ทำไม Mnet กับ SM ถึงไม่กินเส้นกันน่ะหรอ? ถึงแม้พักหลังนี้ทาง Mnet ได้มีศิลปินจาก SM ไปร่วมงานด้วยประปราย แต่ความจริงแล้วมันเป็นอย่างนี้ต่างหาก

ในตลาดวงการ K-Pop มียักษ์ใหญ่อยู่ 2 บริษััท:
-Mnet Media
-Loen Entertainment

มันเป็นธุรกิจที่ซีเรียสใช่ย่อยเลยล่ะ เมื่อใดก็ตามที่ศิลปินทำยอดขายอัลบัมได้ นี่คือผู้คนที่กินเงินไปเต็ม ๆ ขณะที่ตัวศิลปินเองได้แค่เพนนีจากดอลลาร์(สตางค์จากบาท) ปกติแล้วทางบริษัทเอนเตอร์เทนเมนต์ต่าง ๆ จะส่งอัลบัมของศิลปินในสังกัดไปให้ทั้งสองที่กล่าวถึงนี้ แล้วทางนั้นจะจัดแจงจัดทำอัลบัมทุกอย่างเอง YG และ DSP ส่งผลงานให้แก่ Mnet ส่วน JYP ส่งผลงานให้ Loen ส่วน SM น่ะหรอ? มีคนเชื่อว่า Mnet หวังอยากได้ SM มาเป็นเครือข่ายด้วยอย่างมาก แต่ถูก SM ปฏิเสธไป ดังนั้น SM จึงจัดการรับผิดชอบเรื่องผลิตและจัดทำอัลบัมด้วยตัวเอง นี่แหละจุดเริ่มต้นของปัญหาล่ะ

ต่อจากนี้ไปเป็นประวัติ K-Pop แบบคร่าว ๆ ที่ควรรู้กัน:

ดังนั้นจากเซนส์ง่าย ๆ แล้ว ศิลปินทั้งหลายน่าจะได้รับรายได้ตอบแทนจากเพลงของพวกเขาใช่มั้ยล่ะ? แต่ความเป็นจริงแล้วมันน่าเศร้านักเมื่อเหล่าศิลปินแทบไม่ได้อะไรกลับมาเลย สำหรับยอดขายซีดีต่าง ๆ นั้น กำไรจะวนเข้าเหล่าเจ้าพ่อขาใหญ่ทั้งสองที่กล่าวถึง โดยยอดขายเพลงนั้นคือการนำ ยอดขายซีดีและยอดขายดิจิตอล มารวมกัน ซึ่งตลาดของยอดขายดิจิตอลนั้นใหญ่กว่าตลาดของอัลบัมมากนัก ราว ๆ 7 เท่าเลยทีเดียว และผู้นำตลาดทั้ง 6 ของตลาดดิจิตอลได้แก่:

melon.com
mnet.com
bugs.co.kr
dosirak.com
muz.co.kr (รายนี้เป็นบริษัทลูกของ dorisak แต่ดูเหมือนว่าจะทำการรวมตัวกันไปแล้ว)
cyworld.com

อีกครั้งที่กำไรทั้งหลายของยอดขายดิจิตอลนั้นจะตกไปอยู่ในท้องของผู้นำทั้ง 6 เหล่านี้ ศิลปินแทบไม่ได้รับอะไรเลย ที่จริงแล้วบริษัทใหญ่ ๆ อย่าง SM หรือ YG เองก็ไม่ได้กำไรมากมายจากยอดขายเพลงเช่นกัน

ที่จริงแล้วบริษัททั้งหมดนี้ดูเหมือนจะแตกออกมาจาก 3 บริษัทใหญ่ยักษ์ของเกาหลี ได้แก่:
SK - บริษัทเทเลคอมที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลี เป็นเจ้าของเว็บไซต์ cyworld.com, melon.com, Loen Ent.
KT - บริษัทเทเลคอมที่ใหญ่รองลงมา เป็นเข้าของ dosirak.com, muz
CJ - บริษัทใหญ่ยักษ์อีกบริษัทนึงที่มีกิจการร่วมกับ Samsung เป็นเจ้าของทุก ๆ อย่างที่เป็น Mnet และบริษัทเอนเตอร์เทนเมนต์อื่น ๆ อีกมากมาย

อย่างไรก็ตาม SM ได้รับรายได้ปีละราว ๆ 40 ล้านดอลลร์สหรัฐฯ ระหว่างที่ SK ได้ประมาณ 60 พันล้าน ซึ่งพูดตามตรงแล้ว SK สามารถอัด SM ให้ล้มได้ภายในครึ่งวันถ้าพวกเขาอยากนะ

ดังนั้นการเข้าใจประวัติของวงการเพลงเกาหลีนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่าง ยิ่งยวด ในฐานะแฟน ๆ ศิลปินของ K-Pop เองแล้ว เนื่องจากทุก ๆ อย่างมันกระทบไปถึงตัวศิลปินเองด้วยเช่นกัน ซึ่งความจริงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือบริษัทเหล่านี้ครอบครองวงการเพลงอย่าง โหดเหี้ยม พวกเขายังควบคุมสื่ออีกต่างหาก ดังนั้นจึงไม่มีข่าวแย่ ๆ กับบริษัทใหญ่ ๆ พวกนี้ให้เห็นแน่นอน แล้วบริษัทชนชั้นกลางอย่าง SM ที่ไม่ได้แม้กระทั่งรายได้จากยอดขายเพลง จะทำยังไงล่ะ? พวกเขาคงได้เงินมาจากไหนซักทางใช่มั้ย? รวมถึงตารางงานหฤโหดของศิลปินตลอดปีที่มีทั้ง คอนเสิร์ต, อีเวนท์, รายการทีวี ทั้งภายในและนอกประเทศ ความจริงแล้วราว 90% ของตารางงานนั้นแทบไม่เกี่ยวข้องกับอาชีพของศิลปินเองเลย จึงมาที่ข้อสรุปว่าศิลปินนั้นโหมทำงานหนักเกินควร

ถ้า SM ทำกำไรได้มากพอล่ะก็ พวกเขาคงมีโอกาสยื่นข้อเสนอที่เป็นธรรมให้แก่ศิลปินได้ง่ายกว่านี้ พวกดราม่าระหว่าง SM กับศิลปินต่าง ๆ นั้นคงลงเอยได้อย่างสงบสุข โซนยอชิแดคงไม่ได้รับฉายา 'อีเวนท์ชิแด' อย่างทุกวันนี้ ถึงแม้หลาย ๆ ฝ่ายจะมองว่า SM เป็นปีศาจ แต่ปีศาจตัวจริงน่ะคอยชักใยอยู่เบื้องหลังต่างหาก จินตนาการดูว่าถ้าเพลง 'Gee' ถูกขายบนเว็บ Melon ในราคา 1 ดอลลาร์ SM จะได้ประมาณ 5 นิคเคิลเท่านั้น(1 นิคเคิล = 5 เซนต์) ส่วนโซนยอชิแดน่ะหรอ? พวกเธอคงได้ราว ๆ เพนนีหรือสองเพนนีน่ะแหละ อย่าลืมหาร 9 ด้วยล่ะ! ที่เหลือทั้งหมดตกไปตุงกระเป๋าสตางค์ของ Melon และเหล่าบริษัทเทเลคอมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ฟังดูเยี่ยมมั้ยล่ะ?

-----
PLEASE TAKE OUT WITH FULL CREDITS:
Source: Soompi
Credit: silis7noy2@soompi
แปลไทย: Translator Gang ll SOSHIFANCLUB ll http://www.soshifanclub.com
-----
อยากให้เข้าใจและเอาเป็นบรรทัดฐานในการตัดสินบริษัทนะครับ หลายคนรักแต่ศิลปินไม่ลืมหูลืมตา แต่ถ้าเข้าใจบริษัทบ้างจะรู้ว่ามันต้องน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่ากัน ยิ่งตอนนี้โซชิดัง ๆ อยู่ถ้าไม่รีบโปรโมตแล้วจะรอสวรรค์โปรยเงินลงมาให้ก็คงไม่ใช่หรอกครับ

นี่แหล่ะนะ เค้าถึงเรียกว่า "ธุรกิจ" มันต้องมีได้เสียกันไปทุกฝ่าย ไม่ว่ายังไงก็ต้องมีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง

สาว ๆ เราทำงานเหนื่อย ค่าตอบแทนอาจจะได้มากหรือน้อยก็ไม่สำคัญ เท่ากับที่ได้ทำตามความฝันของตัวเอง

เทรนกันมาหลายปีเพื่อสิ่งนี้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ยังไงก็ขอให้สาว ๆ เข้มแข็ง และทำตามความฝันของตัวเองให้สำเร็จ

และก็ขอภาวนา อย่าให้วงจรธุรกิจนี้ย้อนกลับมาทำร้ายศิลปินจนเกินกว่าที่นักล่าฝันหลาย ๆ คนจะทนไหวก็แล้วกัน

โซชิไฟท์ติ้ง!!

พักหลังได้อ่านเรื่องนี้บ่อยๆ
ชักเริ่มสงสัย ว่าเอสเอ็มจะทนได้อีกนานแค่ไหน
อีกไม่นานคงโดนปลาใหญ่ฮุบไปด้วย

นั่นสุด ๆ ไปเลยยิ่งกว่ากู้เงินนอกระบบอีก

พวกกล่าวร้ายไม่ลืมหูลืมตา น่าจะได้อะไรบ้างจาก บทความแปลนี้นะ ^^

ขอบคุณที่นำมาให้อ่านครับ เข้าใจอะไรได้ดีขึ้นเยอะ

อ่านแล้วสลดใจเล็กๆ ปัญหาแบบนี้คงแก้ยาก ถ้ารัฐบาลไม่เข้ามาช่วย
เพราะดูแล้ว smไม่ได้มีอำนาจต่อรองเลย ถึงมีก็น้อยนิดเหลือเกิน
ถ้าทั้งหมดที่กล่าวมาเป็นความจริง น่าลองให้smไปฟ้องบริษัทพวกนี่บ้างเนอะ
อย่างน้อยก็มีข้ออ้างว่าจะได้ให้ความเป็นธรรมต่อตัวศิลปิน เหอๆๆ
แต่จะกล้ามั้ยล่ะ ดูๆแล้วมีแต่ยักษ์ใหญ่จริงๆทั้งนั้นเลย

เคลียดดีจัง

ขอบคุณสำหรับข้อมูลข่าวสารครับ

อ่านแล้วก็ทำให้เข้าใจอะไรๆ มากขึ้น


ขอบคุณน้าที่แปลมาให้อ่านกัน

น่าเห็นใจค่ะ

ธุรกิจ ด้านมืด

สงสารศิลปิน

ขอบคุนสำหรับข่าวสารค่ะ

อย่างนี้นี้เอง

เบื้องลึก เบื้องหลัง
ทำไมมันเยอะขนาดนั้น เฮ้อออ

สงสารก็แต่ศิลปิน

thanks for good knowledge~

ช่วยเบิกตาแฟนคลับบางกลุ่มได้เป็นอย่างดี ^^

ขอบคุณครับ

เคยอ่านละ
มันน่ากลัวมาก
เป็นประเทศที่
บริศัทใหญ่ๆ ต้องทำได้ทุกอย่างในประเทศ
มันก็เป็แบบนี่ Y^Y

ได้อ่านแล้วรู้สึกไม่ดีเลยอะ

เอาความเป็นธรรมของศิลปินคืนมานะ..

ฮิฮิ "เงิน" สั้นๆเลยคงเข้าใจดี

ขอบคุณนะคับ

ก็น่าสงสาร SM เหมือนกันนะครับ เรื่องแบบนี้
ตัวเองไม่ได้คุมทุกอย่างของวงการเพลงเหมือนบริษัทพวกนั้น
เป็นแค่"ชนชั้นกลาง"จะโดนบริษัทที่มีอำนาจมากกว่าเล่นงานตอนไหนก็ไม่รู้
มีโอกาสแล้วก็คงต้องใช้โอกาสนี้ในการกอบโกยกำไรเท่าที่จะสามารถทำได้
สำหรับบางคนที่ว่าว่าSMนั้นเป็นปีศาจผมว่าถ้าได้อ่านบทความนี้
ผมคิดว่าน่ามองบริษัทที่ชื่อว่า"SM Ent."นี้ในทางที่ดีมากขึ้น

ทำไมเบื้องลึกมันถึงได้ลึกขนาดนี้เนี่ย


อ่านแล้วรุ้สึกเหมือนทำงานแต่หาเงินไม่ได้เลยเหะ

อ่านแล้วสงสารสาวๆเลยเหะ

ขอบคุณมากคับ.......รู้อะไรขึ้นมากเลย.......

แหะๆๆ

อ่านแล้วเครียดแหะ

..........................

อ่านแล้ว ก็รู้สึกว่าคนที่ประโยชน์มากที่สุดกลับไม่ใช่ค่ายหรือศิลปิน


ทำไมหากินกันแบบนี้นะ

แล้วอย่างนี้ใครจะมีกำลังใจในการสร้างผลงานกันหล่ะ

สงสารสาวๆ ทำงานกันตั้งเยอะแต่ค่าตอบแทนไม่คุ้มกันเลย


จะโทษทางค่ายฝ่ายเดียวก็ไม่ได้

อ่านแล้วสงสารสาวๆ มากเลย

จาเอาตัง มาจากไหนกัน

ทามมัย ถึงโดนโกงด้ายขนาดนี้

นั่นหนะซิ ไม่รู้ SM จะสู้อยู่ได้ขนาดไหน


ถ้าถูกหุบไป ศิลปิน คงน่าสงสารแย่เลยอะ

น่าสงสารสาวๆ



ยังไงก้ สู้ๆนะ


พวกเราเป็นกำลังใจให้

อย่างที่มีคนเคยบอกใช่ไหมครับว่าวงการบันเทิงเกาหลีนี่ "เป็นวงการมาเฟีย" ดีๆนี่เอง.....

จะโกรธเอสเอ็มเลย จริงๆก็ไม่ถูกเนอะ...ใครก็อยากได้กำไรกันทั้งนั้น....แต่ในเมื่อมันเป็นวงการมาเฟียแบบนี้.....อีกไม่นานเอสเอ็มก็ต้องเข้าไปอยู่ในบริษัทใหญ่ๆแบบนี้...ศิลปินก็ต้องทำงานหนักขึ้นอีก.......

ไม่รู้จะเอาใจช่วยใคร.....แต่เป็นห่วงสาวๆนี่แหละครับ.....ทำงานกันหนักมากกกก......

เครียดเลย

ขอบคุนคับสำหรับข้อมูลดีๆ

ลึกลับซับซ้อนจริง ๆ เลยวงการธุรกิจเนี่ย
สงสารคนที่รักการร้องเพลงอย่างสาว ๆ + ดารานักร้องเกาหลี
ทำงานกันหนักแต่ได้ผมตอบแทนนิดเดียว

ขอบคุณสำหรับ TRAN ค่ะ ได้อะไรเยอะเลยจากบทความนี้

ผมว่า ที่ SM ไม่ยอมทำตามพวก บริษิทใหญ่ๆ พวกนั้น


ก็เป็นส่วนช่วยปกป้อง ศิลปินด้วยเหมือนกันนะ


ถ้า เข้าไปอยู่แบบนั้น ศิลปินคงไม่มีไรกิน

ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆที่ทำให้เข้าใจวงการเพลงเกาหลีมากขึ้น

รวมถึง sm เองด้วย ยังไงก็ตาม ธุรกิจ ก็ยังเป็นธุรกิจอยู่วันยังค่ำ

อา............พี่สาวทั้งหลาย เข้มแข็งเข้าไว้ โซชิ ไฟท์!!!!!!!!

น้ำเ้พึ่งเรือเสือพึ่งป่า บวกกับช่วง น้ำขึ้นให้รีบตักของสาวๆโดยแท้

ความสุขของพวกเธอคือการทำให้คนอื่นที่ได้รับมีความสุขกว่า?????

จริงๆก็อยากให้มองในแง่คุณภาพด้วยนะคะ SM ที่เป็นบริษัทระดับกลาง แต่ก็ยืนหยัดมาได้ขนาดนี้
ถึงแม้ว่าจะจ่ายงานให้นักร้องเยอะ แล้วให้ค่าตอบแทนน้อย
แต่การลงทุนปั้นแต่ละวงขึ้นมาเค้าก็ทุ่มไม่อั้น ทั้งที่ไม่ใช่บริษัทใหญ่
อย่างหอพักที่พวกเราเคยเห็นกันทั้งโซชิ เอสเจ ดูดีมีระดับมาก เครื่องอำนวยความสะดวกก็พร้อม
ในขณะที่วงอื่นๆบางวง แม้จะเดบิวทืไปแล้วแต่กลับต้องอยู่รวมกันในห้องแคบๆ
และที่สำคัญคือ... ไม่เคยมีนักร้องคนไหนของ SM ที่เดบิวท์ออกมาแล้วไม่ติดตลาดเลย
SM ไม่เคยทิ้งเด็กนะคะ เด็กที่เดบิวท์มาแล้วถ้าไม่มีเหตุสุดวิสัยใดๆก็ไม่เคยมีการยุบวงกะทันหัน
หรือทำการปลดสมาชิกออกไป ยกเว้นแต่ว่าจะเป็นความสมัครใจของตัวศิลปินนั้นๆเอง

จริงๆก็ไม่ใช่ว่าเข้าข้าง SM หรอกค่ะ แต่มองในมุมหนึ่งแล้วมันน่าเห็นใจด้วยกันทั้งสองฝ่าย
ยังไงก็หวังว่าวงการ K-Pop จะเกิดการพัฒนาไปในทิศทางที่ดีกว่านี้นะคะ ^^

ยังไงก็ต้องสู้ต่อไป ณ๊ คร๊ะ มั่ยว่าจะเป็นโซนยอ หรือ วงอื่นๆ

ต้องสู้ต่อไปให้ถึงที่สุด และก็อย่าโหมงานมากจนเกินไปด้วยยยย

ไม่ว่าจะเป็นยังงัยก็จะเป็นกะลังใจหั้ยเสมอละนะ

^^" สงครามยังมั่ยจบ อย่าพึ่งนับศพทหาร

อย่างที่คิดจริงๆ
ยังคิดอยู่ว่า ทั้งโปรโมต ทั้งทำอัลบั้ม ไหนจะคอนเสิร์ต
SMEเอาเงินมาจากไหน เพราะยืนด้วยตัวเอง
โหมทั้งเสื้อผ้า คาราโอเกะ แต่ก็ไม่พอ
ไม่แปลกที่ศิลปินจะได้ค่าเหนื่อยน้อย

บางทีก็อยากให้เด็กที่เกลียดไม่ลืมหูลืมตาได้อ่านบ้าง

ยังไงซะธรุกิจก็ยังเป็นธุรกิจ

ผลกำไรย่อมสำคัญกว่าสิ่งใดในโลกล้า *0*

ก็หวังว่าเอสเอ็มคงหาทางดิ้นไปได้นะคะ

รอดูกันต่อไป ว่าจะโดนอัดกอบปี้เมื่อไหร่ =_=

ขอบคุณที่เอามาให้อ่านครับ

ถ้างานเยอะอย่างสาวๆเนี่ยมาอยู่เมืองไทยก็ได้ขับแลมโบกินี่กันสบายๆแล้ว สงสารน้องๆจัง

น่าสงสาร sm จริงๆเลย
ผมว่ามันก็จริงนะ ถ้า sm ไม่ทำแบบนี้ แล้วศิลปินจะได้เงินกันสักเท่าไหร่เชียว
ไม่รู้ว่าที่ทำงานไปมากมาย จะได้เงินเท่าดาราไทยรึเปล่า ?


อ่านไปก็รู้สึกว่า ดีแล้วละที่ sm ทำแบบนี้
รู้สึกเป็นวงการที่น่ากลัวจริงๆ


อยากให้อีกหลายๆคนได้อ่าน จะได้เข้าใจอะไรมากขึ้น

กลัวว่าเจ้าบริษัทใหญ่จะฮุบเอสเอมจัง

ถ้าข่าวนี้เป็นความจริง SM ก็"เกือบ"น่าเห็นใจนะครับ
แต่ที่น่าเห็นใจ และ ควรจะเห็นใจที่สุด ยังไงก็ต้องเป็นศิลปินที่อยู่ในสังกัดนะครับ

ถ้ารบ.เกาหลีใต้จะยื่นมือเข้ามาช่วยค่ายเพลง ก็ต้องออกมาอุ้มศิลปินให้ด้วยเหมือนกันนะครับ
เพราะถ้าถือว่าศิลปินในค่ายที่ทำสัญญาด้วยคือ"ลูกจ้าง" กฎหมายแรงงานเกาหลีใต้ก็ต้องคุ้มครองเรื่องการใช้แรงงานเกินควรเกินเวลา หรือค่าจ้างขั้นต่ำอยู่แล้ว
ไม่เช่นนั้นจะต่างอะไรกับการทำนาบนหลังคน ยังไงเสียเงินที่ได้มาทุกวอนก็ต้องหักให้บริษัทก่อนถึงลูกจ้างก่อนเสมอ
ถ้าได้น้อยกว่าที่ประมาณไว้ เค้าก็มีสิทธิ์ที่จะลดรายได้ของศิลปินลง,เพิ่มงานให้ชุกยิ่งขึ้น(เช่นไปโชว์ที่ร้านหมูกระทะ-อันนี้ประชด) เพื่อโกยให้ได้มากขึ้น
และศิลปินจะตายผ่อนส่งไปเรื่อย ๆ โชว์ต่าง ๆ ก็ลดคุณภาพลง(เพราะหักโหม) เสื่อมความนิยมลง(โผล่ไปทุกที่) รายได้เข้าบริษัทลดลง
....พอหมดสัญญากับค่าย หากค่ายเล็งเห็นแล้วว่าคงไม่ได้ผลประโยชน์อะไรจากศิลปินคนนี้แล้ว หรือศิลปินเบอร์นี้แป๊ก ก็ไม่ต่อฉบับใหม่ให้
และสุดท้าย ศิลปินที่ขายไม่ออกก็โดนลอยแพ.......จบ

น่าสงสารศิลปิน

ต้องโดนเคราะห์กรรมจากธุรกิจ

เฮ้อๆๆๆ รู้สึกเห็นด้วยกะ sm จริงๆ

ไม่งั้นคงไม่มีรายได้แน่ๆเลย

สงสาร SM เหมือนกันนะเนี่ย พวกที่ด่าแบบไม่ลืมหูลืมตา น่าจะได้ดูบ้าง

ขอบคุณมากๆค่ะ เข้าใจอย่างถ่องแท้เลยในเรื่องธุรกิจ และก็เข้าใจในส่วนของSMและMnetด้วย

มิน่าล่ะ เหตุผลเพราะท่างฝ่ายMnetเองอยากจะได้SMมารวมอยู่ด้วย แต่SMขอปฎิเสธ

เพราะคงจะรู้สินะว่าถ้ารวมตัวกันไป จากที่ไม่ค่อยมี ยิ่งไม่มีเลย ทางด้านการเงิน

ผลประโยชน์เลยจะต้องตกเป็นฝ่ายของทางMnetไป ถือว่าที่ทุกวันนี้SMอยู่ได้เพราะลำเเข้งตัวเองนะ

รวมถึงศิลปินด้วย เข้าใจเลยทำไมศิลปินถึงทำงานกันอย่างหักโหมและฝึกมาหลายปีเอามากๆ

เพื่อต้องการให้ดีที่สุดเเละมีประสิทธิภาพนี่เอง แต่ก็นะรายได้ ผลประโยชน์เอย หรือในส่วนของดิจิตอลอื่นๆ

SMได้จากตรงนี้น้อย เพราะกำไรโดยส่วนใหญ่ตกไปที่SK ถึงรู้เลย ทำไมถึงมีสัญญาทาสเกิดขึ้น

อย่างในกรณีของดงบังเเละSMเอง คือดงบังเขาฝึกมาหนัก รายได้ที่ทำให้ก็มากมายมหาศาลแต่สิ่งที่ได้กลับมามันน้อยไป

เหมือนไม่มีคุณค่า แต่ถ้าให้มากเกินไป SMก็หมดกันเลยนะ รวมไปถึงยิ่งถ้าสมาชิกในวงมีมากแล้วด้วย

นี่ก็ยิ่งหารย่อยยับเลย อย่างเช่นพี่สาวและเอสเจ คนนึงจะได้เท่าไรกันเชียว

คิดแล้วเศร้า ที่เบื่องหลังมันเป็นแบบนี้
แม่ถ้ามีเงินซัก1000ล้านจะไปช่วยSMซักหน่อยจะได้พ้นจากพวกหน้าเลือด

โลกเรามันก็งี้แหละ ที่รวยสุดท้ายมันก็นักธุรกิจทั้งนั้น

อะไรๆก็เป็นธุรกิจ น่าสงสารสาวๆสงสารศิลปินที่ต้องเหนื่อย
แต่ได้รับค่าตอบแทนที่น้อยมากๆ TT

สลดใจดีคับ +.+

เพนนี
เหนื่อแทนจริงๆ
ฮ่า ๆ

โซชิ ไฟท์ติ้ง

โห .. ได้ความรู้มากเลยครับ

สงสารศิลปินจัง

โอ๊ย เซ็ง
โลกนี้มีแต่คนเห็นแกได้ เห็นแก่ตัว

ไม่รู้จะทำไงดี
เศร้าแทน T_T

เงินที่เต็มใจซื้อแผ่น
พี่สาวก้อไม่ได้
เป็นใครไม่รู้ที่ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนได้ไป

เฮ้อ นะ บริษัทเพลงในเกาหลีนี่ชักใยกันวุ่นวายดีจัง
ศิลปินเป็นได้แค่คนทำงานตัวเล็กๆ ถึงว่า ไม่ค่อยรวยกันเท่าไหร่
ทั้งๆที่งานเยอะขนาดนั้น
ถ้าเทียบกับฝั่งอเมริกา นี่ คนละขั้วเลยอ่า
อิทธิพลของศิลปิน เหนือกว่าค่ายเพลงเห็นๆ

ปล.เรื่องSM มันก็คงเป็นความฝัน ของ CEO เค้าด้วยละนะ ว่าจะยืนเป็นบริษัทเดี่ยวให้ได้
(ถ้ายืนได้เนี่ย ศิลปินในสังกัดคงจะสบายขึ้น แล้วก็คงจะได้ผลประโยชน์มากกว่าศิลปินค่ายอื่น)
ก็เลยต้องทำมันทุกทาง แม้แต่แกล้งลืมขีดจำกัดของศิลปิน
แต่คงจะไปไม่ถึงฝันซะแล้วล่ะนะ ก็โดนโจมตีจากทั้งข้างในข้างนอกเลยนี่นา


ขอบคุณสำหรับทรานซ์ค่ะ ได้รู้อะไรดีๆเยอะเลย

มันก้อคงเปนเกมธุรกิจโดยทั่วไปแหละค่ะ

ใครก้ออยากจะยืนอยู่ในวงการด้วยกันทั้งนั้น

ไม่มีใครอยากตกต่ำหรือถูกลืมไป

ดังนั้นบริษัทก้อต้องทำทุกวิถีทางที่จะทำให้ตัวเองอยู่รอด

ศิลปินก้อเช่นเดียวกัน การที่จะอยู่ได้ก้อต้องอาศัยแรงหนุนจากบริษัท

มันก้อ น้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า ทั้งนั้นหละค่ะ