอนนั้นชนกับ รถแท็กซี่ K5 และแท็กซี่ได้ชนเข้ากับรับ Audi ด้านหน้าอีกที
เนติเซนคนนึงบอกว่าตัวเองเป็นผู้โดยสารบนรถแท็กซี่ อัพ Instagram ว่า "พนักงานจากสถานีดับเพลิงปฏิบัติต่อแทยอนดีกว่า เพราะว่าเธอเป็นไอดอลหญิง ทั้งที่เธอเป็นคนผิด" แถมยังมีพนักงานคนนึงพูดว่า "เราน่าจะถ่ายรูปกับแทยอนนะ"
โพสนี้ได้ถูกเผยแพร่ออกไปอย่างกว้าง ทั้งแทยอนและสถานีดับเพลิงถูกตำหนิเป็นอย่างมาก หากแต่อีกมุมนึง ด้านคนขับรถพ่วงอธิบายถึงเหตุการณ์ครั้งนี้ต่างไปจากผู้โดยสารแท็กซี่
(ตรงนี้จะเป็นส่วนที่สำนักข่าวสัมภาษณ์กับทางสถานีดับเพลิงแบบคำถาม 1:1)
Q: จริงหรือเปล่าที่แทยอนได้รับการช่วยเหลือนำตัวขึ้นรถพยาบาลก่อน
A: ในตอนแรกนั้นมีเพียงรถพยาบาลหนึ่งคันที่ไปถึงที่เกิดเหตุก่อน ถุงลมนิรภัยของรถ Mercedes-Benz ทำงานพองตัวขึ้นมา ตอนที่ทางสถานีดับเพลิงไปถึงเราได้ดูสถานการณ์และจัดประเภทคนเจ็บ นั่นหมายความว่าคนที่เจ็บหนักที่สุดจะได้รับการดูแลก่อน คนอื่นๆบอกว่าเจ็บหลัง แต่แทยอนบอกว่าเธอเจ็บหน้าอก เพราะเราคิดว่าเคสแทยอนนั้นหนักหนาว่าคนอื่น เราเลยพยายามจะนำเธอส่งโรงพยาบาลก่อน
Q: แทยอนได้ขึ้นรถพยาบาลก่อนจริงไหม?
A: หลังแทยอนเคลียร์กับประกันแล้ว เธอบอกว่าจะไปโรงพยาบาลด้วยตัวเอง เธอไม่อยากขึ้นไปบนรถพยาบาล ในตอนนี้รถพยาบาลอีกคันมาถึงและนำตัวผู้โดยสาร 2 คน และคนขับรถ Audi พากันแยกย้ายไปโรงพยาบาล
Q: มีการตั้งคำถามถึงว่า 'เซเลปได้รับการปฏิบัติที่ดีกว่า'
A: เราจะปฏิบัติดีกับใครก็ได้ เราไม่ได้พยายาลจะพาเธอไปโรงพยาบาลเพราะเธอเป็นเซเลปหรือคนดัง แต่เพราะแทยอนบอกว่าเธอเจ็บหน้าอก และนั่นถือว่าเป็นเหตุฉุกเฉินที่ต้องได้รับการดูแลก่อน สำหรับเราแล้วไม่มีการแบ่งคนดังหรือคนทั่วไป ต่อให้คนที่บอกว่าเจ็บหน้าอกไม่ใช่แทยอน เราก็ต้องนำตัวเขาส่งโรงพยาบาลก่อน หากแต่รถพยาบาลนั้นสามารถขึ้นได้เพียงไม่กี่คน ฉะนั้นผู้บาดเจ็บที่อาการหนักกว่าจะได้รับการดูแลก่อน เราไม่เข้าใจประโยค 'เซเลปได้รับการปฏิบัติที่ดีกว่า' มาได้ยังไง แต่เราไม่มีเหตุผลหรือจำเป็นต้องทำแบบนั้น
Q: เขาบอกอีกว่า พนักงานบางคนพูดว่า "เราน่าจะถ่ายรูปกับแทยอนนะ"
A: เหตุการณ์นั้นถือว่าเป็นอะไรที่ฉุกเฉิน เราต้องจัดการมันให้เร็วที่สุด แล้วเราจะพูดแบบนั้นทำไมหละครับ? เราได้ถามทีมของเราหลังจากเห็นโพสนั้นแล้ว แต่ไม่มีใครพูดสิ่งนั้นออกมานะ
Source: soompi, soompi, @ch0sshi, @TheSoneSource
แปลไทย: Translator Gang ll soshifanclub ll http://www.soshifanclub.com
[Trans] บทสัมภาษณ์ซูยองในนิตยสาร COSMOPOLITAN ฉบับเดือนธันวาคม 2017
COSMOPOLITAN: ในทุกๆปีช่วงเวลานี้ พวกเราจะเลือกคนดังที่เป็น beauty icon ประจำปี และคุณได้ถูกรับเลือก รู้สึกอย่างไรบ้าง?
ซูยอง: ฉันรู้สึกขอบคุณมากๆเลยค่ะ ฉันมีความสนใจเกี่ยวกับเรื่องความสวยความงามมากพอควรเลย ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญสำหรับฉันเลยนะคะในเวลาที่โปรโมท ไม่ใช่แค่การแต่งหน้า แต่ฉันก็สนใจถึงผิว, ผม, และร่างกายของฉันด้วยค่ะ การเป็นคนที่มีความมั่นนั้นสำคัญนะคะ ฉันจะขอน้อบรับการได้รับเลือกเป็น 'beauty icon' ของ Cosmo Beauty Awards ในปีนี้นะคะ และรางวัลนี้ไม่ได้หมายความว่าฉันทำมันได้อย่างดี แต่เพราะว่าฉันควรจะดูแลตัวเองให้ดียิ่งขึ้นไปอีก
COSMOPOLITAN: เราคิดว่าคนส่วนใหญ่จะถูกแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มนะ คือ คนที่จะสวยมากๆตอนอายุถึงจุดๆนึง กับ คนที่ยิ่งเวลาผ่านไปยิ่งสวย โดยส่วนตัวแล้ว เราว่าคุณเป็นอย่างหลัง แสดงว่าคุณต้องดูแลตัวเองดีพอควรเลยใช่ไหม?
ซูยอง: ปกติแล้วฉันจะคอยดูพวกผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อสุขภาพผิวค่ะ แล้วก็ถ้ามีชุดหรือเสื้อผ้าที่ดูแล้วน่าจะเข้ากับฉัน ฉันจะเซฟรูปนั้นไว้ในมือถือแล้วไปลองมันในภายหลัง แต่ถ้าจะให้พวกผลิตภัณฑ์ดูแลความสวยความงามเราต้องจัดลำดับมันนะคะ ฉันว่าการเลียนแบบการใช้ของพวกนี้มันไม่เข้ากับแต่ละคนนะ เช่นบางอย่างมันกำลังอินเทรนด์แบบนี้ เหมือนการที่เราเห็นการเปลี่ยนแปลงของร่างกายเราหลังออกกำลังกายทุกวันๆ การดูแลผิวทีละนิดทีละหน่อยถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมากนะคะ ต่อให้ฉันจะเหนื่อยมากๆจากตารางงานที่แน่น อยากจะทิ้งตัวลงนอนไม่อยากขยับนิ้วเลย แต่ฉันจะคิด 'ไม่นะ! อย่างน้อยก็ควรจะมาส์กหน้า' แล้วก็ทำมันทันทีเลย ถ้าเราใส่ใจพยายามวันละนิด อนาคตเราจะได้ผลที่ดีนะคะ
COSMOPOLITAN: ถ้าพูดถึงซูยองแล้ว อย่างแรกที่เข้ามาในหัวคือ Girls' Generation แต่ผลงานของคุณน่ะมันเจ๋งมากๆเลย
ซูยอง: ฉันขอบคุณนะคะที่คุณมองมันแบบนั้น ฉันมีความต้องการที่จะลองแสดงบทบาทใหม่ๆในฐานะนักแสดงมากๆเลย ฉะนั้นฉันอยากจะปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ให้เข้ากับบทใหม่ๆที่ฉันจะรับค่ะ
COSMOPOLITAN: ไม่นานมานี้คุณได้ถ่ายซีรีย์ 'Man Who Sets the Table' เราเลยรู้สึกว่าผิวของคุณอาจจะไม่ได้ดีเสมอเพราะทั้งต้องถ่ายทำกันดึกดื่นและอาการก็หนาวด้วย
ซูยอง: ผิวของฉันจะบอบบางนะคะถ้าตอนไหนที่ฉันนอนไม่เพียงพอ แล้วยิ่งต้องไปถ่ายทำทั้งข้างในห้องอุ่นๆและข้างนอกที่หนาวๆ ฉันเลยเลือกจะใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวแบบทั่วไปเพื่อให้ผิวคงทนค่ะ ปกติฉันจะติดการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ผิวชุ่มชื่น จะใช้ pitera essence กับคอนตอนทาก่อนจะแต่งหน้าค่ะ หรือตอนไหนที่พักอยู่ก็จะใช้ facial pack หากตอนไหนผิวไม่ค่อยดี การแต่งหน้าก็จะออกมาไม่ดีค่ะ และผิวของฉันจะยิ่งบอบบางเลยต้องดูแลมันล่างหน้า
COSMOPOLITAN: ฉะนั้นในกระเป๋าของซูยองก็ต้องมี pitera essence?
ซูยอง: แน่นอนค่ะ! ฉันพก pitera essence กับ คอตตอนเป็นชุดเลย pitera mist ก็เช่นกัน
COSMOPOLITAN: ในการสัมภาษณ์กับ Cosmo ครั้งก่อน คุณบอกว่าเวลาออกกำลังกายคุณจะโฟกัสกาพัฒนาสุขภาพร่างกายของคุณมากกว่าจะจัดการน้ำหนัก ตอนนี้ยังเป็นแบบนั้นไหม?
ซูยอง: เวลามีคนเห็นแบบนี้ เขาจะมองว่ามันเป็นเรื่องปกตินะคะ แต่ฉันจะยืดเส้นหลังตื่นนอนประจำเลย แล้วจะไม่ข้ามมื้ออาหารด้วย ทั้งเล่นโยคะและตีกอล์ฟทุกครั้งหากมีเวลา มันอาจจะไม่มีอะไรพิเศษ แต่การทำสิ่งเหล่านี้เป็นปีๆมันช่วยให้เราไม่เหนื่อยง่ายนะคะ โดยเฉพาะการที่ต้องทำงานติดต่ออยู่กันหลายๆคืนและจะจัดการอารมณ์ได้ดีเวลาแสดงด้วย มันทำให้ฉันไม่เหนื่อยง่ายค่ะ
COSMOPOLITAN: หากคุณได้ย้อนกลับไปช่วงวัย 20 ต้นๆ คุณจะกลับไปใส่ใจดูแลเกี่ยวกับความสวยความงามที่สุด?
ซูยอง: แน่นอนว่าต้อง ความสวยจากภายในค่ะ! ฉันคิดว่าฉันจะทานของที่ดีต่อผิว และเป็นคนคิดบวกให้มากยิ่งขึ้น
COSMOPOLITAN: สุดท้ายนี้ มีคำแนะนำอะไรหรือเปล่าที่อยากฝากไว้ในฐานะ beauty icon ของ Cosmo Beauty Awads ในปีนี้
ซูยอง: คำพูดของคำเราจะตราตรึงใจคนอื่นได้จากการคิดของพวกเขาค่ะ ฉันเชื่อในความสำคัญของคำเหล่านี้นะ ฉะนั้นเวลามองกระจกและแต่งหน้า ฉันจะพยายามคิดบวก 'ถ้าฉันทาตัวนี้ ผิวฉันจะดีขึ้นนะ' หรือ 'ในวันสำคัญวันหน้าฉันจะสวยขึ้นนะ' มันไม่ได้มีอะไรมากค่ะ แต่การทำให้เราคิดบวกมากขึ้นอยู่เสมอ สิ่งเหล่านี้ทำให้เรามีความสุขและฉันคิดว่ายังทำให้เรามีความมั่นใจ ทุกคนควรลองดูนะคะ!
Scan by: GGPM
Eng Trans: @ch0sshi
แปลไทย: Translator Gang ll soshifanclub ll http://www.soshifanclub.com
[Trans] “Girls’ Generation จะคงอยู่ตลอดไป” บทสัมภาษณ์ครั้งแรกของซอฮยอนหลังตัดสินใจไม่ต่อสัญญากับ SM Ent.
หากจะให้พูดถึงกิจกรรมของ Girls' Generation ตั้งแต่นี้ ซอฮยอน ได้พูดไว้ว่า "Girls' Generation จะคงอยู่ตลอดไปค่ะ"
การสัมภาษณ์ครั้งนี้เป็นการให้สัมภาษณ์หลังจบซีรีย์ทางช่อง MBC ของเธอ อย่างเรื่อง 'Bad Thief Good Thief' นี่ถือว่าเป็นครั้งแรกที่ซอฮยอนจะได้ออกมาพบกับสื่อหลังออกจาก SM Ent. ทั้งนี้ยังมีสื่อกว่า 15 สำนักมารวมตัวรอการสัมภาษณ์ครั้งแรกของเธอด้วยเช่นกัน
เมื่อพูดถึงกิจกรรมของเธอจากนี้ ซอฮยอน กล่าวว่า "ฉันคิดว่าตอนนี้ฉันจะรับงานแสดงมากขึ้นนะคะ และจะทำหน้าที่การเป็นนักร้องของตัวเองต่อไปเช่นกัน ฉันจะทำงานหลายแบบที่ต่างกันออกไป แต่ Girls' Generation ก็จะคงอยู่ตลอดไปค่ะ เหมือนอย่างสโลแกนที่เรามักจะพูดอยู่เสมอ Rightnow, Always, Forever Girls' Generation"
เธอค่อนข้างจะระมัดระวังทุกคำพูดที่เธอกล่าว "ฉันไม่สามารถบอกถึงทิศทางกิจกรรมได้หรอกนะคะ โดยส่วนตัวแล้ว ถ้าจะให้ยบอกว่า 'พวกเราจะทำแบบนี้นะ' หรืออะไรแบบนี้ เพราะพวกเราอยู่คนละค่ายคนละบริษัท หลังจากนี้ตอนที่เราได้โปรโมทกันอีกครั้งเราคงสามารถบอกพวกคุณได้ค่ะ ไม่ว่ามันจะออกมาในรูปแบบไหน ถึงอย่างนั้นเราก็จะไม่เปลี่ยนแปลงค่ะ พวกเราจะยังคงสนับสนุนกันและกันต่อไป"
เมื่อถามถึงความเป็นจริงกับการที่พวกเธอจะโปรโมทด้วยกันแบบ 'ทั้งวง' นั้น ซอฮยอน ตอบ "เราไม่สามารถรู้เรื่องของอนาคตได้หรอกนะคะ" และ เราถามเธอต่อว่ามีสมาชิกคนไหนที่คัดค้านการออกจาก SM Ent. ไหม ซอฮยอน เผยว่า "ไม่นะคะ พวกเราได้พูดคุยถึงสิ่งที่พวกเราต้องการ เลยไม่ได้กดดันอะไรกันเลยทั้งสิ้น"
เมื่อมองย้อนกลับไป ซอฮยอน กล่าวว่า "ฉันเป็นสมาชิกอยู่ในครอบครัว SM กว่า 15 ปีค่ะ ฉันเป็นเด็กเทรนด์มา 5 ปีก่อนเดบิวต์ และโปรโมทในฐานะ Girls' Generation มา 10 ปี มันเป็นความรู้สึกที่รวมๆกันนะคะ มีความคิดมากมายอยู่ในหัวของฉันหลังจากแยกทางครั้งนี้ มันไม่เหมือนว่าแยกทางกันจาก SM เพราะพวกเรานั้นเหมือนเป็นครอบครัวกันค่ะ"
ซอฮยอน กล่าวต่อ "ที่ฉันตัดสินใจไม่ต่อสัญญาและออกจากถ่ายเพราะฉันไม่อยากย่ำอยู่กับที่ค่ะ ฉันรู้สึกขอบคุณมากๆกับการปกป้องและความรักในฐานะน้องเล็กของวง มันเป็นอะไรที่ดีมากๆ แต่ว่าในอีกด้านนึง ฉันก็ไม่ได้เป็นเพียงเด็กวัยรุ่นแล้ว ฉันอยู่ในช่วงปลาย 20 และจะอายุ 30 ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า มันทำให้ฉันหันกลับไปมองและสะท้อนชีวิตตัวเองมากๆค่ะ" และ "ฉันถามตัวเองหลายครั้งมากๆว่าจากนี้ไปจะใช้ชีวิตยังไง ฉันคิดถึงทางเลือกที่ฉันจะเดินและใช้ชีวิต หลังจากจัดการทุกสิ่งอย่างแล้ว ฉันได้ตัดสินใจเพราะว่าฉันอยากใช้ชีวิตและมีความรับผิดชอบด้วยตัวเองค่ะ"
นอกจากนั้นซอฮยอน ได้เผยว่า "ไม่นานมานี้ฉันได้ไปรับประทานอาหารกับอ.อีซูมานด้วยค่ะ ท่านสนับสนุนฉันเป็นอย่างมาก"
อ.อีซูมานได้กล่าวกับเธอว่า "ขอบคุณมากๆนะที่ทำได้ดีจนถึงวันนี้" และซอฮยอนได้พูดถึงอ.อีซูมาน ว่า "จริงๆแล้วฉันขอบคุณอ.อีซูมานจริงๆนะคะ ท่านช่วยฉันอย่างมาก จากเด็กผู้หญิงธรรมดาๆที่ไม่มีอะไร ให้กลายมาเป็นสมาชิกวง Girls' Generation ให้กลายมาเป็นอิทธิพลดีๆต่อหลายคนแบบนี้ ฉันคิดว่าฉันคงจะต้องขอบคุณท่านไปชั่วชีวิตเลย ฉันได้บอกกับท่านนะคะว่าไม่ว่าฉันจะไปที่ไหน ฉันจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยความรับผิดค่ะ"
ซอฮยอน พูดถึงเหล่าสมาชิก Gilrs' Generation ที่ได้ตกลงถึงจุดเปลี่ยนครั้งนี้
เธอกล่าว "พวกเราพูดคุยกันเยอะมากๆค่ะ ไม่ว่าจะตอนไหนที่เราปล่อยอัลบั้ม พวกเราจะมารวมตัวและคุยกัน และมีบางครั้งที่เราจะคุยกันอย่างจริงจัง พวกเราได้พูดคุยถึงความฝันของแต่ละคนด้วยเช่นกัน" และ "พวกเราเติบโตขึ้นมาด้วยกันกว่า 10 ปี พวกเราใช้ชีวิตในแต่ละวันด้วยกัน และพวกเราก็รู้ดีถึงทางเลือกและสิ่งที่พวกเราแต่ละคนต้องการจะเดินและใช้ชีวิตค่ะ พวกเราต่างเคารพซึ่งกันและกันเสมอ พวกเราเข้าใจกันมาเสมอและพวกเราจะสนับสนุนกันตลอดจนถึงวันสุดท้ายค่ะ"
เมื่อพูดถึงการเริ่มต้นครั้งใหม่ของเธอ ซอฮยอนกล่าว "แทนที่จะไปกลัว ฉันกลับรู้สึกว่าต้องมีความรับผิดชอบที่มากขึ้นค่ะ ราวกับว่าความรับผิดชอบของสมาชิกทั้ง 8 คน มาวางอยู่บนไหล่ของฉัน แต่มันก็ทำให้ใจฉันเต้นแรงนะคะ ฉันคิดแบบนั้นและก็รู้สึกกังวลใจเช่นกันค่ะ แต่มันเป็นสิ่งที่ฉันเลือกจะทำแล้ว ฉะนั้นฉันจะไม่เสียใจหรือผิดหวังกับมัน ฉันจะคิดภาพตัวของฉันในอนาคตให้มากกว่าเก่าค่ะ"
ทั้งนี้เราได้แกล้งหยอกเธอถึงการออกจาก SM Ent. กับคำถามที่ว่า "แบบนี้ความสัมพันธ์ของคุณกับเหล่าสมาชิก Girls' Generation มีปัญหากันหรือเปล่า?" ซอฮยอนตอบพร้อมหัวเราะ "ไม่มีทางค่ะ"
ซอฮยอน กล่าว "วันนี้ที่ร้านแต่งหน้าฉันได้คุยกับฮโยยอนออนนี่ด้วยเช่นกันค่ะ การที่ได้อยู่ด้วยกันมากว่า 15 ปี พวกเรารู้และเข้าใจกันโดยไม่ต้องโทรหาเลย แต่เราก็ยังคุยและติดต่อกันอยู่นะคะ เราอยู่หอด้วยกันมาเกิน 5 ปี ทั้งเรียนรู้กัน ทะเลาะกัน และมันก็เป็นช่วงเวลาที่พวกเราเติบโตขึ้นมาก" และ "นั่นเป็นช่วงเวลาที่ยากที่สุดค่ะ ยังไงคุณก็ทะเลาะกันบ่อยมากๆต่อให้อยู่กับเพื่อนที่ดีมากๆเช่นกัน แต่กับสมาชิก 8 คนที่อยู่ด้วยกัน เราทะเลาะกันด้วยเรื่องเล็กๆน้อยๆค่ะ หากมองกลับไปเรื่องที่เราทะเลาะกันตอนนั้นกลับทำให้เราหัวเราะในตอนนี้ค่ะ แต่ตอนนั้นที่เราทะเลาะกันมันใหญ่โตมากเลย คงเป็นเพราะการใช้ชีวิตของเราไม่เหมือนกันค่ะ"
เธอกล่าวต่อ "พวกเราทะเลากันเยอะมากค่ะ แต่ฉันคิดว่าเรารู้จักกันและกันดีนะคะ หลังจากใช้ชีวิตอยู่ที่หอกว่า 5 ปี ฉันก็ย้ายกลับไปอยู่กับครอบครัวที่อยู่ใกล้ๆกัน ฉันคิดถึงวันเหล่านั้นนะคะ (การใช้ชีวิตที่หอ) ฉันได้คิดถึงความยากลำบากในตอนนั้น แต่ก็คิดถึงมันมากๆและชอบมันมากๆเลย มันคงจะดีนะคะถ้าได้พบกับพวกเธออีกครั้งหลังจากที่ไม่ได้เจอกันมาพักนึงแล้ว" และ "เราพูดถึงสิ่งเล็กๆน้อยๆในอนาคตด้วยเช่นกันค่ะ อย่างเช่นอีก 10 ปี เราแต่ละคนจะแต่งงาน แล้วลูกๆของพวกเราจะโตขึ้นมากันแบบไหน เหมือนสมาชิกในวงกันยังไงบ้างค่ะ"
ซอฮยอนให้สัมภาษณ์ถึงทิฟฟานี่ "มันเป็นเรื่องยากสำหรับฉันนะคะหากจะให้พูดถึงแผนของทิฟฟานี่ออนนี่ เพราะว่าเธอเกิดที่อเมริกา และตอนนี้เธอก็อยู่ที่นั่น ฉันคิดว่าเธอคงใช้ชีวิตและทำอะไรอยู่ที่อเมริกาค่ะ และฉันก็คิดนะคะว่าเธอจะกลับมาที่เกาหลีด้วยเช่นกัน"
ซอฮยอนให้สัมภาษณ์ถึงแฟนๆ "ฉันคิดว่าพวกเขาคงรู้สึกเศร้าและเสียใจนะคะเช่นเดียวกันที่ฉันรู้สึก แต่กับการตัดสินใจของฉันแล้ว ฉันคิดว่าการที่ฉันเลือกที่จะก้าวต่อไปข้างหน้าคือสิ่งแรกที่ฉันจะทำค่ะ จนถึงตอนนี้ Girls' Generation ก็จะคงอยู่ตลอดไปไม่มีสิ้นสุดลง ฉะนั้นฉันหวังว่าแฟนๆจะไม่เศร้ากันนะ และไม่ว่าสมาชิกในวงจะทำอะไร พวกเราก็จะสนับสนุนกันและกันค่ะ"
Source: Naver (MD Interview by mydaily)
Eng Trans: ch0sshi 1, 2, 3
แปลไทย: Translator Gang ll soshifanclub ll http://www.soshifanclub.com
[Trans] บทสัมภาษณ์ทิฟฟานี่ในนิตยสาร Ceci Korea ฉบับเดือนธันวาคม 2017
การพบเจอกับทิฟฟานี่ ณ 'La La Land' ที่ LA
La La Land นครดาราของคนช่างฝัน ทิฟฟานี่ เธอผู้ที่เป็นดวงดาวท่ามกลางหมู่ดาวที่ส่องประกาย เธอที่กำลังสร้างบทบาทใหม่ให้กับตัวเอง
สิ่งที่เราคิดขณะกำลังมองไปยังท้องฟ้าที่ครามอันกว้างไกลและแสดงแดดที่ส่องสว่าง โดยไม่มีอะไรบดบังภาพตรงหน้าของเราได้
พลังของทิฟฟานี่ที่ไม่เคยแห้งเหือด คงต้องขอบคุณสิ่งที่เกิดขึ้นภายใต้แสงแดดอันอบอุ่นที่มากมายของ LA เสียแล้ว ในทุกๆวันที่เธอตื่นและหลับตานอนในเมืองนี้ นั่นคือโอกาสที่พลังด้านบวกของเธอจะเฉิดฉายมากขึ้น ทิฟฟานี่ช่างเป็นคนที่ล้นเหลือไปด้วยความชอบความหลงไหลและทะเยอทะยาน ไม่เคยปล่อยให้รอยยิ้มที่สว่างสดใสนั้นหล่นทิ้งไป หากเธอเป็นตัวละครในภาพยนตร์ของ Walt Disney เธอได้ใช้เวลากว่า 10 ปีในฐานะคนดังคนนึงที่โอบรวมโลกใบนี้เข้าไว้ด้วยกัน และตอนนี้เธอกำลังเข้าศึกษาอยู่ที่ LA ทุกวัน ใช้ชีวิตเป็นนักศึกษาคนนึงที่ไปเรียนคลาสการแสดง 2 ประโยคนั้นเป็นอะไรที่ดูห่างไหลกันมากๆ หากแต่สำหรับทิฟฟานี่ที่ได้ทำตามฝันวันเด็กด้วยการเป็นนักร้องไปร้องและเต้นตามที่ต่างๆทั่วโลกแล้วนั้น คงไม่มีอะไรเหมาะสมสำหรับเธอไปกว่าการมาที่ LA เพื่อเริ่มชีวิตส่วนองค์ที่สองของเธอ เช่นเดียวกับ Mia ในภาพยนตร์
Ceci: เราเคยได้พบกันมาหลายครั้งแล้ว หากแต่การถ่ายวันนี้ถ่ายออกมาได้ดูเป็นธรรมชาติพิเศษเลย คุณเป็นอย่างไรบ้าง?
ทิฟฟานี่: ฉันเริ่มเข้าเรียนตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมาค่ะ ได้ไปเข้าคลาสเรียนการแสดง ฉันไม่เคยไปเข้าเรียนสายเลยนะคะ ในทุกๆวันฉันจะพกกล้วย, อัลมอนด์, และกาแฟไปด้วย *หัวเราะ* แล้วฉันกำลังตั้งใจทำเพลงอยู่เช่นกัน เหมือนกับว่าฉันได้ดูแลและควบคุมตัวของฉันเองค่ะ ก็ถือว่าสนุกดีนะคะ กลายเป็นเรื่องราวที่ฉันทำเพราะอยากทำ แทนที่จะต้องพึ่งพาใคร
Ceci: คุณเป็นพวกเด็กที่มักจะได้รับคำชมเวลาไปเรียน?
ทิฟฟานี่: ใช่เลยค่ะ! ฉันเป็นพวกคนที่ชอบนั่งหน้าห้องเวลาเรียน และพยายามจะซึมซับทุกคำพูดของอาจารย์ที่สอน พอได้มาเรียนเป็นครั้งแรกหลังห่างหายไปนาน ฉันก็ไม่รู้มาก่อนเลยค่ะว่าตัวเองเป็นนักเรียนประเภทนี้ *หัวเราะ* ฉันคิดว่าคงเป็นเพราะฉันชอบที่จะไปเรียนมากๆ ผู้กำกับคนนึงก็ได้มาเข้าคลาสเรียนเดียวกันฉันนะคะ ตอนแรกที่เขาแนะนำตัวเอง เขาบอกว่าที่มาเข้าคลาสเรียนนี้เพื่อจะได้ช่วยเหลือนักแสดงที่อยู่ในภาพยนตร์ของเขาได้จะได้เข้าใจพวกเขามากขึ้น พอได้ฟังเขาพูดแบบนี้แล้วฉันรู้สึกซาบซึ้งมากๆค่ะ ถือว่าเขาอยู่คนละตำแหน่งคนละสถานการณ์กับฉัน แต่การที่เขาใส่ใจพยายามกับการแสดงแล้วเป็นอะไรที่เท่มากๆเลยค่ะ ฉันได้เรีบแรงบันดาลใจมากมายเลยค่ะเพียงแค่เข้าเรียนในลาส
Ceci: ไม่แน่ว่าปีหน้าเราอาจจะมีข่าวว่าคุณได้รับทุนก็ได้นะ *หัวเราะ* การได้มาใช้ชีวิตอยู่ที่ LA อีกครั้งเป็นอย่างไรบ้าง?
ทิฟฟานี่: มันเป็นอะไรที่ธรรมชาติมากๆค่ะที่ฉันได้มาที่นี่ ครอบครับของฉันอยู่ที่นี่ และคงเป็นที่นี่เป็นสถานที่ที่ความชอบและทุกสิ่งทุกอย่างของฉันได้ถูกหล่อหลอมสร้างขึ้นมา ฉันมีความสุขดีค่ะเพราะได้สนุกไปกับทุกอย่างทุกอย่างที่ฉันชอบโดยไม่มีอะไรเปลี่ยน ตั้งแต่ภาพยนตร์จนถึงดนตรี รวมไปถึง Disneyland ด้วยค่ะ
Ceci: นับว่าเป็นสถานที่ที่คุณสามารถใช้ชีวิตในฐานะทิฟฟานี่ได้ โดยเฉพาะตอนนี้คุณสามารถใช้เวลาได้อย่างไม่ต้องกังวลเรื่องงาน
ทิฟฟานี่: ในช่วงวัยรุ่นของฉัน ฉันเชื่อค่ะว่าฉันทำทุกอย่างให้สำเร็จได้จากความคิดและทุกอย่างจะออกมาด้วยดีหากฉันเข้มแข็งและยิ้มออกมา ตอนนี้ฉันกำลังจะอายุ 30 ฉันได้เปลี่ยนทิศทาง โดยเป็นคนที่ซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกตัวเอง หากฉันดีใจฉันก็จะดีใจค่ะ หากเสียใจฉันจะแสดงออกมาว่าเสียใจ เทคนิคการแสดงที่ฉันได้เรียนตอนนี้นั้นคือการจริงใจต่อความรู้สึกและใส่มันออกมา คนที่รับชมการแสดงจะเข้าถึงและฉันได้ใช้ชีวิตอย่างตรงไปตรงมาคลอด ฉันเตรียมตัวเพื่อการแสดงมาเป็นเวลานานและตอนนี้ฉันกำลังเข้าเรียนการแสดง ฉันยิ่งกระหายมันมากขึ้นค่ะ หากเปรียบดนตรีเป็นศาสนาแล้ว ฉันสามารถถ่ายทอดการแสดงออกมาเช่นความรักค่ะ
Ceci: ดนตรีคือภาษาของทิฟฟานี่
ทิฟฟานี่: ถูกต้องแล้วค่ะ ฉันเลยได้รับพลังขณะเรียนการแสดง ฉันได้หวังว่าใครสักคนจะได้รับพลังกำลังใจจากบทบาทที่ฉันได้แสดงนะ ในช่วงเวลาที่ยากลำบากฉันจะมองไปยังศิลปินสักคนแล้วเริ่มวาดฝันค่ะ และฝันของฉันก็เป็นจริงจากการเป็น Girls' Generation เพลง 'Into the New World' คือว่าเป็นเพลงที่ฉันได้ถ่ายทอดส่งต่อมันออกมาในเวลานั้น การที่ได้ทำมันในวัยนั้นไปพร้อมกับสมาชิกในวงช่างเป็นอะไรที่น่าจดจำและมีความสุขที่สุดเลยค่ะ เหนือสิ่งอื่นใด ฉันสามารถมาที่ LA นี้ได้อย่างสบายใจก็เพราะสาวๆในวงได้ให้กำลังใจและสนับสนุนฉันอย่างมากเลย
Ceci: การเป็นนักแสดงที่มีความฝันจะไปแสดงที่ Hollywood ในฐานะนักแสดง และการไปยืนอยู่บนเวทีที่ Broadway ที่นิวยอร์กนั้นไม่ใช่ง่ายๆเลยนะ ถือว่าเป็นการท้าทายที่ใหญ่มากๆ
ทิฟฟานี่: ยิ่งฉันได้ทำงาน ฉันก็ยิ่งอยากจะเป็นศิลปินนักแสดงที่แท้จริงมากกว่าการจะเป็นนักแสดงระดับโลกนะคะ มันเป็นเรื่องยากนะคะที่จะมองว่าฉันเป็นนักแสดงในเมื่อฉันเป็นเพียงหญิงสาวที่เพิ่งจะเดบิวต์ แต่กับตัวเองแล้ว การได้ให้สัมภาษณ์ครั้งนี้ ฉันมองว่าฉันอยู่ที่นี่และรู้สึกว่าตัวเองเป็นนักแสดงคนนึงนะ อาจจะเป็นอิทธิพลของฉันก็ได้ค่ะ ใครสักคนสามารถรับพลังหรือรู้สึกดี ได้รับกำลังใจในการใช้ชีวิตจากฉัน ฉะนั้นแล้วอาชีพนี้ถือว่าเป็นอะไรที่มีค่ากับฉันมากๆค่ะ ใครๆก็พูดกันนะคะว่าการที่คนเอเชียจะก้าวเข้ามาสู่วงการบันเทิงของอเมริกันนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่จนถึงตอนนี้มันไม่มีอะไรง่ายนะ การโปรโมทในฐานะ Girls' Generation ก็ไม่ง่ายค่ะ ฉันเชื่อคำพูดที่ว่า 'หากเราเชื่อว่าเราทำได้ เราก็ทำได้ค่ะ' กับสาวๆในวงแล้ว เราทำทุกอย่างที่ฝันสำเร็จได้ด้วยกัน และตอนนี้ฉันอยู่ในช่วงที่กำลังจะสร้างทิฟฟานี่ที่ต่างออกไป แทนที่จะมัวแต่กังวลและเปลืองเวลาของฉันแล้ว ฉันว่าเอาเวลาไปซ้อมการแสดงดีกว่าค่ะ
Ceci: หากให้มองย้อนกลับไปตอนเด็กๆที่คุณวาดฝันไว้ว่าจะได้แสดงที่ Hollywood หัวใจของคุณคงเต้นแรงมากแน่ๆ
ทิฟฟานี่: พอมองย้อนกลับไปแล้ว ตอนที่พวกเราซ้อมเพื่อทัวร์คอนเสิร์ต ฉันจะเป็นพวกที่ซ้อมและซ้อมติดต่อกันโดยไม่เว้นเลยค่ะ ตอนที่ฉันเรียนบัลเลต์หรือดนตรีต่างๆ ฉันเรียนจากพื้นฐานอย่างละเอียดค่ะ หากคุณเริ่มมันด้วยการปูพื้นฐานแล้วคุณจะมีความมั่นใจเพิ่มขึ้นนะ ใจฉันเต้นแรงมากๆค่ะ เพราะได้เรียนการแสดงแบบนั้นเช่นกัน แน่นอนว่ามันยากและมีหลายต่อหลายครั้งที่ฉันความคิดที่จะยอมแพ้โผล่ขึ้นบ่อยๆ แต่ฉันก็ชอบมันนะคะ และอาจารย์ของฉันคนปัจจุบันเป็นคนที่มีความหลงไหลและทะเยอทะยานมากๆค่ะ เขาบอกว่าหากเธอคิดว่า 'Practice Makes Perfect' (ฝึกฝนบ่อยๆทำให้เก่ง) จากนี้ไป มันคือ 'Perfect Practice Makes Perfect' (การฝึกฝนที่สมบูรณ์ทำให้เก่ง) ในตอนนั้นฉันคิดเลยค่ะว่าอาจารย์คนนี้นี่แนวของฉันเลย *หัวเราะ*
Ceci: ในขณะที่คุณเตรียมตัวเพื่ออนาคต ดูเหมือนว่าคนที่คุณจะต้องทำให้ดีกว่าคือตัวคุณเองในอดีต คุณคงคาดถึงผลลัพธ์ที่ดีมากกว่าเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมาแน่เลย
ทิฟฟานี่: ไม่นานมานี้ฉันได้อ่านหนังสือเล่มนึงค่ะ ในนั้นมีประโยคที่ว่า 'จงทำทุกครั้งของคุณให้ดีที่สุด' หากฉันพยายามและทำสุดความสามารถในทุกช่วงเวลาแล้ว ฉันคิดว่าคงไม่ต้องไปเปรียบกับอะไรอีกค่ะ ถ้าฉันรู้สึกพอใจ ในตอนที่ซ้อม อาจารย์ของฉันจะพูดเสมอ "เหมือนครั้งแรก ครั้งก่อน ในทุกครั้ง" และเพื่อที่จะแสดงแบบนี้แล้ว หากฉันขึ้นไปยืนอยู่บนเวทีด้วยความรู้สึกแบบนี้ในใจทุกครั้งแล้วนั้น ความคิดที่ว่านี่คือสิ่งที่เปลืองเวลาชีวิตก็จะไม่มีอยู่ในหัวเลยค่ะ ฉะนั้นแล้วฉันคิดว่าหากฉันแค่รักที่จะทำมัน มันก็ไม่เป็นไร หากฉันรักบางสิ่ง ฉันสามารถทำได้ทุกสิ่งค่ะ
Ceci: คุณจะรู้ไหมว่าเสียงของคุณที่พูดออกมานั้นมันเต็มไปด้วยความตื่นเต้นมากกว่าก่อนอีก *หัวเราะ* คุณสุดยอดมากๆ
ทิฟฟานี่: ขอบคุณค่ะ ฉันตั้งใจและขยันมากๆเลยนะ *หัวเราะ* จริงๆแล้วฉันอยากจะแผ่อิทธิพลด้านดีๆให้กับคนช่างฝันในอนาคตที่จะทำงานด้านเดียวกันค่ะ ฉันหวังว่าพวกเขาจะได้เติบโตไปในทางที่พวกเขาต้องการ และไม่ได้เป็นเพียงนักร้องไอดอลที่ส่องแสงเพราะสวยหรืออายุยังน้อยค่ะ
Ceci: ได้ยินมาว่าคุณดู 'La La Land' หลายรอบมากๆ อะไรที่ตราตรึงใจคุณมากที่สุด?
ทิฟฟานี่: ฉันซื้อแผ่นเรื่องนี้มาเก็บในคอลเล็คชั่นของฉัน และเปิดดูทุกวันเลยค่ะมันเหมือนจริงมากๆ ข้อความที่สื่อต่อความรักในงานของคุณ ทั้งการแสดงและดนตรีด้วย และก็จะมีใครคนนึงที่เรารักมากๆ แต่ถ้าคนนั้นไม่ได้ทำให้คุณเติบโตขึ้น คุณก็ต้องยอมรับสถานการณ์นั้นๆและเติบโตขึ้นมาด้วยตัวเอง ความหมายและข้อความเหล่านี้กินใจฉันอย่างมากค่ะ
Ceci: ลองนึกว่า 'La La Land' จะถูกสร้างขึ้นมาแล้วให้ทิฟฟานี่เป็นนางเอก ถ้างั้นตอนนี้นางเอกเราอยู่ในช่วงไหนของเรื่อง?
ทิฟฟานี่: คงเป็นช่วงที่ Mia กำลังเตรียมการแสดงคนเดียวมั้งคะ? ฉันเพียงซ้อมและลองนึกภาพแต่ฉันยังไม่ได้ทำอะไรสักอย่างเลย เพราะตอนนี้ฉันเพียงอยู่บนเวทีขยับมือและรางกายไปมาซ้อมด้วยตัวเอง ฉะนั้นในอนาคตฉันอาจจะล้มเหลวก็ได้ และฉันก็รู้สึกว่ามันเป็นธรรมชาติมากๆเลย
Ceci: การได้มาถ่ายแบบด้วยฟิลของคริสต์มาสกับเมืองที่อบอุ่นแบบนี้มันสดชื่นมากๆเลย เทศกาลคริสต์มาสที่ LA เป็นแบบไหน?
ทิฟฟานี่: ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ฉันจะฉลองเทศกาลคริสต์มาสไปกับครอบครัวค่ะ หากคุณขับรถออกจาก LA ไปประมาณชั่วโมงนึง มันจะมีภูเขาหิมะที่เรียกว่า Big Bear อยู่ บางทีเราก็ไปชมที่นั่นค่ะ ครอบครัวของฉันจะมารวมตัวกันที่บ้าน ดื่มช็อกโกแลตอุ่นๆ แล้วก็ดูหนังและใช้เวลาไปด้วยกันทั้งวัน - ไม่คิดว่ามันสนุกหรอคะ?
Ceci: ความทรงจำเทศกาลคริสตืมาสครั้งไหนที่คุณยังคงจดจำมันอยู่?
ทิฟฟานี่: ตอนเด็กๆทุกๆปีช่วงคริสต์มาส ฉันจะวางคุ้กกี้และนมเอาไว้หน้าเตาผิงและรอซานต้าค่ะ ฉันทำแบบนั้นจนกระทั่งเกือบๆ 10 ขวบเลยมั้ง อยู่มาวันนึงฉันไปเจอกระดาษห่อของขวัญที่ซานต้าให้ในตู้เสื้อผ้าคุณพ่อค่ะ ตอนนั้นตกใจมากๆเลยไปถามคุณพ่อคุณแม่ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ไม่มีใครพูดออกมาเลย *หัวเราะ*
Ceci: แล้วปีนี้คุณจะใช้เวลาอย่างไรไปกับวันคริสต์มาส
ทิฟฟานี่: ฉันยังไม่ได้วางแผนอะไรเลยค่ะ ฉันคิดอยู่ว่าคงอยู่บ้าน แต่ฉันก็คิดนะคะว่าคงมีความสุขดีถ้าทำแบบนั้น ฉันจะกินของอร่อยๆ, ดูหนังที่เกี่ยวกับคริสต์มาสทั้งวัน, และฟังเพลง carols (เพลงคริสต์มาส) ค่ะ
Ceci: หากซานต้าจะมอบของขวัญให้คุณ คุณอยากได้อะไร?
ทิฟฟานี่: อ่า ฉันคิดอย่างจริงจังเลยค่ะว่าหากฉันได้รับมันจริงๆ *หัวเราะ* ฉันอยากได้เครื่องเล่น LP ค่ะ ฉันมีอยู่ตัวนึงอยู่บ้านที่โซล แต่ที่ LA ยังไม่มีเลย เวลาอยู่บ้าน ฉันชอบเปิดฟังเพลงด้วย LP บ่อยๆค่ะ
Ceci: มันคงเร็วไปหน่อยนะ แต่เพราะนี่เป็นฉบับเดือนธันวาคม มีคำอวยพรบอกลาปี 2017 ไหม?
ทิฟฟานี่: ปีนึงผ่านไปเร็วมากนะคะ ฉันมีความทรงจำกับ Ceci มากมายเลย ฉันได้ถ่ายแบบขึ้นปกแบบคนเดียวครั้งแรกก็กับคุณนะ และการที่ได้ถ่ายแบบขึ้นปกกับสาวๆในวงก็สนุกเช่นกัน การได้ถ่ายแบบในช่วงอายุปลายๆ 20 ถือว่าเป็นเกียรติมากๆค่ะ ฉันหวังว่าทุกคนจะได้ใช้เวลาในปีหน้าอย่างมีความหมายและแข็งแรงมากขึ้นๆนะคะ สวัสดีปีใหม่ค่ะ สุขสันต์วันหยุดและวันคริสต์มาสด้วยนะคะทุกคน!
Source: Ceci Korea
Eng Trans: @SonexStella, @ch0sshi
แปลไทย: Translator Gang ll soshifanclub ll http://www.soshifanclub.com