[Trans] บทสัมภาษณ์ยูริในนิตยสาร COSMOPOLITAN ฉบับเดือนพฤศจิกายน 2013

**เพิ่มเติมจากครั้งที่แล้ว อันที่แปลใหม่จะกาดอกจันท์ * ไว้และใช้ฟอนต์เป็นสีน้ำเงิน


"จองอึน" ผู้ได้รับความรักจากทั้งลีจงซอกและซออินกุกในภาพยนตร์เรื่อง "No Breathing" นั้นไม่ใช่ตัวละครแบบพบรักแรกที่ผู้หญิงมักหมั่นไส้ จองอึนทั้งตีหัวผู้ชายเล่นบ่อย ๆ และสวาปามตีนไก่ต่อหน้าผู้ชายที่ชอบเธอ จองอึนไม่ปั่นหัวใจผู้ชายเล่น และสามารถขอโทษพวกเขาได้โดยไม่ร้องไห้อีกด้วย หลังจากที่ได้พบกับยูริที่ไม่มีความขี้อาย ก็คิดว่าคงไม่มีใครเหมาะสมมาเล่นบทจองอึนเท่ายูริอีกแล้วล่ะ



COSMOPOLITAN: ถ่ายแบบวันนี้เป็นอย่างไรบ้าง? เห็นคุณเล่นอยู่หน้ากล้องเหมือนกับกำลังคิดว่า "ถ้าแน่จริงก็ถ่ายรูปฉันให้ได้สิคะ" ซึ่งจริง ๆ แล้วก็เป็นสิ่งที่ดีสำหรับช่างภาพมาก เพราะว่ามีเหล่าคนดังหญิงจำนวนไม่น้อยที่ชอบโพสท่าหรือแสดงสีหน้าให้ตัวเองออกมาดูสวยที่สุดโดยไม่สนใจคอนเซปต์ของการถ่ายแบบเลย
ยูริ: เมื่อก่อนฉันก็เป็นแบบนั้นนะคะ หลังจากเดบิวต์ไม่นาน ฉันก็เอาแต่โพสท่าที่คิดว่าดูสวยที่สุด หลังจากที่ทำแบบนั้นแล้วได้ลองอะไรใหม่ ๆ ดู ฉันก็ได้รู้ค่ะว่าฉันจะดูน่ารักขึ้นกว่าเดิมถ้าปล่อยไปตามธรรมชาติ ฉันคิดว่าเวลาถ่ายแบบเนี่ย รูปที่สวย ๆ จะออกมาได้เมื่อถ่ายตามคอนเซปต์ค่ะ และแน่นอนว่าหน้าของคุณก็จะดูสวยที่สุดด้วย

COSMOPOLITAN: แต่คุณก็สวยอยู่แล้ว...
ยูริ: โอ๊ยไม่หรอกค่ะ จริง ๆ นะ! ฮ่า ๆ



*COSMOPOLITAN: สไตล์การแต่งตัววันนี้ของคุณ (ยูริใส่เสื้อยืดมิดชิด ยีนส์รัดรูป และรองเท้าผ้าใบสีดำ กับสร้อยค้อแบบมีป้ายชื่อ) ก็สวยเหมือนกันนี่นา? ปกติแล้วคุณก็แต่งตัวแบบนี้หรือเปล่า?
ยูริ: อย่างแรกเลยคือฉันชอบอะไรที่สบาย ๆ ค่ะ การแต่งตัวแบบผู้หญิงจ๋ามันไม่เข้ากับฉันเลย อย่างเพื่อนในวงก็จะมีคนที่แต่งตัวแบบผู้หญิงได้ดูดีมาก แต่บุคลิกของฉันเนี่ย มันไม่เหมาะกับการใช้เครื่องประดับหรือสวมใส่อะไรที่มันดูน่ารักมุ้งมิ้งหรอกค่ะ ฉันชอบแบบที่สบาย ๆ ที่สุด สีดำคือดีที่สุดค่ะ

*COSMOPOLITAN: จุดเด่นของยูริคือผมสีดำยาว เลยตกใจตอนที่ได้ยินว่าคุณย้อมผมเป็นสองสีก่อนจะถ่ายแบบ สงสัยมากว่าอะไรที่ทำให้คุณยอมเปลี่ยนสีผมได้
ยูริ: ช่วงนี้อะไร ๆ มันดูน่าเบื่อไปหมดค่ะ ทั้งสีผม แล้วก็ชีวิตของฉันด้วย เลยคิดว่าถ้าลองเปลี่ยนสีผมก่อนถ่ายแบบคงสนุกดี และฉันก็ไม่รู้ด้วยว่ามันบังเอิญเข้ากับคอนเซปต์พอดีด้วยค่ะ

*COSMOPOLITAN: แม้ว่าสมาชิกคนอื่นจะตัดผมสั้น ย้อมเป็นสีบลอนด์ และดัดผมแบบแปลกตา แต่ยูริเองไม่ค่อยเปลี่ยนไปเลย ถ้าจะให้คุณลองเปลี่ยนสไตล์ดูบ้าง คุณอยากจะทำเป็นแบบไหน?
ยูริ: ถ้ามีโอกาส อยากจะลองไว้หน้าม้าและตัดทรงผมบ๊อบดูบ้างค่ะ แต่ไม่ใช่ตอนนี้นะคะ เอาไว้ก่อน ฉันอยากจะค่อย ๆ ทำค่ะ จนถึงตอนนี้ เวลาที่โปรโมท ฉันจะไม่ค่อยได้เปลี่ยนโฉมอะไรเท่าไหร่ถ้าเทียบกับสมาชิกคนอื่นค่ะ ฉันเลยคิดว่าถ้าฉันเปลี่ยนสไตล์เมื่อไหร่ คนจะให้ความสนใจกันมากขึ้นค่ะ ฉันกำลังอดทนรอช่วงเวลานั้นอยู่

*COSMOPOLITAN: เวลาที่คุณได้เห็นเกิร์ลกรุ๊ปหน้าใหม่ที่พยายามเปลี่ยนสไตล์ในทุกอัลบั้ม มันจะมีอยู่บ้างที่ดูไม่จืดเลย ถ้าหากเป็นคุณบ้างล่ะ คุณอยากจะลบรูปเก่า ๆ ที่อยู่บนหน้าเว็บทิ้งไปบ้างไหม
ยูริ: แหม มีตั้งหลายครั้งไปค่ะที่ฉันดูไม่จืดเลย โดยเฉพาะแฟชั่นที่สนามบินน่ะ! ฮ่า ๆ ปกติแล้วฉันชอบสไตล์สบาย ๆ และยิ่งตอนขึ้นเครื่องก็จะใส่ชุดที่สบายขึ้นไปอีกค่ะ เพราะเดี๋ยวนี้คนให้ความสนใจกับแฟชั่นที่สนามบินกันมาก ฉันคงมองข้ามไม่ได้แล้วล่ะค่ะ


COSMOPOLITAN: โดยส่วนตัวแล้วเราคิดว่าในบรรดาสมาชิกเก้าคนของโซนยอชิแด ยูริเข้ากับ Cosmopolitan มากที่สุดแล้ว คุณทั้งแข็งแรง สดใส และเซ็กซี่
ยูริ: ฉันดีใจมากค่ะถ้าคุณคิดแบบนั้น Cosmo ได้แสดงให้เห็นไลฟ์สไตล์ของผู้หญิงเก่ง ๆ หลายคน และก็ยังเป็นนิตยสารที่ฉันชอบมาก ๆ ด้วย ถือเป็นเรื่องราวดี ๆ ว่าไหมคะ?

COSMOPOLITAN: ในตอนไหนที่คุณรู้สึกว่าตัวเองเซ็กซี่? แบบตอนไหนที่คุณรู้สึกว่าดีสุด ๆ
ยูริ: ตอนหลังอาบน้ำเสร็จมั้งคะ? แบบตอนที่หน้าไม่ได้แต่งอะไรเลย ฉันคิดว่าผู้หญิงที่สามารถดึงเอาความเรียบง่ายออกมาได้คือคนที่ดูสวยค่ะ ไม่ใช่คนที่ดูดีเพราะแต่งหน้าหนาเตอะ แต่เป็นคนที่มีผิวพรรณดี และดูสวยได้แม้เพียงแค่มีเส้นผมตรงยาวที่แข็งแรง แล้วก็คนที่หุ่นดี ไม่ว่าจะใส่อะไรก็สวยค่ะ อ้อ การที่เราดูแข็งแรงนี่ก็ดูสวยมากที่สุดเลยนะคะ..



*COSMOPOLITAN: เมื่อคืนได้ดูภาพยนตร์สารคดีของ SM Town เรื่อง "I, AM" นอกจากตอนที่คุณได้ขึ้นแสดงที่เมดิสัน สแควร์ การ์เด้นแล้ว ฉากที่แต่ละวงเดินส่งเสียงลงจากเวที่หลังจากการเดบิวต์ครั้งแรกทำเอาน้ำตาซึมเลย เพราะทำให้รู้สึกว่าอารมณ์พวกคุณในตอนนั้นคงจะเจออะไรเยอะมาก คุณยังจำตอนนั้นได้ชัดอยู่ไหม?
ยูริ: แน่นอนค่ะ ตอนนั้นเป็นรายการของช่อง SBS มันยากจริง ๆ ค่ะที่จะอธิบายความรู้สึกหลังลงจากเวที ที่ฉันรอคอยมานานถึงเจ็ดปี เพื่อน ๆ ในวงพูดให้กำลังใจกัน แต่ตอนนั้นเป็นอะไรที่ตื้นตันมากค่ะ เพราะพวกเราทั้งเก้าคนต่างก็นับนิ้วรอววันที่พวกเราจะได้เดบิวต์ค่ะ

*COSMOPOLITAN: คุณผ่านการออดิชั่นของ SM ที่มีการแข่งขันกันสูงมาก คุณเคยได้ยินไหมว่าทำไมคุณถึงผ่านได้?
ยูริ: ฉันเคยถามคนที่เลือกฉันเข้ามาค่ะว่า "คิดยังไงถึงได้เลือกฉันคะ? " ตอนนั้นฉันเองยังคิดว่าตัวขี้เหร่ ร้องเพลงไม่เป็น เต้นก็ไม่ได้ แถมพูดไม่เก่งอีก ตอนี้องเพลงหน้ากล้องฉันยังร้องไห้เลยค่ะ แต่พวกเขาบอกว่าชอบฉันเพราะฉันจะทำตามทุกอย่างที่พวกเขาบอกได้โดยไม่เขินอายเลย ตอนนั้นฉันเพิ่งอยู่ป.5 เองค่ะ

*COSMOPOLITAN: ได้ดูคลิปที่คุณใส่ชุดวอร์มสีแดง เต้นเพลง "Sara" ของโบอา อันนั้นคือตอนไหน?
ยูริ: หลังจากที่ออดิชั่น แล้วฝึกเป็นศิลปินได้ปีนึงค่ะ ตอนนั้นฉันไม่กลัวอะไรทั้งนั้น และทำทุกอย่างไปด้วยความชอบโดยไม่เขินสักนิดค่ะ

*COSMOPOLITAN: ตั้งแต่ช่วงที่เป็นศิลปินฝึกหัดจนถึงตอนนี้ มันผ่านไปสัก 12 หรือ 13 ปีแล้วใช่ไหม?
ยูริ: ผ่านไปกว่า 14 ปีแล้วค่ะ


COSMOPOLITAN: เคยมีตอนไหนบ้างไหมที่อะไรก็ไม่ได้ดั่งใจคุณเลย?
ยูริ: ตอนฉันยังเป็นเด็กฝึก มีวันหนึ่งที่หิมะตกหนักมากค่ะ เพราะถนนลื่นเลยมีคนบอกว่าไม่ควรออกไปข้างนอกนะ ฉันก็ไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงอยากจะไปให้ได้ค่ะ พอเลิกเรียนปุ๊บ ฉันก็ออกไปเพื่อซ้อม เนินมันลื่นมากจนฉันล้มไปหลายครั้ง เดินทางไปลำบากมากค่ะ แต่การซ้อมก็ถูกยกเลิกไปซะอย่างนั้น คือจะมีบางครั้งที่เขางดฝึกกันบ่อย ๆ ค่ะ แต่ฉันใช้เวลาตั้งสองชั่วโมงเพื่อไปให้ถึง แล้วพวกเขากลับบอกว่าวันนี้งดซ้อมได้อย่างไรกัน ฉันรู้สึกหงุดหงิดมาก คืออย่างน้อยคุณก็น่าจะติดต่อมาบอกกันก่อนสักนิดก็ยังดี

COSMOPOLITAN: เวลาแบบนั้นทำให้แทบจะทรุดลงไปร้องไห้กับพื้นเลยสินะ?
ยูริ: ฉันร้องค่ะ ขึ้นรถไฟไต้ดินแล้วร้องเลย แถมตอนนั้นยังไม่มีที่นั่งอีก คือปกติแล้วพอหลังซ้อมเสร็จ ฉันก็จะนั่งบนพื้นรถไฟตอนกลับบ้านทุกครั้งค่ะ แต่วันนั้นคือนั่งพื้นแบบหมดอาลัยตายอยากจริง ๆ แถมฉันยังเป็นเนื้องอกที่เส้นเสียงอีก และอีกไม่กี่วันเขาก็จะประเมินผลเด็กฝึกกันแล้ว..ช่วงนั้นคือฉันเจอหนักมากเพราะหงุดหงิดกับทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับฉันค่ะ



*COSMOPOLITAN: แม้ว่าคุณจะเป็นคนที่ดูสบาย ๆ แต่เราก็คิดว่าคุณยึดติดความสมบูรณ์แบบ ได้ยินมาว่าคุณถึงกับร้องไห้เพราะเสียงไม่ดีตอนเรียนการแสดง
ยูริ: ครั้งแรกที่ได้เข้ามหาวิทยาลัย สิ่งแรกที่ทำคือลบภาพลักษณ์ความเป็นยูริแห่งโซนยอชิแดออกไปค่ะ ระหว่างที่เข้าเรียน จะมีหลายครั้งที่ฉันต้องทำอะไรแปลก ๆ กว่าคนอื่นค่ะ อย่างเช่นแบบฝึกหัดที่ให้จับคู่สองคน แล้วให้แสดงเป็นกระจกเลียนแบบกันค่ะ เพื่อนผู้ชายที่เป็นคู่ของฉันเขาเหมือนจะไม่สบายเพราะทำหน้าบึ้งตลอดเวลา แล้วฉันก็ต้องทำตามค่ะ แต่ฉันก็อายมากเพราะตอนนั้นยังไม่สนิทกับใครเลย ก็ต้องทำค่ะเพราะไม่มีทางเลือก คุณเข้าใจใช่ไหมคะ? หลังจากได้ฝึกทำอะไรแบบนั้นไป ก็ทำให้อยู่ ๆ คิดอะไรขึ้นมาได้ค่ะ นั่นคือความสำคัญของการทลายกำแพงที่ฉันสร้างขึ้นมา ฉันคิดว่าได้เรียนรู้อะไรเยอะแยะเลยค่ะจากการได้อยู่กับเพื่อน ๆ ที่ไม่ใช่คนดัง ในเรื่องของการแสดงนั้น การได้สร้างความรู้สึกจากการเข้าสังคมกับผู้อื่นมีความสำคัญมากกว่าในชั้นเรียนอีกค่ะ เวลาที่ได้โปรโมทและแก่ตัวขึ้นทุกปี มีหลายครั้งค่ะที่รู้สึกอารมณ์มันด้านชาไป เลยพยายามจดจำสิ่งเล็ก ๆ ที่ฉันได้ทำค่ะ อย่างเช่นอารมณ์สีหน้าในช่วงเวลานั้น ๆ

*COSMOPOLITAN: ฝีมือคุณก็ยิ่งพัฒนาขึ้นตามการฝึกฝน
ยูริ: ฉันเลยพยายามไม่ทำหนักหรือคิดมากเกินไปเวลาที่แสดงค่ะ ฉันได้ยินบ่อย ๆ ค่ะว่าการสร้างความรู้สึกได้ไวคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในการแสดง ทำให้ฉันคิดว่าตัวเองไม่ควรลืมความรู้สึกใสซื่อแบบที่มีเฉพาะในเด็กค่ะ

*COSMOPOLITAN:คิดว่าเวลาที่โซนยอชิแดดูน่ารักคือตอนที่ได้เห็นคุณแสดงความ "รั่ว" ออกมาในรายการวาไรตี้ แต่เมื่อคุณเริ่มแสดง เหมือนกับว่าคุณจะลำบากใจเวลาพิธีกรรายการขอให้คุณทำ
ยูริ: มีบางครั้งที่ฉันจะสับสนอยู่แป๊บหนึ่ง แล้วจากนั้นฉันถึงจะแสดงหลาย ๆ ด้านของฉันออกมาค่ะถ้าฉันอยากทำ เลยรู้สึกว่าตัวเองไม่ควรมีภาพลักษณ์ตายตัว แล้วก็คงจะรักษาความเป็นนักแสดงได้ยากถ้าฉันยังเอาแต่โชว์เกรียนค่ะ ฉันเลยพยายามกันตัวเองออกมาเพราะกลัวเรื่องนั้น แต่ปกติก็จะกลับไปเป็นยูลคนเดิมนั่นแหละค่ะ ถ้าขอให้ฉันทำอีก ฉันว่าต้องทำได้ดีกว่าเดิมแน่นอนค่ะ ฮ่า ๆ

*COSMOPOLITAN: อย่างการอวดเสน่์ห์เหลือล้นบนเวที และทำให้ตัวเองเขินอายได้อย่างดูดีในรายการวาไรตี้เนี่ย คงมีดาราผู้หญิงแค่ไม่กี่คนหรอกนะที่สามารถสร้างเสน่ห์ออกมาในสถานการณ์ที่ต่างกันได้
ยูริ: ฉันอยากจะเป็นคนที่ทำแบบนั้นได้ค่ะ ฉันเลยชอบดูพี่ฮโยริมาก พี่เขาจะดูมั่นใจตลอดเวลา และที่พี่เขาเป็นมังสวิรัติกับการใช้ชีวิตทำงานอาสาสมัครนั้นเป็นสิ่งที่พี่เขาเลือกที่จะทำเองค่ะ พอได้ดูพี่เขาพํมนาการใช้ชีวิตแบบนั้นแล้ว ฉันคิดว่าพี่เขาเป็นคนที่เท่มากเลย พี่เขาจะเอาวิธีนั้นมาใช้เวลาทำเพลงด้วยตัวเอง โดยการแสดงภาพลักษณ์ที่แปลกใหม่และพํฒนาขึ้นทุกครั้งค่ะ ฉันอิจฉาค่ะที่พี่เขาสามารถมีอิสระในชีวิตได้แม้ในขณะที่ทำงานเป็นศิลปินและแต่งงานไปด้วยค่ะ

*COSMOPOLITAN: ในบรรดาแฟนคลับของคุณ เหมือนจะมีโอปป้าหลายคนที่ 'รู้จริง' เกี่ยวกับคุณอย่างยุนองชินหรือซองซีคยอง คุณคิดว่าทำไมเป็นแบบนั้น?
ยูริ: ไม่รู้เหมือนกันค่ะ แต่ว่าฉันเป็นคนขี้อายมากกว่าที่เห็น พอฉันถามว่าคนอื่นรู้สึกยังไงเมื่อเห็นฉันครั้งแรก ส่วนใหญ่จะตอบว่าก็ไม่ได้น่าประทับใจมากขนาดนั้น เพื่อนหลายคนก็บอกค่ะว่าฉันดูเย็นชา เข้าถึงยาก แต่เพื่อน ๆ ก็พูดว่าพอมาดูอีกด้านหนึ่ง ฉันเป็นคนซุ่มซ่ามค่ะ

*COSMOPOLITAN: สิ่งที่คาดไม่ถึงคือตอนที่คุณเอ่ยชื่อมาริยง โกติลยาร์ดจากเรื่อง "La Vie en Rose" เป็นนักแสดงที่คุณประทับใจในการสัมภาษณ์ครั้งก่อน
ยูริ: อย่างแรกเลยคือฉันขี้กังวลมาก ๆ ค่ะ ก่อนที่จะเลือกอะไรสักอย่าง ฉันจะคิดแล้วคิดอีกแล้วพิจารณาจากหลายมุมค่ะ เพราะเป็นคนคิดมากแบบนี้ เลยมีหลายครั้งที่ฉันกลายเป็นคนอ่อนไหวไป ช่วงนี้ฉันไม่ชอบที่ ๆ มีคนอยู่เยอะ แต่ชอบที่เงียบ ๆ มากกว่าค่ะ ถึงฉันจะดูเหมือนคนที่มีเพื่อนเยอะ แต่จริง ๆ แล้วเพื่อนที่ฉันสามารถอยู่ใกล้ชิดอย่างสนิทได้เป็นเวลานานนั้นมีน้อยมากค่ะ ฉันก็ยังทำงานกับทีมงานที่ฉันรู้จักมานานอยู่เรื่อย ๆ ด้วยค่ะ เวลาที่พักผ่อน ฉันชอบอยู่เงียบ ๆ คนเดียวมากกว่าไปพบเจอคนค่ะ

*COSMOPOLITAN: มีตอนไหนบ้างไหมเวลาคุณได้รับบทภาพยนตร์หรือละครแล้วคุณรู้สึกแปลกใจว่า "พวกเขาอยากเห็นภาพลักษณ์แบบนี้ของฉันด้วยเหรอเนี่ย? "
ยูริ: ไม่มีอะไรแบบนั้นหรอกค่ะ ฉันอยากเป็นคนที่มีสีสันหลากหลาย ตอนที่ได้รับบท "อันนา" ใน "Fashion King" ฉันเครียดเหมือนกันค่ะว่าจะรับบทนี้ไหวไหม ภาพลักษณ์ของฉันที่มีตลอดมาคือความสดใสร่าเริง เลยไม่แน่ใจว่าคนจะรู้สึกยังไงกับการที่ฉันเป็น "อันนา" ผู้เคร่งเครียด หยิ่งยโส และทะเยอทะยานค่ะ แต่ปรากฏว่าผู้กำกับเลือกฉันมาโดยที่แทบไม่รู้จักฉันเลยค่ะ ได้ยินว่าเขาเห็นรูปฉันเข้า แล้วบอกว่านี่แหละ "อันนา" ที่เขาคิดไว้ เขาบอกว่ามันน่าจะมีเรื่องราวที่ซ่อนอยู่ภายใต้สีหน้าอันเย็นชานั้นค่ะ...

*COSMOPOLITAN: งั้นแปลว่าที่คุณได้รับเลือกมาเล่นเพราะผู้กำกับไม่รู้จักคุณดีสินะ? ฮ่า ๆ
ยูริ: ฉันออกจะโล่งใจค่ะที่ผู้กำกับไม่รู้อะไรเกี่ยวกับฉันมากนัก เพราะแบบนั้นฉันเลยได้มีโอกาสแสดงภาพลักษณ์ที่ต่างไปจากสิ่งที่คนคิดชนิดคนละขั้วเลยค่ะ แล้วก็ไม่มีสักฉากเดียวเลยค่ะที่เล่นคล้ายกับตัวฉัน ฉันเลยดีใจมากค่ะ

*COSMOPOLITAN: ตอนที่คุณปรากฏตัวในเรื่อง "Fashion King" เป็นคนที่มีอารมณ์รุนแรงแข็งกร้าวมาก มีด้านที่ซับซ้อนในตัวละครของคุณ และยากสำหรับคนที่มาแสดงบทนี้ด้วย แต่กับตัวละครของ "จองอึน" ในภาพยนตร์เรื่อง "No Breathing" ที่กำลังจะเข้าฉายนั้นแตกต่างไปจากบทของ "อันนา" อย่างสินเชิง เป็นคนที่ร่าเริงและมีอิสระ แค่ตอนที่ไปกองถ่ายอารมณ์ก็คงจะแตกต่างกันมากเลยสินะ
ยูริ: ต่างกันแบบสุดขั้วเลยค่ะ เวลาที่ไปกองถ่าย (ของ "No Breathing") ไม่ว่าสภาพร่างกายหรือสถานการณ์รอบตัวจะเป็นยังไง ฉันก็อารมณ์ดีมาก ๆ แล้วค่ะ ด้วยเพราะความสดใส แข็งแรง และความร่าเริงของตัวละครที่ส่งมาถึงฉันค่ะ



*COSMOPOLITAN: การถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องแรกของคุณเป็นอย่างไรบ้าง?
ยูริ: ฉันอยากจะลองเล่นหนังมาตลอดค่ะ ฉันสงสัยว่าทำไมคนถึงได้ตื่นเต้นเกี่ยวกับหนังและรู้สึกสนุกมากขนาดนั้นเวลาที่ได้ดู เมื่อเทียบกับละครแล้ว ฉันคิดว่าการถ่ายหนังเหมาะกับบุคลิกของฉันมากกว่าค่ะ ไม่ว่างานไหนที่ได้รับ ฉันจะทุ่มเทสุดตัว ให้เวลากับมันเยอะ และจะยิ่งใส่ความพยายามเข้าไปเท่าไหร่ ก็ยิ่งรู้สึกถึงความสำเร็จได้ชัดเจนขึ้นเท่านั้นค่ะ แค่ฉันได้คิดเกี่ยวกับบทอยู่เป็นเวลานานก็มีความสุขแล้วค่ะโดยที่ไม่ต้องไปใส่ใจเรื่องผลที่ออกมาให้มากนัก และฉันก็ชอบความสำเร็จในแต่ละขั้นที่ได้ทำร่วมกับทีมงานเมื่อเวลาผ่านไปค่ะ การแสดงครั้งแรกของฉันต้องรับบทที่ค่อนข้างหนัก และในกองถ่ายก็แทบไม่มีเวลาให้พักหายใจ เลยเป็นสิ่งที่มากเกินไปสำหรับฉันค่ะ แต่ตอนที่ถ่ายหนังฉันได้คุยกับผู้กำกับเยอะมาก และมีเวลาเหลือเฟือ เลยรู้สึกดีมากค่ะ ฉันยังได้เรียนรู้ด้วยว่ามันต้องใช้ความพยายามและเวลาขนาดไหนในการถ่ายหนังสักฉากหนึ่งค่ะ

*COSMOPOLITAN: คุณชอบกีฬาทางน้ำถึงขนาดที่ได้ประกาศนียบัตรการดำน้ำแบบสคูบามาด้วยใช่ไหม? พอได้ยินว่าคุณได้รับเลือกให้เล่นหนังแนวว่ายน้ำ ก็คิดว่าคุณจะต้องรับบทเป็นนักว่ายน้ำแน่ ๆ แต่กลายเป็นว่าเราจะได้เห็นยูริเล่นกีตาร์กับร้องเพลงในเรื่องนี้แทน คุณได้ฝึกเล่นกีตาร์กับฝึกเสียงร้องเพลงรึเปล่า?
ยูริ: ใช่ค่ะ ฉันฝึกเล่นกีตาร์ด้วย ฉันฝันอยากจะร้องเพลงพร้อมกับเล่นกีตาร์มานานแล้วค่ะ ฉันมีกีตาร์ที่ได้รับเป็นของขวัญมาจากแฟนคลับ กับกีตาร์ที่ฉันซื้อมาเมื่อปีก่อนที่อยากใช้เอาไปเล่นค่ะ แต่เพราะไม่มีโอกาสเลยไม่ได้ทำ ได้แต่ปล่อยให้กีตาร์ฝุ่นจับ แต่หนังเรื่องนี้ให้โอกาสกับฉันค่ะ ทำให้ฉันได้ร้องเพลงสองเพลงที่แต่งขึ้นมา เพลงหนึ่งเป็นร็อคบัลลาด อีกเพลงเป็นแนวอะคูสติกค่ะ สิ่งที่มีความสุขที่สุดตอนถ่ายเรื่อง "No Breathing" ก็คือได้เรียนกีตาร์กับร้องเพลงนี่แหละค่ะ

*COSMOPOLITAN: ตกลงว่าไม่ใช่บทว่ายน้ำ แล้วเหตุผลที่ผู้กำกับเลือกคุณมาเล่นคืออะไรล่ะ?
ยูริ: เป็นเพราะรูปของฉันที่ผู้กำกับได้ดูก่อนที่จะเจอฉันค่ะ แล้วเขาก็ไล่ดูบุคลิกของฉันตามรายการวาไรตี้ด้วย ตอนเจอกันครั้งแรก ผู้กำกับบอกฉันว่า "ผมอยากให้จองอึนเป็นเหมือนยูริ" ฉันก็ไม่แน่ใจนะคะว่ามันแปลว่าอะไร และพอฉันถามเกี่ยวกับตัวของจองอึน เขาก็บอกฉันว่าจองอึนไม่ใช่ผู้หญิงที่เป็นรักแรกแบบทั่วไป ไม่ได้ใสซื่อ น่าสงสาร และปลิวหายไปกับสายลมแบบนั้น แต่เป็นผู้หญิงที่ืไม่ขี้อายเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้ชาย เป็นคนสบาย ๆ รักอิสระ และสดใสร่าเริงค่ะ และจองอึนก็มีบุคลิกแบบสี่มิติที่ทำให้คนรอบตัวคิดว่า "ผู้หญิงคนนี้คิดบ้าอะไรอยู่เนี่ย" แต่ก็จะเป็นคนที่มีเสน่ห์ที่สามารถให้คำปรึกษาที่อุ่นใจได้เมื่อพูดถึงเรื่องเครียด ๆ ค่ะ ผู้กำกับบอกว่าเวลาที่มองฉันเขาก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าฉันคิดอะไรอยู่ ถึงแม้จะดูสดสใส แต่ก้เหมือนมีเรื่องราวบางอย่างซ่อนอยู่ในนั้นด้วย และเหมือนว่าฉันเป็นคนที่จะไม่เสียเวลาจ้องตาใครนาน ๆ แต่จะออกไปตามความฝันของฉันค่ะ ครั้งแรกที่ฉันลองเล่นเป็นจองอึนแบบที่เห็นภาพไว้ ผู้กำกับก็บอกว่าอย่าทำแบบนั้น แต่ให้แสดงเป็นตัวฉันเองค่ะ

*COSMOPOLITAN: แล้วพอได้ลองแสดง จองอึนก็ไม่ใช่บทรักแรกแบบทั่วไปจริง ๆ เหรอ?
ยูริ: อย่างแรกเลยจองอึนเป็นคนที่ชิลล์มากค่ะ คุณจะไม่เห็นฉากที่เธอต้องหัวใจเต้นรัวเพราะผู้ชายหรือทำท่าเขินอายด้วย จองอึนจะตีหัวพี่อินกุก (เล่นเป็นวอนอิล) เป็นประจำ แล้วพอรู้ว่าจงซอก (เล่นเป็นอูซัง) ชอบเธอเข้า จองอึนก็สวาปามตีนไก่พรวด ๆ ต่อหน้าเขาค่ะ ปกติแล้วมันไม่ง่ายเลยใช่ไหมคะที่ผู้หญิงจะทำแบบนั้นต่อหน้าผู้ชายที่ชอบเธอ แต่จองอึนก็ทำแบบนั้นแหละค่ะ

*COSMOPOLITAN: ที่ทำแบบนั้นเพราะรู้ตัวอยู่เต็มอกว่าผู้ชายแอบชอบน่ะเหรอ?
ยูริ: คือจองอึนไม่สนสักนิดเลยค่ะ เพราะการที่มีผู้ชายมาชอบมันไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรกับชีวิตจองจองอึนเลยแม้แต่น้อย

*COSMOPOLITAN: แล้วอะไรที่สำคัญกับชีวิตของอึนล่ะ? ใช่ความฝันในการเป็นนักดนตรีรึเปล่า?
ยูริ: ใช่ค่ะ การร้องเพลงเล่นกีตาร์สำคัญกว่าเยอะเลย

*COSMOPOLITAN: มีตัวละครจากหนังเรื่องไหนไหมที่คุณดูเป็นแบบอย่างตอนเล่นเรื่องนี้
ยูริ: ฉันดูบทของพี่จอนจีฮยอนในเรื่อง "My Sassy Girl" (ยัยตัวร้ายกับนายเจี๋ยมเจี้ยม) ค่ะ ดูไปหลายรอบเพื่อให้เขาใจตัวละครที่เป็นคนสบาย ๆ ค่ะ แต่บทของจองอึนที่ฉันเล่นนั้นไม่ได้เป็นคนที่น่ารักมุ้งมิ้ง คือเวลาที่ดูจะไม่คิดว่าน่ารักหรือเป็นผู้หญิงด้วยซ้ำค่ะ มีหลายฉากที่จองอึนต้องสบถออกมา และผู้กำกับบอกให้ฉันด้นสดค่ะ พอฉันพูดคำด่าแบบที่ปกติแล้วฉันจะไม่มีทางพูด ทีมงานก็เหวอเลยค่ะ ถามฉันว่า "นี่คุณพูดแบบนั้นได้ยังไงน่ะ" เพราะพวกเขาคิดไม่ถึงค่ะว่าฉันจะสบถออกมา ฮ่า ๆ

*COSMOPOLITAN: งั้นอาจจะเป็นตัวละครที่ผู้หญิงถูกใจ
ยูริ: เพราะมันไม่ใช่บทนางเอกน้ำเน่าทั่วไปด้วยแหละค่ะ ตอนแสดงเลยสนุกมาก แม้จะมีผู้ชายมาชอบจองอึนถึงสองคน แต่เธอกลับไม่รู้สึกว้าวุ่นเลย ฉันคิดว่าแบบนั้นแหละค่ะที่จะยิ่งทำให้หัวใจพวกผู้ชายเต้นรัวมากขึ้น



*COSMOPOLITAN: หลังได้ร่วมงานกับยูอาอินและอีแจฮุนในละครเรื่องแรก แล้วก็ได้มาร่วมงานกับอีจงซอกและซออินกุกในภาพยนตร์เรื่องแรก เราก็ไม่รู้สินะ แต่ดูเหมือนว่าคุณจะโชคดีจริง ๆ กับนักแสดงชายที่มารับบทนำ การได้ร่วมงานคนที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างไรบ้าง?
ยูริ: ฉันตกใจมากค่ะเพราะทั้งคู่นั้นต่างไปจากที่ฉันคิดไว้เยอะเลย ฉันคิดว่าพี่อินกุกจะเป็นพี่ชายที่ชอบเอาใจ แต่พี่เขามีมุมที่เรื่องมากและขี้หงุดหงิดอยู่น้อย ๆ ค่ะ ส่วนสำหรับจงซอก ฉันคิดว่าเขาจะขรึม ๆ แต่เอาจริงแล้วขี้เล่นมาก ในหนังฉันต้องตีพี่อินกุกไปนับครั้งไม่ถ้วน และฉันก็รู้สึกเสียใจที่ต้องเล่นแบบนั้นค่ะ แต่พี่อินกุกบอกให้ฉันตีแรงอีก เลยทำให้เล่นได้ง่ายขึ้นเยอะค่ะ พี่เขาเป็นคนที่ชิลล์จริง ๆ แต่ก็มีออร่าแบบแบ๊ดบอยด้วยค่ะ ตอนถ่ายฉากแรกกับจงซอกแล้วหลุดคิว พี่อินกุกก็กัดแขนฉันค่ะ

*COSMOPOLITAN: จริงเหรอ? แล้วใครที่ทำหลุดคิวล่ะ?
ยูริ: จงซอกค่ะ ฮ่า ๆ ตอนนั้นเล่นเอาฉันเหวอเลยค่ะ คิดว่าพี่เขาหลุดมาจากดวงไหนเนี่ย แล้วพอฉันถามพี่เขาว่าทำไมทำแบบนั้น พี่ก็ถามกลับค่ะว่าเมื่อไหร่เหรอจำไม่ได้แล้ว บุคลิกปกติของพี่อินกุกก็เป็นแบบนี้แหละค่ะ ตอนแรกฉันคิดว่าพี่เขาจะขี้โมโห แต่พี่เขาเอาใจใส่ฉันมากเลยค่ะ

*COSMOPOLITAN: คือจองอึนไม่สนใจผู้ชายทั้งสองคนนั่นเลย แต่ถ้าเกิดเป็นจองอึน เคยคิดไหมว่าคุณจะเลือกใคร?
ยูริ: ฉันเคยลองคิดูค่ะ และตัดสินใจว่าจะไม่เลือกใครเลยเหมือนกัน คนแบบจองอึนในหนังไม่สามารถรักกับผู้ชายสองคนนั้นได้ สำจองอึนแล้ว วอนอิลเป็นเหมือนสุนัขที่เธอเลี้ยงมานาน เหมือนเป็นเพื่อนแท้ค่ะ ส่วนอูซังก้เป็นเหมือนพี่ชายที่เธอเพิ่งจะรู้จัก แต่ถ้าเอาสองคนมาผสมกันก็คงจะพอทำให้หัวใจของจองอึนหวั่นไหวขึ้นมาได้บ้าง ถ้าไม่มีผู้ชายคนที่สามโผล่มา จองอึนก็คงจะยังเล่นกีตาร์ต่อไปมั้งคะ?

*COSMOPOLITAN: เดี๋ยวอาทิตย์หน้าก็จะมีงานแถลงข่าวของ "No Breathing" แล้วใช่ไหม? คงจะต้องโดนถามแน่ว่าจะเลือกใครระหว่าอีจงซอกกับซออินกุก แล้วคุณจะตอบว่ายังไง?
ยูริ: นั่นสิคะ! จะตอบยังไงดีล่ะ? เอิ่ม...ก็คงจะตอบแบบจองอึนนั่นแหละค่ะ ว่าแันไม่เลือกใครเลย ฮ่า ๆ

*COSMOPOLITAN: กับภาพยนตร์เรื่องนี้ที่กำลังจะเข้าฉายแล้ว อยากรู้จังเลยว่าคุณจะแสดงภาพลักษณ์แบบไหนอีกในอนาคต ที่ผ่านมาคุณพูดตลอดว่าอยากจะเป็นนักดนตรีหญิงที่ทำการแสดงอย่างทรงพลังเหมือนอย่าง Pink และอยากมีคอนเสิร์ตอย่างยิ่งใหญ่ด้วย ตอนได้เห็นคุณใส่ชุดวอร์มสีดำในคอนเสิร์ตของคุณ และเต้นเพลง "1, 2 Step" ของ Ciara ทำให้คิดว่าคงจะดีไม่น้อยถ้าคุณจะมีอัลบั้มสไตล์ฮิพฮอพบ้างสักวันหนึ่ง
ยูริ: ฉันคิดมาตลอดค่ะว่ามันต้องสนุกแน่ถ้าได้โปรโมทเป็นคู่ฮิพฮอพกับฮโยยอนในอนาคต แล้วฉันก็อยากจะเอาดีด้านงานแสดงต่อไปค่ะ ค่อย ๆ ทำไปอีกนาน ๆ ฉันอยากจะลองแสดงให้หลากหลายมากขึ้นอีกค่ะ ในโลกของหนังมีตัวละครอยู่มากมายมหาศาล ฉันไม่คิดมากค่ะว่าจะเป็นตัวละครแบบไหน เพราะตัวฉันเองก็มีอยู่หลายด้านมาก ไม่ว่าคุณอยากได้แบบไหน ฉันจะเล่นเป็นบทนั้นให้ตามที่คุณต้องการเลยค่ะ


Source: COSMOPOLITAN, je-kwon
English translation: ch0sshi
แปลไทย: EraOfGirls ll soshifanclub ll http://www.soshifanclub.com



------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

อ่านกันมายาว ๆ แล้วก็ฟังเสียงของเพราะ ๆ ของยูริที่จัดมาถึงสองเพลงสำหรับเรื่อง "No Breathing" กันเถิด






------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------