มันเริ่มต้นจาก.......
เราอยากจะเปลี่ยนแปลงเวทีเพื่อให้มันดูเหมือนกับการแสดงพิเศษ.
เพื่อให้เพลงของโซนยอชิแดจากอัลบั้ม 'Gee' มาจนถึง 'Tell Me Your Wish' ไม่น่าเบื่อไม่ว่าเราจะเคยได้ยินมันมาแล้วกี่ครั้งก็ตาม
แต่เราก็อยากจะโชว์รูปลักษณ์ใหม่ๆของพวกเธอ ในแบบที่เราไม่สามารถหาดูได้ตามรายการทั่วไป
SM ได้ประกาศถึงจุดประสงค์ของบริษัทและสาวๆว่า พวกเธอนั้นเหนื่อยล้าจากตารางการทำงานอันแสนโหด
และเผชิญกับการซ้อมที่หนักหน่วงทั้งๆที่สาวๆไม่ค่อยจะมีเวลากันอยู่แล้ว
เพลง Gee ได้ถูกเรียบเรียงใหม่เป็นแนว แจ็ซ ด้วยเสียงเปียโนที่ปรับให้มีกลิ่นไอเพลงร็อคที่เข้มข้น
ทั้งยังมีการเตรียมการประชันความสามารถในการเต้นที่น่าตื่นตาความยาวกว่า 6 นาที เพื่อโชว์พลังที่มี่เพียงสาวๆโซนยอชิเดเท่านั้นที่มีพลังนี้
มีการเน้นไปที่การแสดงของเมมเบอร์ที่ได้รับการสนใจน้อยกว่าเช่น โชว์เดี่ยวเปียโนของมักเน่ซอฮยอน
หรือว่า การโชว์เต้นเดี่ยวอันทรงพลังของฮโยยอนสาวผู้มีพรสวรรค์ทางการเต้น
และรวมไปถึงการแสดงของเมมเบอร์คนอื่นๆ, ฉะนั้นต้องขอขอบคุณความทุ่มเทที่ไอด้อลเหล่านี้มีให้พวกเรา ,
เราใช้เวลาและความตั้งใจมากกว่าปกติในการวางแผนการถ่ายทำ และการออกแบบเวที
เพื่อไม่ให้การแสดงสีหน้าหรือการกระทำใดๆของสาวๆนั้นตกหล่นไป
และเพื่อให้เป็นไปตามนั้น , เราเตรียมการจนเราพอใจกับดนตรีที่ออกมา.
อย่างไรก็ตาม, แม้หลังจากนั้น เราก็ยังรู้สึกเหมือนว่ามันยังขาดอะไรไปบางอย่าง.
ความน่าดึงดูดของสาวๆนั้นไม่ได้อยู่แค่การร้องเพลง, แต่เป็นการเป็นตัวของตัวเองในชีวิตประจำวันของพวกเธอด้วย
เราไม่อยากจะเล่นอะไรง่ายๆ แล้วแค่ฆ่าเวลาด้วยการสัมภาษณ์เหมือนรายการทอล์กโชว์ทั่วไป
ถามคำถามง่ายๆ เช่นผู้ชายในสเป็คเป็นยังไง หรือว่า พวกเธอมีความสามารถในการเลียนแบบเท่ห์ๆอะไรบ้าง
นั่นมันไม่ใช่รายการ Chocolate ที่ผมนึกเอาไว้. เด็กสาวเหล่านี้ได้กลายเป็นทหารพราวเสน่ห์ น้องสาวสุดรักของเกาหลี ,
ทุกคนต้องเคยเห็นพรสวรรค์ที่ซุกซ่อนของพวกเธอบ้างหล่ะ หรือไม่ก็เรื่องทั่วๆไป
ผมอยากจะสร้างเวลาอันเปี่ยมไปด้วยความหมาย และใหม่สดสำหรับผู้ชม และอาจจะเป็นการดีกับสาวๆ ก็ได้
เมื่อมีความคิดนี้ในใจแล้ว, ผมยิ่งตื่นเต้นหนักเมื่อต้องเจอพวกเธอในห้องซ้อม. แม้ว่าพวกเธอคือโซนยอชิแด .
แต่พวกเธอก็เหมือนเด็กสาววัย 20ปีทั่วไป ที่หัวเราะร่าเริงตามใจ , เม้าท์กันไม่หยุดหย่อน
และหยอกล้อ ซุกซนกันสนุกสนาน และไม่กี่ชั่วโมงพวกเธอก็กลับ , คุณจะเห็นบุคคลิกที่แตกต่างของแต่ละคน
และยิ่งกว่านั้น คุณจะเห็นว่าพวกเธอสนิทกันเพียงใด และพวกเธอห่วงใยเอื้ออาทรกันมากแค่ไหน.
ในใจของผม ผมปรารถนาอย่างแรงกล้าเลยว่าอยากจะโชว์จุดนี้ให้ผู้ชมได้เห็น.
ยิ่ง "Tell Me Your Wish" ได้รับความนิยมมากขึ้น , โซนยอชิแดก็ยิ่งงานหนักมากขึ้นเท่านั้น . ดั่งชื่อเพลง
โซนยอชิแดต้องให้ผู้คนสมหวังจากพรนั้นๆ และปรากฎตัวตามรายการทุกหนแห่ง .
พวกเธอทั้งร้อง เต้น และหัวเราะเยอะแยะมากมายในรายการวาไรตี้ และทอล์กโชว์
ถึงแม้ว่าพวกเธอจะรู้สึกขอบคุณในความโด่งดังทะลุฟ้า, แต่พวกเธอก็ต้องอยู่ห่างจากครอบครัว
ในขณะที่พวกเธออยู่ในวัยที่ควรจะอยู่บ้าน สวมบทบาทเด็กวัยรุ่นทั่วไป.
เพราะอย่างนี้ ผมถึงไม่อยากขอให้พวกเธอต้องทำให้ใครสมหวังจากพรอีก.
ผมอยากจะทำตรงกันข้าม และอยากได้ยินพรที่ซื่อตรงที่พวกเธออาจจะแอบมีไว้ในใจ ไม่ว่าพรนั้นจะเล็กน้อย หรือยิ่งใหญ่เพียงใด.
มีรายการหนึ่งที่เริ่มฉายเมื่อปีที่แล้ว ชื่อ " Change" ได้ผุดขึ้นมาในหัวผม. แขกในรายการจะใส่เสื้อผ้าปกปิดตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง
และอยากจะเจอกับครอบครัว.
มันเป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่คนในครอบครัวจะทะเลาะกัน หรือว่าทำให้โมโห ,ถึงแม้ว่าจะอยู่กันมานานมากก็ตาม.
ถึงแม้คนเหล่านั้นจะได้พบเจอครอบครัวอยู่เป็นประจำ
แต่ยังไงก็ยังเรียกน้ำตาจากคนในครอบครัวได้อยู่ดี เมื่อคุณแอบปลอมตัวเข้าไป .
แขกในรายการนั้นรวมไปถึง เฮียวริ, (ซอน)โฮยอง, ตาโบล และ Ok Dongja.
มันเป็นรายการที่มีความหมายกับผมเป็นอย่างมาก ในฐานะที่ผมมีทัศนคติในแง่ลบกับหัวข้อของ "ครอบครัว" เป็นอย่างมาก.
ผมเก็บไอเดียนี้เป็นความลับจากสาวๆ. แต่ผมได้ติดต่อคุณแม่ของซอฮยอนผ่านทางผู้จัดการของสาวๆ
คุณแม่บอกว่าเธอไม่ได้เจอหน้าลูกสาวที่อาศัยอยู่กับพี่ๆที่หอมาเดือนกว่าแล้ว
เธอรู้สึกแย่มากที่ไม่สามารถไปงานวันเกิดของลูกสาวเมื่อเดือนที่แล้วได้. เธอเต็มใจเป็นอย่างยิ่งที่จะไปปรากฎตัวในรายการ
โดยเธอได้กล่าวว่า "อะไรก็ได้ เพื่อลูกสาวคนเดียวของฉัน"
เราได้มีการประชุมหลายครั้งในเรื่องการตัดสินใจรูปแบบของรายการ จนเกือบจะเหมือนรายการ hidden camera, แม้กระทั่งคืนก่อนวันถ่ายทำ

เมื่อการถ่ายทำเริ่มต้นขึ้น ได้มีการปลอมตัวคุณแม่ให้เหมือนกับผู้ชมธรรมดาในห้องส่ง , คุณแม่ของซอฮยอนได้ขอพรให้เมมเบอร์โชว์ความน่ารักคิกขุ
ให้ลูกสาวเธอดูเป็นแบบอย่าง . คุณแม่ยังขอให้สาวๆอ่านจดหมายที่คุณแม่เขียนถึงลูกสาวให้คุณแม่ฟัง .
สาวๆได้แต่ขำและคิดว่ามันเป็นเพียงการขอร้องให้ทำตามที่ขอพรเท่านั้น.
พิธีกรค่อยๆเริ่มพูด เมื่อ MC คิม จองอึน ขอให้มักเน่ซอฮยอนกอดคุณแม่แทนลูกสาวของเธอหน่อย.และสาวๆเริ่มตาแดงๆกันแล้ว
คุณแม่กอดซอฮยอน แล้วถอดหน้ากากออก และอวยพรวันเกิดย้อนหลังให้ลูกสาว
ทั้งยังให้ไดอารี่ที่บันทึกวัยเด็กของซอฮยอนที่คุณแม่ตั้งใจว่าจะให้เป็นของขวัญในวันแต่งงานของซอฮยอน
สาวๆเริ่มน้ำตาไหลพราก , ขนาดพิธีกรยังแอบหันหลังไปซับน้ำตาเลยทีเดียว. ทั้งห้องส่งเงียบกลายเป็นทะเลน้ำตา
เมื่อพิธีกรขอให้ เจสสิก้า ยูริ ฮโยยอน ซูยอง ซันนี่ แทยอน ยุนอา และทิฟฟานี่ พูดอะไรก็ได้ถึงคุณแม่
แทยอนหัวหน้าวงผู้เด็ดเดี่ยว ยืนขึ้นและเริ่มให้สัมภาษณ์ . เธอกล่าวว่า "คำว่า "แม่" กลายเป็นคำต้องห้ามของโซนโยชิแดไปแล้วค่ะ"
และตอนนั้นเอง ทิฟฟานี่ที่ร้องไห้เป็นคนแรก และร้องหนักที่สุด ก็ยกมือขึ้นและพูดว่า " ฉันอยากจะกล่าวอะไรหน่อยค่ะ"
ทางผู้จัดการของสาวๆได้มีการขอร้องมาแล้วว่า ให้ช่วยระวังเกี่ยวกับหัวข้อเรื่องครอบครัว
เพราะว่ามันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะเซ็นซิทิฟกับสาวๆบางคนและผู้กำกับก็เข้าใจดีถึงความสำคัญในส่วนนี้
ผมเองก็ระมัดระวังเป็นอย่างมากที่จะไม่ดึงดันกับเรื่องแม่ ในกรณีถ้าสาวๆรู้สึกแย่ขึ้นมา
ทิฟฟานี่ยิ้มและพูดว่า " นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันจะพูดออกไป แต่......." และเธอก็ยังคงกล่าวคำทักทายสั้นๆน่ารักๆต่อไป .
เมื่อเธอพูดจบ เธอก็รวบรวมความกล้าและกล่าวว่า
"แต่ฉันก็ขอบคุณมากที่ได้มอบพี่น้องที่แสนวิเศษทั้ง 8 มาให้ฉันแทน"
แล้วเธอก็กอดเมมเบอร์ทีละคน . สาวๆกอดกันกลม ปลอบโยนกัน และให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ทั้งยังเช็ดน้ำตาให้กันอีกต่างหาก
คุณแม่ของซอฮยอนก็กอดสาวๆทุกคน และพูดว่า เป็นเพราะพี่สาวทั้ง 8 ,ลูกสาวของเธอจึงอ่อนลงบ้าง
มันช่างยากสำหรับผมเหลือเกินที่จะไม่สะอื้นเมื่อน้ำตามันเริ่มจะไหลออกมา , ขนาดผมอยู่หลังกล้องไกลออกไป
ผมยังอดจะน้ำตาไหลไปอีกรอบขณะที่ผมกำลังเขียนแฟนแอคเค้าท์อยู่นี้
รุ่นพี่ที่มองผมอยู่ข้างๆบอกกับผมว่า " โอ้ววววว ขนาด PD ก็ยังใจอ่อน"

เมื่อการสัมภาษณ์เสร็จสิ้น และการถ่ายทำได้หยุดค้างไว้ เราก็ได้ทำการประกาศ
ตอนนั้นมีนักข่าว และผู้คนในกลุ่มผู้ชมมากมาย และได้ทำการอธิบายว่าเรื่องราวของทิฟฟานี่นั้นเป็นเรื่องส่วนตัวมากๆ
และอาจจะถูกตัดออกจากรายการ และยังได้ขอร้องให้ไม่มีการตีพิมพ์ หรือเผยแพร่บทความออกไป
เพราะเรากังวลแทนสาวๆ หลังจากนั้นผมได้วิ่งไปที่ห้องรับรอง ผมแค่อยากจะทำให้เธอประหลาดใจแต่ตอนนี้ผมรู้สึกแย่มาก
และด้วยสีหน้าเป็นกังวลของผม ผมก็เจอทิฟฟานี่ที่ห้องรับรองและร้องเรียก "ฟานี่!!!!!!" น่าแปลกใจที่ทิฟฟานี่วิ่งมาหาผม
และในนาทีนั้นเองเธอกอดผม และจับมือผม มองผมด้วยแววตาที่ยังมีร่องรอยน้ำตาแล้วพูดว่า "ผู้กำกับคะ, ขอบคุณมากค่ะ"
เด็กน้อยนั่นบอกผม, คนที่กำลังรู้สึกเสียใจมาก ว่าเธอมีความสุขมากและขอบคุณสำหรับของขวัญอันยอดเยี่ยม,
และขอให้ผมออกอากาศช่วงนั้นให้ได้
เพราะเด็กน้อยคนนี้ ผมรู้สึกตื้นตันมาก มีความสุขมาก
และอยากจะขออภัย และใจของผมแตกสลาย .................สาวๆ ขอบคุณมากนะ และขอโทษด้วย
ด้วยความสัตย์จริง , ผมไม่ค่อยรู้เรื่องโซนยอชิแดเท่าไหร่ . ผมไม่เคยเจอพวกเธอมาก่อนการถ่ายทำรายการ Chocolate แม้กระทั่งในสายงาน.
ผมก็แค่ชอบดูความสดใส น่ารักเหมือน ahjussi fan ทั่วไป. แต่หลังจากการถ่ายทำ, สาวๆได้กลายมาเป็นสิ่งพิเศษสำหรับผม
ไม่ใช่ในฐานะแฟนเพลง หรือชายคนหนึ่ง แต่เป็นคนๆนึงที่เป็นเหมือนพี่ชาย , ผมหวังจริงๆว่าพวกเธอจะไม่ถูกทำร้ายทางจิตใจ
ผมค่อนข้างมั่นใจว่าผมรู้สึกไปเองคนเดียวแหละ แต่มันรู้สึกเหมือนผมได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวพวกเธอ
มันเป็นของตายที่วงไอด้อลจะมีแต่ข่าวลือ และคำพูดประสงค์ร้าย แต่โซนยอชิแดก็มีข่าวลือออกมาว่า พวกเธอสันโดษ
พวกเธอไม่ชอบหน้ากัน และพวกเธอพูดจาแย่ลับหลัง
แต่จากประสบการณ์ของผม , ผมบอกได้เลยว่า คำพูดเหล่านั้นมันเป็นขยะที่ไม่ควรค่าแก่การเก็บมาขบคิดด้วยซ้ำ
สมาชิกในวงล้วนเหมือนพี่สาวน้องสาว และแม่ผู้เปี่ยมไปด้วยความรักให้กันและกัน.
วงโซนยอชิแดไม่ใช่เป็นเพียงแค่วงไอด้อลแต่เป็นครอบครัว ภายใต้ชื่อโซนยอชิแดเท่านั้น
ตลอดการถ่ายทำนี้ ผมได้รู้จักครอบครัวๆหนึ่งที่มีความผูกพันอันบริสุทธิ์
มันเริ่มต้นจากแค่ .....ต้องการทำให้พรของสาวๆเป็นจริง
อย่างไรก็ตาม .....กลับลงท้าย ผมเองที่ได้รับพรอันล้ำค่าจากพวกเธอในที่สุด
อ่านจบแล้ว น้ำตาซึมกันหล่ะสิ ใช่มั้ยคะ
.gif)
.gif)
สาวๆรักฟานี่ให้มากๆนะคะ
.gif)
.gif)
credit :
Original Post: http://www.ezonepd.com/bbs/zboard.php?id=0...=asc&no=215
Translations: [email protected]
แปลไทยโดย pimpcess@SSFC
special thanks :
Joegladiator
MoGi_JessFaHyuN
หน่วยตรวจคำผิดโต้รุ่ง และให้กำลังใจ I love You
.gif)